ครอบครัวเราและอีก 2 ครอบครัวจะไปมาหาสู่กันตลอด แต่ก่อนเจอกันทุก weekend สลับกัน host
ตอนนี้ไม่ได้เจอกันทุก weekend แล้ว
แต่เจอกันแทบทุก 1-2 week อยู่แล้ว
เป็น 3 ครอบครัวที่อยู่กันแบบเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เวลาครอบครัวเราไป Hurstville เราก็มีของกินมาฝากเพื่อนอีก 2 ครอบครัวนี้เสมอ ครอบครัวเพื่อนก็เหมือนกัน เวลาพวกเขาไป Hurstville พวกเขาก็จะมีของกินมาให้เสมอ พวกเราค่อนข้างรู้ว่าแต่คนชอบกินอะไร
มันเป็นอะไรที่ใจฟู
เพื่อนชาวต่างชาติ ถือ passport ประเทศ xyz
เพื่อนไม่สามารถมี dual citizen ได้ เขาก็เลยต่อ PR ไปเรื่อย ๆ
ประเทศของเพื่อนสามารถขอ Subclass 601 ETA; Electronic Trael Authority ได้ง่าย กรอกฟอร์ม 20 นาที autogrant แต่ต้องขอนอกประเทศนะครับ และอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน
ปรกติเพื่อน ๆ ก็จัดการเรื่องวีซ่าอะไรของพวกเขาเอง เขาเป็น PR อยู่แล้ว อยู่ที่นี่มา 20 กว่าปี
เมื่อหลายปีก่อน (เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่) คุณพ่อคุณแม่ของเพื่อนก็เที่ยวที่ออสเตรเลีย พวกเขาก็ขอ ETA กันเองตามปรกติ เผอิญว่าคุณแม่อยากจะอยู่ต่อ ซึ่งมันก็ขอ ETA ไม่ได้เพราะมันเป็น onshore คุณแม่ของเพื่อนต้องขอ Subclass 600; Tourist Visa ปรกติ
ด้วยความที่ว่าเราก็เจอเพื่อนบ่อยอยู่แล้ว สมัยก่อนก็เจอกันแทบทุก weekend พวกเราจะไม่เคยคุยเรื่องวีซ่าเพราะเราก็ take it granted ว่าเพื่อนเรา handle เองทุกอย่างและพวกเราก็ไม่ก้าวล่วงเรื่องส่วนตัว ถ้าเพื่อนต้องการความช่วยเหลือ เพื่อนจะเอ่ยปากเองแหละ (อันนี้เราก็คิดเองเออเอง)
เมื่อหลายปีก่อน ช่วงนี้เราก็เรียน ป.โท ไปด้วย
งานก็ต้องทำ เรียนก็ต้องเรียน
เพื่อนก็คงเห็นเรายุ่ง ๆ เพื่อนเลยไม่ได้บอกอะไร
เมื่อหลายปีก่อน ใช่ว่าทุกคนจะมี ImmiAccount และอิมมิเกรชั่น office ที่ Lee St, Sydney (Central) มันก็ยัง walk-in ได้อยู่
เพื่อนก็ต้องขับรถจาก Wollongong ไป Sydney เพื่อไปถามอิมมิเกรชั่นว่าต้องทำอะไร; 1-2-3-4
ตอนนั้นที่อิมมิเกรชั่น office ที่ Lee St ตรง counter จะมี computer ให้คนทั่วไปใช้
พนักงานที่ reception ชี้ไปที่ computer แล้วบอกให้เพื่อนเรากรอก online application ให้คุณแม่
เพื่อนอยู่ที่นี่มาหลายปีก็จริง ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้เก่งเวอร์
ใช้ computer ใช้ internet ก็งู ๆ ปลา ๆ (สมัยเมื่อหลายปีก่อน)
เพื่อนขับรถไปมา Wollongong - Sydney หลายรอบอยู่กว่าจะทำเรื่องให้คุณแม่เสร็จ
ผ่านไปสักพัก หลาย week เพื่อนถึงมาเล่าให้ฟังว่า เขาทำแบบนี้แบบนี้ ทำวีซ่าให้คุณแม่นะ ขับรถ Wollongong - Sydney หลายรอบมาก
บอกเลยว่าเรารู้สึกผิดมากตอนนั้น
เราก็บอกว่า "เดี๋ยวก่อนนะ you ขับรถไปกลับ Wollongong - Sydney หลายรอบเพื่อขอวีซ่าท่องเที่ยวให้คุณแม่??"
คือเราสามารถทำ online ให้คุณแม่ของเพื่อนได้เลย
เชื่อเถอะ 1-2 ชั่วโมงก็เสร็จ
คือเราเจอกันแทบทุก weekend อยู่แล้ว (สมัยนั้น) แต่เพื่อนก็ไม่เคยพูดอะไร
เพื่อนบอกว่า เพื่อนเห็นว่าเรายุ่งมาก ไม่อยากรบกวน มันเล็ก ๆ น้อย ๆ เดี๋ยวเขาจัดการเอง
ยอมรับเลยว่าตอนนั้นเรารู้สึกผิดมาก
เรา take things for granted
เรามัวแต่ยุ่งทำงาน หาเงิน จนลืมดูแลคนที่ใกล้ตัวพวกเรามากที่สุด
เราเลยบอกเพื่อน ๆ ทั้ง 2 ครอบครัวว่าต่อไปทุกเรื่องเกี่ยวกับวีซ่า ขอให้บอกเรา เดี๋ยวเราจัดการให้เองได้ ต่อให้ยุ่งแค่ไหน เราก็จะดูแลคนที่อยู่ใน "inner-circle" ของเราก่อน ทุกอย่างมันทำ online ได้ง่าย (สมัยโน้น ImmiAccount ยังใหม่อยู่)
ทุกวันนี้เราก็ต่อ PR; RRV นั่น นี่ โน่นให้เพื่อนและคนในครอบครัวของเพื่อนมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
เราทำให้เพื่อนฟรี ๆ อยู่แล้ว แค่เพื่อนต้องจ่ายค่าสมัครเอง
ลูกของเพื่อนเกิดที่นี่ แต่เพื่อนก็เลือกที่จะให้ลูกถือ passport ประเทศของเขา เพราะประเทศเขาถือ dual citizenship ไม่ได้
เวลาผ่านไปหลายปี ลูกเรียน high school แล้ว โตแล้ว ลูกอายุเกิน 10 ขวบมานานแล้วหละ แต่ลูกของเพื่อนก็ยังถือ passport ประเทศนั้นอยู่
เมื่อมาถึงจุดที่มันต้องเลือก
เพื่อนก็เลยบอกให้เรายื่น citizenship ให้ลูกเขา ซึ่งหมายความว่าลูกเขาก็ต้องยกเลิก citizenship ประเทศนั้น
แน่นอนเราทำให้ลูกของเพื่อนฟรี ๆ อยู่แล้ว คนในครอบครัวเขา ก็เหมือนคนในครอบครัวของเรา
3 ครอบครัวนี้อยู่ด้วยกันมานาน
มิตรภาพยั่งยืน
เราจ่ายค่าสมัครให้ลูกของเพื่อนด้วย
เพื่อนไม่ต้องจ่ายค่าสมัคร แค่ทำอาหารมาให้เรากินก็พอ
เราไม่มีพรสวรรค์ทางด้านอาหาร
เพื่อนมีพรสวรรค์ทางด้านการทำอาหาร
แค่เพื่อนคอยส่งอาหารส่งน้ำก็เป็นบุญปากเราแล้ว
เราก็ได้ทำหน้าที่ของเพื่อนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะเราสัญญากับดิน ลม ฟ้าและอากาศว่าจะไม่ให้เหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อนเกิดขึ้นอีกเด็ดขาดที่เราละเลยเพื่อนที่เราเจอกันแทบทุก week แล้วเขาต้องวิ่งเต้นเรื่องวีซ่าเอง มันดูไม่ถูกต้อง
อย่ามัวดูแลคนอื่น จนลืมดูคนใกล้ตัวนะครับ
อย่า take things for granted
โปรดอย่าเป็นเช่น P' J
No comments:
Post a Comment