ขวัญกับเรียม และพี่เซียงเหมี่ยง; Student Visa + AAT + Partner Visa

ขวัญกับเรียม คู่รักกัน ทำวีซ่านักเรียนมาด้วยกันจากเมืองไทย

ความรักมันเป็นเรื่องของหัวใจ

ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้

เราไม่ judge ใครทั้งสิ้น

ขวัญกับเรียม หมดรักซึ่งกันและกัน 

ขวัญถือวีซ่านักเรียนติดตามเรียม

เรียมเป็นคนเรียน

เนื่องด้วยทั้งขวัญและเรียมเคยใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาก่อน ความเห็นอกเห็นใจกันก็ยังพอมี

เรียมเลือกที่จะไม่แจ้งไปที่อิมมิเกรชั่นเรื่องที่ขวัญกับเรียมเลิกกันแล้ว

เรื่องบางเรื่อง อิมมิเกรชั่นก็ไม่จำเป็นต้องรู้

ok นะ ก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าขวัญกับเรียมก็ยังเห็นอกซึ่งกันและกันอยู่

ตัดบัว แต่ก็ยังเหลือเยื่อใย 

เห็นอก เห็นใจกัน มันก็ดีนะครับ

แต่อย่าลืมว่า charity starts from home

ดูแลตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปดูแลคนอื่น

ถ้าดูแลตัวเองก่อนได้แล้ว แล้วค่อยไปดูแลคนอื่น

เหมือนการสวมหน้ากาก oxygen เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินบนเครื่องบินนะครับ

ขวัญกับเรียมก็คุยกันเอาไว้ว่า

ให้เรียมช่วยขวัญไปก่อน คือขอวีซ่านักเรียนด้วยกันอีกรอบ โดนที่ให้เรียมเป็นคนสมัคร (main applicant) แล้วขวัญติดตามเหมือนเดิม

แต่วีซ่านักเรียน มันก็ไม่ได้ผ่านกันได้ง่าย ๆ

วีซ่านักเรียนของขวัญกับเรียมไม่ผ่าน

ทั้งขวัญกับเรียมมีเวลาในการอุทรณ์แค่ 21 วัน

ทั้งขวัญและเรียมต้องรีบจัดการชีวิตตัวเองให้เรียบร้อย ภายใน 21 วัน

เรียมพบรักใหม่ คนไทยที่เป็น PR/Citizen ที่นี่ "พี่เซียงเหมี่ยง"

พี่เซียงเหมี่ยงอยากทำเรื่อง Partner Visa ให้กับเรียม

ซึ่งมันก็จะเข้าข่ายกับ case ของ "มะเมี๊ยะ" ที่เราเคยเขียนไปแล้วใน blog 

แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือความซับซ้อน และความสัมพันธ์คาบเกี่ยวกับขวัญ

เรียมก็ต้องจัดการชีวิตของตัวเองแล้วหละ

ขวัญเองก็ต้องจัดการชีวิตของตัวเองแล้วหละ

จะมามัวติดตามกันไม่ได้

ไม่งั้นคงจมน้ำตายด้วยกันทั้งคู่

สิ่งที่เรียมควรทำก็คือ:

1. อุทรณ์ไปที่ AAT ภายใน 21 วัน

2. อุทรณ์โดยที่ไม่มีชื่อขวัญเข้าไปด้วย เพราะถ้าอุทรณ์แล้วเอาชื่อขวัญ เข้าไปด้วย ทุกอย่างก็จบ เพราะแสดงว่าเรียมกับขวัญยังมีความสัมพันธ์อยู่ คงจะไม่ make sense ที่จะทำ Partner Visa กับพี่เซียงเหมี่ยง

3. เรียมต้องกรอก form 1022 เพื่อแจ้งกับอิมมิเกรชั่นว่าความสัมพันธ์กับขวัญได้จบลงแล้ว, form 1022 ต้องทำเป็น paper-based application นะครับ เพราะ case ของขวัญกับเรียม finalised ไปแล้วที่อิมมิเกรชั่น เราจะแจ้ง update ข้อมูลใน ImmiAccount  ไม่ได้

4. ในระหว่างที่รอเวลาจาก AAT ซึ่งก็น่าจะรอเวลาได้ประมาณ 1.5 - 2 ปี ซึ่งก็ถือว่านานสำหรับเรียมในการจัดการชีวิตและเตรียมเอกสารเพื่อที่จะทำ Partner Visa กับพี่เซียงเหมี่ยง

เมื่อถึงจุดที่ต้องเลือก เราก็ต้องเลือก

และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา

รักตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปรักคนอื่น

เมื่อไหร่ที่เรารักตัวเองได้มากพอแล้ว เราถึงจะไปรักคนอื่นได้

...เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญของเรียม...

Copyright: ถ้าจะแชร์ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น ไม่ copy & paste, ไม่ screen capture.

เขียนเองทุกตัวอักษร

Partner Visa ภาษาหัวใจ ขวัญกับเรียม

Partner Visa; Subclass 820/801, Subclass 309/100

ความรักเป็นภาษาของหัวใจ จะเพศเดียวกันหรือต่างเพศ จะสูงขาวดำเตี้ยอะไรก็ตามแต่ ถ้ามันได้รักกันแล้ว แต่งงานกันแล้วก็ทำเรื่องได้เลยกัน ขอเพียงให้เรารักกันจริง ตราบจนชั่วฟ้าดินสลาย เหมือนขวัญกับเรียม และสามารถพิสูจน์ได้ว่า ความรักระหว่างขวัญกับเรียมนั้น

• genuine, ขวัญกับเรียมต้องรักกันจริง ไม่ได้จ้างแต่ง หรือญาติทำให้ญาติ
• long-term, long-term ในที่นี้คือทั้งคู่ plan จะอยู่ด้วยกันยาว ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรนะครับ 
• continuing, ก็ประมาณว่า ขวัญกับเรียมยังรักกันอยู่ ยังไม่หมดรัก ถ้าเลิกกันในระหว่างที่รอวีซ่า ทุกอย่างก็จบ วีซ่าไม่ผ่าน

หาเราสามารถโชว์ได้ 3 อย่างนี้ ทุกอย่างก็ไม่น่าจะมีปัญหา

1. ใครใคร่จดทะเบียนสมรสจด

2. ใครใคร่จด register of relationship จด

3. ใครไม่ต้อการจดอะไรเลย ก็ไม่เป็นไร ก็ต้องเก็ยเอกสารให้ครบ 12 เดือน

การจดทะเบียนความสัมพันธ์ (register of relationship):

• การจด register of relationship สามารถทำได้เฉพาะแค่บางรัฐเท่านั้น
• การจด register of relationship สามารถนำเอาใบเสร็จที่จ่ายตังค์มาขอ Partner Visa แบบ defacto ได้เลย
• การจด register of relationship สามารถทำได้ทั้งคู่รักเพศเดียวกัน หรือคู่รักต่างเพศ 
• การจด register of relationship มีข้อดีคือ ถ้าอยู่มาวันหนึ่ง ทั้งคู่ต้องเลิกลากันไป ทั้งคู่ก็แค่เก็บข้าวของ แล้วเดินจากกันไป ไม่ต้องไปทำเรื่องหย่าให้เสียเวลา
• การจด register of relationship, เราไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันถึง 12 เดือน 

มีประโยชน์โปรดแชร์

Copyright: ถ้าจะแชร์ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น ไม่ copy & paste, ไม่ screen capture.

นายจ้างจะยกเลิกวีซ่า

วีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น Subclass 482, Subclass 494, Subclass 186 หรือ Subclass 187

พอนายจ้างกับลูกจ้างมีปัญหากัน

นายจ้างจะชอบว่า "เดี๋ยวฉันจะยกเลิกวีซ่าเธอ"

1. นายจ้างไม่ใช่อิมมิเกรชั่น ไม่ใช่ case officer นายจ้างไม่มีสิทธิ์ยกเลิกวีซ่าเราครับ

2. นายจ้างมีสิทธิ์ "แค่" inform the Department เท่านั้นว่าเรื่องราวมันเป็นแบบนี้ ๆ

3. ส่วนอิมมิเกรชั่นหรือ case officer จะ takes action อะไรหรือเปล่านั้น ก็แล้วดุลพินิจของ case officer

4. ทุกครั้งที่จะมีการยกเลิกวีซ่า case officer หรืออิมมิเกรชั่นจะ email มาหาคนที่ถือวีซ่าเสมอ ให้โอกาสในการอธิบาย นั่น นี่ โน่น

5. อะไร ใด ๆ ทุกการยกเลิก สามารถอุทธรณ์ได้

ศึกษารู้เท่าทัน

เรื่องบางเรื่องปรึกษาคนที่มี MARN

JPP 51% PTY LTD; คงจะดีไม่น้อย

 

1. คงจะดีไม่น้อยถ้ามีใคร set ธุรกิจขึ้นมา แล้วมีโจทย์ในการทำเรื่องวีซ่าตั้งแต่แรกเลย คือ ทำอะไรถูกต้อง payslip ได้ standard น้อง ๆ เอาไปทำ Skill Assessment ได้

2. คงจะดีไม่น้อยถ้ามีร้านอาหารที่ set ขึ้นมาที่มียอดขายที่สามารถทำเรื่องสปอนเซอร์พนักงานได้ Chef x 2, Cook x 2, Restaurant Manager x 2 ก็ทำเรื่องได้ 6 คนนะ

3. คงจะดีไม่น้อย ถ้าใครพอมีต้นทุนอยู่บ้าง set ร้านขึ้นมาเองเลย ไม่ต้องไปเข้าคิวของร้านนั้น ร้านนี้ กว่าจะถึงคิวเรา เหงือกแห้งพอดี set ร้านขึ้นมา แล้วให้ "JPP Group 51%" เข้าไปช่วยดูระบบให้ 1-2 เดือน ที่เหลือน้อง run ต่อเอง พอน้องได้ PR น้องก็ run ร้านนั้นต่อ หรือ spin off ออกไปอีกสาขา (อย่าลืมว่าเราทำได้ 6 คน) แล้วใช้สาขาใหม่ทำเรื่องให้พนักงาน ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เป็นสถานที่ผลิต PR มันน่าจะดีนะ และน้อง ๆ เหล่านั้นก็ได้ PR แล้วยังสามารถ spin off ออกไป แล้วก็สปอนเซอร์รุ่นต่อ ๆ ไป เราว่าน่าจะดีไม่น้อย

หรือร้านนวดนอกเมือง ก็ทำ Subclass 494, Subclass 191 ได้ PR

4. คงจะดีไม่น้อยที่ใครพร้อมจะร่วมงานกับเรา 49:51

5. ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แต่ก็น่าจะดีกว่าที่ทำอะไรโดยที่ไม่มีพี่เลี้ยงเลย

เราหนะพร้อมแล้ว

แล้วคุณหละ พร้อมหรือยัง

JPP Media ก็จดทะเบียนเอาไว้แล้ว พร้อม spin off ในการ promote ธุรกิจเหล่านี้ให้

อะไรมันจะครบวงจรแบบนี้

เมื่อศีลเสมอ เราจะได้ร่วมงานกัน