Nomination

Stage 1; Nomination ของ Subclass 186 หรือ Subclass 187 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Stage 2; Nomination ของ Subclass 482 หรือ Subclass 494 นะครับ

ชื่อ "Nomination" เหมือนกัน
แต่ใช้ร่วมกันไม่ได้
ต้องยื่นใหม่ทุกครั้งสำหรับพนักงานคนนั้น ๆ

ที่ใช้ร่วมกันได้ ก็มีแค่ Stage 1: Standard Business Sponsor (SBS) ของ Stage 1 ของ Subclass 482 และ Subclass 494 ที่ใช้ร่วมกันได้ 5 ปี

โปรดแยกกันให้ออก

Police check

วีซ่าส่วนมาก ยกเว้นวีซ่านักเรียนและวีซ่าท่องเที่ยว ทำ police check เอาไว้เลยครับ

ค่าบริการแต่ละ case ของเราไม่เท่ากัน

police check คือตัวชี้วัดค่าบริการ

ไม่ว่าทุกคนมีประวัติอะไรมา ทุกคน deserve a second chance

แต่ค่าบริการก็จะคิดไปตามความยากง่ายของคดี

คนเราผิดพลาดในชีวิตได้

แต่ไม่ควรผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก

มันเป็น common sense ที่รัฐบาลเองก็ไม่อยาก import คนที่มีปัญหาเข้าประเทศ

เหนือสิ่งอื่นใด

มาจับเข่าคุยกันก่อนครับ อันไหนยื่นได้บ้าง อันไหนควรรอ

ที่สำคัญคือ "ช้างตายทั้งตัว" เราจะไม่เอาใบบัวมาปิดนะครับ เราก็ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แล้ว "แก้ไข ปรับปรุง"

เราทำงานอยู่ตรงจุดนี้มา 17 ปีแล้ว

เห็นมาแล้วแทบทุกอย่างครับ

PR and RRV; Resident Return Visa

PR ที่ออกไปอยู่นอกประเทศนาน ๆ ถ้าต้องขอ RRV; Resident Return Visa, คุณจะต้องมี something ที่ ties to the country นะครับ ไม่ว่าจะเป็น social, economic หรือ family connections ที่จะทำให้คุณกลับมาอยู่ประเทศออสเตรเลีย


ส่วนจะ tie to the country แบบไหน อะไร อย่างไร

โปรดปรึกษา MARN หรือ Legal Practitioner ของคุณ


ไม่เอาเปรียบ ไม่ใช้บริการฟรีนะครับ

ธุรกิจมีค่าใช้จ่าย

FIFO Boy

น้อง FIFO; Fly In Fly Out บินตรงมาจากเหมือง ออกจากเหมืองก็ตรงดิ่งมาที่ Sydney จากสนามบินตรงดิ่งไปหา P' J ที่ Wollongong ยังไม่ได้เข้าบ้านตัวเองด้วยซ้ำ

เรานั่งคุยกัน 1hr

เสร็จแล้ว P' J ก็ส่งน้องขึ้นรถไฟกลับเข้า Sydney

ไป check-in ที่โรงแรม

ค้างที่ Sydney 1 คืน

แล้วบินกลับบ้านวันรุ่งขึ้น

อยู่ไกลแค่ไหน ถ้าคนเขารักเขาก็มาครับ

ทุกวันนี้ P' J ทำงานแค่กับคน circle เล็ก ๆ 

เล็ก ๆ เฉพาะคนรู้ใจ แบบนี้มีความสุขมากกว่า ไม่เครียด ไม่ปวดหัว เดี๋ยวหน้าไม่เด้ง

ไม่ทำงานเยอะครับ เดี๋ยวใช้เงินไม่ทัน

กราบขอบคุณน้อง FIFO ที่บินตรงมาหา P' J เลย ยังไม่ได้เข้าบ้านด้วยซ้ำ

ทำงาน FIFO ร่างกายต้องฟิตนะครับ และ mentally ก็ต้อง strong ด้วย ใช้ชีวิตท่ามกลางทะเลทราย เงินดีจริง แต่ working condition ก็โหดมาก

P' J เอาใจช่วยนะครับ หากเรื่องวีซ่านี้จบลง น้องคงจะได้ขยับขยายกลับมาใช้ชีวิตแบบคนทั่ว ๆ ไปบ้าง ชีวิตคน FIFO ไม่ "ทั่วไป" ครับ P' J มีคนใกล้ตัวหลายคนทำงาน FIFO อย่าเชื่อพวกโลกสวยว่าได้เงินเท่านั้นเท่านี้ เงินเยอะจริงครับ แต่มันต้องแลกมากับอะไรหลาย ๆ อย่าง ลองให้ผัวกับเมียแยกกันอยู่บ่อย ๆ นะครับ อย่าลืมตรวจ DNA ของลูกด้วยว่าจริง ๆ แล้วใครเป็นพ่อ!!!

เหนือสิ่งอื่นใด คนทำงาน FIFO ต้องดูแลสุขภาพจิตของตัวเองนะครับ

P' J เจอมานักต่อนักแล้ว

ส่วนเรื่องวีซ่า

case ของน้องอยู่ในมือ P' J กับทีมงานแล้ว เราจะทำทุกอย่างให้เต็มที่ครับ ทุกอย่างต้องออกมาดี P' J เชื่ออย่างนั้น เดี๋ยวเราจะจุดพลุด้วยกันนะครับ

Bridging Visa; Onshore & Offshore

คุณพ่อ คุณแม่ และคุณลูก ยื่นวีซ่าพร้อมกัน 

ใน 1 application มีคนสมัครทั้งหมด 3 คน

1. คนที่อยู่ onshore, จะได้ Bridging Visa 

2. คนที่อยู่ offshore, จะไม่ได้ Bridging Visa

Bridging Visa ที่มาจากคำว่า "Bridge" ที่แปลว่าสะพาน

มันคือวีซ่าที่ให้คนสมัครรอเรื่องในประเทศได้

Bridge ที่แปลว่าสะพาน

ใครจะถึงฝั่ง

ใครจะตกสะพาน

ก็แล้วแต่ case-by-case

เรื่องวีซ่า โปรดปรึกษา MARN หรือ Legal Practitioner ของคุณ 

Subclass 482; เมื่ออิมมิเกรชั่นโทรหานายจ้าง

Subclass 482, Subclass 494, Subclass 186, Subclass 187; เมื่ออิมมิเกรชั่นโทรหานายจ้าง คำถามก็จะประมาณนี้

1. คุณได้ให้เอกสารหรือข้อมูลใครเอาไปยื่นข้อมูลให้กับอิมมิเกรชั่นหรือไม่
2. คุณจะทำเรื่องตำแหน่งอะไร
3. พนักงานคนนั้นชื่ออะไร
4. ค่าแรงเท่าไร
5. บริษัท Migrant Agent หรือทนายที่ทำเรื่องให้ชื่ออะไร
6. คุณจะยังทำเรื่องต่อให้เขาไหม

Subclass 186; TRT, Accountant

Subclass 186; TRT ตำแหน่ง "Accountant" ของเราผ่าน Stage 1; Nomination แล้ว

รอ 18 เดือน

Accountant ถ้านายจ้างหรือบริษัทไม่ใช่ Accounting firm ก็จะเป็นอะไรที่ทำเรื่องยากและนานนะครับ

ทาง case officer ก็ต้องดูว่าบริษัทนั้น ๆ มีความจำเป็นที่จะต้องจ้าง inhouse accountant มากน้อยแค่ไหน

Accountant แตกต่างจาก Bookkeeper นะครับ โปรดแยกกันให้ออก

บริษัทเล็ก ๆ แล้วต้องการทำเรื่องสปอนเซอร์ Accountant มันก็ไม่ค่อย make sense เท่าไร 

ถ้าบริษัทใหญ่ ๆ เงินหมุนเวียนเยอะ ๆ อันนี้ไม่น่าจะมีปัญหาครับ 💕💕💕

Health Waiver; 5 ปีผ่าน

กับ case บาง case ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ อาจจะไม่ใช่ตัวคนสมัครเอง แต่เป็นของคนในครอบครัวซึ่งก็มีผลต่อการสมัครวีซ่า

กับ case บาง case ที่เหมือนมีความลิบหลี่ เราก็สู้กันมา 5 ปีอย่างไม่ย่อท้อ

ทำเรื่อง Health Waiver กันถึง 2 รอบ เพราะบางทีอันแรกที่ส่งไป เมื่อเรื่องถูกพิจารณานาน เอกสารบางอย่างมันก็หมดอายุ เราก็ต้องส่งเรื่องเข้าไปใหม่ พร้อมกับข้อมูลที่ up-to-date และไม่เคยคิดค่าบริการเพิ่มแม้แต่บาทเดียว

เรื่องสุขภาพ เรื่อง Health Waiver บางทีก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อน (ไม่ขอลง detail)

กับ Health Waiver (สมัยก่อน) เราไม่คิดเงินเพิ่มแม้แต่บาทเดียว เราถือว่าเราคิดค่าบริการเป็น package แล้ว

อะไรที่อิมมิเกรชั่นขอมา เราก็ทำก็จัดการให้หมด ไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลา 5 ปี

ไม่ต้องถามว่าเหนื่อยไหม บอกเลยว่า "มากถึงมากที่สุด"

แต่ก็คุ้มที่สุดเช่นเดียวกัน

ผลออกมาว่า Heath Waiver ผ่านแล้ว

สุขภาพบางอย่าง ไม่ใช่กินยาแล้วหาย

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แล้วแต่เบื้องบนท่านจะให้อะไรมา สมบูรณ์บ้างไม่สมบูรณ์บ้างเราเลือกไม่ได้ ก็ต้องอยู่กับสิ่งนั้นให้ได้

แต่หนักสุดก็น่าจะเป็นเรื่องสภาพจิตใจ

ต้องเกิดขึ้นกับตัวเองเราถึงจะรู้

ในฐานะของคนทำงาน เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ดีใจที่ผลลัพธ์ออกมาดี

หวังว่าชีวิตหลังจากนี้ โลกคงไม่โหดร้ายกับน้องมากจนเกินไป

ฝ้าหลังฝน ช้าหน่อย... แต่ก็มา

กราบขอบคุณที่เลือกใช้บริการของเรา

ประสบการณ์ในการทำงาน

ประสบการณ์ในการทำงาน:

1. อะไรที่ไม่ได้รับค่าแรง ไม่ได้รับ remuneration benefits ก็ไม่สามารถนับรวมเป็นประสบการณ์การทำงานได้ อย่างเช่น ฝึกงานไม่ได้รับค่าแรง

2. อะไรที่ไม่สามารถ verify ได้ว่าทำงานจริง ก็ไม่สามารถนับรวมเป็นประสบการณ์การทำงานได้ อย่างเช่นการทำงานไม่เข้าระบบ ไม่ได้เสียภาษี ไม่มี payslip ต่าง ๆ นานา

อย่างนี้เป็นต้น

Partner Visa; Sponsor Limitation

Partner Visa; Sponsor Limitation

Sponsor อาจมีข้อจำกัดในการทำเรื่องให้แฟน หากมีคุณสมบัติดังนี้:

- เคย sponsor วีซ่าคู่ครอง (Partner Visa) รายอื่นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

- เคย sponsor วีซ่าคู่ครอง 2 คน (หรือมากกว่า) ตลอดชีวิต

- เคยได้รับอนุมัติวีซ่าคู่ครอง; Partner Visa ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

- ถือวีซ่า Women at Risk (204) (เป็นระยะเวลาน้อยกว่า 5 ปี)

- ถือวีซ่า Contributory Parent (เป็นระยะเวลาน้อยกว่า 5 ปี)

ทุกอย่างมีข้อยกเว้น โปรดปรึกษา MARN หรือ Legal Practitioner ของท่าน

Natural Justice

ในวันที่ลูกค้าโดน Natural Justice ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่

เราเขียนตอบกลับเข้าไปที่อิมมิเกรชั่นให้ครับ (จากข้อมูลที่ลูกค้าให้เพิ่มมา) ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มทั้งสิ้น

ทุก case ที่เรารับทำ เราคิดค่าบริการเป็น package อยู่แล้ว ไม่ว่าจะ subclass ไหน จ่ายทีเดียวจบ ไม่ยิบ ๆ ย่อย ๆ

กราบขอบคุณที่เลือกใช้บริการของเรา

สินค้าดีใช้แล้วช่วยบอกต่อ

วีซ่าขาด + Bridging Visa E ยื่น PartnerVisa offshore; Subclass 309 10 เดือนผ่าน

วีซ่าขาด + Bridging Visa E 

ยื่น Partner Visa offshore; Subclass 309 

10 เดือนผ่าน ได้ TR

บินเข้ามาได้เลยทันที:

- ได้ Medicare เลยทันที

- สามารถทำงานได้ ไม่จำกัดเวลา

- ไม่ต้องอยู่แยกกันกับแฟน

- 2 ปีนับจากวันที่ยื่น Subclass 309 ก็ยื่น PR ได้เลยทันที; Subclass 100

Partner Visa; ค่าบริการเรา เราคิดเป็น package; TR + PR ไม่เคยคิดแยก

จ่ายทีเดียวจบ ไม่ยิบ ๆ ย่อย ๆ

กราบขอบคุณที่เลือกใช้บริการของเรา

สินค้าดีใช้แล้วช่วยบอกต่อ

Partner Visa; defacto จาก ART สู่ TR และ PR

สมหมายกับสมปองเป็นคู่รักเพศเดียวกัน

สมหมายยื่นวีซ่านักเรียนแล้วโดนปฏิเสธ สมหมายยื่นอุทธรณ์ไปที่ ART (น้องยื่นเองหรือยื่นมาจากที่อื่น ไม่ได้ใช้บริการของเราในส่วนนี้)

สมหมายก็ถือ Bridging Visa A ตามปรกติ เพราะเรื่องอยู่ที่ ART แล้ว

สมปองเป็นคนที่นี่ เป็นคู่รักของสมหมายต้องการทำเรื่อง Partner Visa ให้ ทั้งสองไม่ได้จดทะเบียนสมรสแต่ก็จด de facto ในรัฐที่เขาอยู่

1. สมหมายขอ Bridging Visa B ($190) เพื่อบินออกไปนอกประเทศ ในระหว่างที่อยู่นอกประเทศ; 1-2 weeks เรายื่นเรื่องให้น้อง น้องก็บินกลับเข้าประเทศ

2. Subclass 309; สามารถรอเรื่องได้ภายในประเทศออสเตรเลีย น้องก็มี Bridging Visa A/B ตัวเดิมจาก ART อยู่แล้ว น้องก็อยู่รอไป หรือถ้าต้องการให้เรา link Bridging Visa เข้ากับ Subclass 309 เราก็ทำให้ได้ แต่เราก็ทำให้เฉพาะลูกค้าที่ยื่นเรื่อง Subclass 309 กับเราเท่านั้น

3. น้องรอวีซ่าทั้งหมด 6 เดือน วีซ่าน้องก็ผ่านแล้ว ได้ TR แล้ว ได้ Subclass 309 แล้ว (เรื่องที่ ART น้องก็ต้องทำเรื่องถอนเอง เพราะไม่ได้ยื่นกับเรา)

กราบขอบคุณที่เลือกใช้บริการของเรา

สินค้าดีใช้แล้วช่วยบอกต่อ