Tuesday, November 30, 2021

Hepatitis B; ไวรัสตับอักเสบ B



"Hepatitis B" หรือ ไวรัสตับอักเสบ B

Case ของเราที่ "J Migration Team" ผ่านทุก case ครับ

ได้ PR กันไปทุกคนสำหรับคนที่มี Hepatitis B หรือ ไวรัสตับอักเสบ B

ดังนั้นอยากจะให้ใจร่ม ๆ กัน

ผ่านหนะมันผ่านอยู่แล้วแหละ เพราะ Hepatitis B หรือ ไวรัสตับอักเสบ B มันไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร แต่คนที่เป็นจะต้องมีการรักษาและหาหมอตลอด ส่งผลตรวจตลอด พอผลตรวจเป็นที่น่าพอใจ วีซ่าก็ผ่านก็แค่นั้นเอง

มันก็อาจจะใช้เวลาในการรักษา ก็แค่นั้นเอง
ไม่อยากให้ตกใจ
ไม่อยากให้ panic กัน
ไปหาหมอตลอด แล้วส่งผลตรวจมาให้เรา ที่เหลือเดี๋ยวเราและทีมงานจะจัดการเอง

เมื่อค่าเลือดและค่าอะไรต่าง ๆ ในร่างกายเราดีขึ้น
วีซ่าก็ผ่าน ก็แค่นั้นเองครับ
เพียงแต่มันต้องใช้เวลา ต้องใจเย็น ๆ กัน

ที่ผ่านมา case ไวรัสตับอักเสบ B (Hep B) ของเราผ่านทุก case ครับ

ไม่ต้องเครียด
ทำใจร่ม ๆ 
ดำเนินชีวิตไปตามปรกติ
เราขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะครับ

ไวรัสตับอักเสบ B มันไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร
มันควบคุมได้ มัน control ได้
"เอาอยู่" จ๊ะ

Sunday, November 28, 2021

COVID-19 Concession; Subclass 482, Subclass 457

 


ช่วงสถานการณ์ COVID-19 มันก็มีการปิดประเทศ จำนวนคนอพยพเข้าประเทศก็น้อย แรงงานก็ขาดแคลน ทางรัฐบาลเองก็ต้องมีมาตรการออกมาเพื่อดึงดูดให้คนที่อยู่ที่นี่อยู่แล้ว ไม่ย้ายออกไปนอกประเทศ หรือดึงดูดคนที่เป็น higly skilled ให้อพยพเข้ามาอยู่ในประเทศออสเตรเลีย


เพื่อเศรษฐกิจของประเทศจะได้ไปต่อ

การสร้างงานก็ต้องดำเนินต่อไป

การลดจำนวนคนขอเงินช่วยเหลือ ขอเงินสวัสดิการก็ต้องน้อยลง ต่าง ๆ นานา

สำหรับคนที่อยู่ในประเทศออสเตรเลียอยู่แล้ว ที่ถือวีซ่าทำงานด้วยวีซ่า subclass 457 หรือ subclass 482 โดยเฉพาะคนที่ทำงาน:

1. เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข; health

2. เกี่ยวข้องกับอาหารและการท่องเที่ยว; hospitality และ

3. คนที่ทำงานอยู่ในเขตเมืองรอบนอก; regional

การเปลี่ยนแปลงนี้จะค่อย ๆ มีการประกาศออกมา

และจะมี pathway ไปเป็น PR สำหรับ:

1. คนที่คือวีซ่า subclass 482 อยู่แล้ว ถึงแม้จะอยู่ใน short-term list ก็ตาม

2. สำหรับคนที่ถือวีซ่า subclass 457 ที่อายุเกินกำหนด ก็จะมี pathway ไปเป็น PR ให้

ทางอิมมิเกรชั่นจะค่อย ๆ มีการประกาศและให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป

ตอนนี้ขอให้ทุกคน "ใจร่ม ๆ " กันไปก่อน จะกว่าจะมีการประกาศออกมาในครั้งต่อ ๆ ไป

ปัญหาทุกอย่างมีทางออกของมัน อย่าเพิ่ง give up


The Winner Never Quit

The Quitter Never Win.


Info as of 21 Nov 2021


COVID-19 concessions สำหรับวีซ่า subclass 485; Temporary Graduate Visa

 


หลังจากที่มีการเรียกร้องกันมานาน สำหรับวีซ่า subclass 485; Temporary Graduate Visa ที่หลาย ๆ คนเดินทางออกไปนอกประเทศ แล้วไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ ใครที่ได้รับผลกระทบแบบนี้ ถ้าถือวีซ่า subclass 485 ตั้งแต่วันที่หรือหลังวันที่ 01 Feb 2020 ก็จะสามารถขอวีซ่า subclass 485 อีกรอบหนึ่งได้ และจะได้ระยะเวลาของ subclass 485 เท่าเดิม


เริ่มสมัครใหม่ได้: 01 July 2022


และการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ จะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง

เริ่มจากวันที่ 01 Dec 2021 - 01 Jul 2022

จะมีการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้:

- Subclass 485 สำหรับคนที่เรียน Master degree by coursework ต่อไปจะสามารถขอได้ 3 ปี ให้เหมือนกับ Master degree by research

- Greatuate Work Stream ที่จบพวก College หรือ TAFE ต่อไปจะสามารถขอ subclass 485 ได้ 2 ปี แทน 1.5 ปี และไม่จำเป็นต้องเป็นสาขาอาชีพที่อยู่ใน occupation list


ก็ถือว่าเป็นข่าวที่ดีสำหรับวงการการศึกษานะครับ

การประกาศและการเปลี่ยนแปลงจะเริ่มค่อย ๆ implement ขึ้น

เริ่มจาก 01 Dec 2021

ก็รอประกาศจากอิมมเกรชั่นกันต่อไปนะครับ

ทุกอย่างเริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

As of 25 Nov 2021.



Friday, November 26, 2021

Bridging Visa B

ในหมวด Bridging Visa ทั้งหมด Bridging Visa B เป็น Bridging Visa ที่สามารถใช้เดินทางเข้าออกประเทศออสเตรเลียได้ ก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะได้เป็นเดินทางเข้าออกรอบเดียว (single entry) หรือเข้าออกประเทศได้หลาย ๆ รอบ (multiple entries)

Bridging Visa อย่างอื่นสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ แต่ไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาในประเทศออสเตรเลียได้ อย่างเช่น Bridging Visa A, Bridging Visa C หรือ Bridging Visa E

สรุปคือ "ออกไปแล้ว ออกไปเลย"

ปกติแล้ว Bridging Visa B ก็จะเป็น Bridging Visa ต่อเนื่องจาก Bridging Visa A, เพราะ Bridging Visa ตัวอื่นๆไม่สามารถขอ Bridging Visa B เพื่อเดินทางออกนอกประเทศได้

Bridging Visa B โดยความรู้สึกส่วนตัวแล้ว เป็นวีซ่าให้เปล่า คือ 99.99% ยังไง ๆ ก็ขอได้ ขอให้จ่ายค่าสมัครมาเถอะอะไรประมาณนี้ เพราะว่า Bridging Visa ตัวอื่น ๆ จะไม่มีค่าสมัครเลย ทางอิมมิเกรชั่นสามารถออกให้ได้เลย ก็มีแต่ Bridging Visa B นี่แหละที่ต้องจ่ายค่าสมัคร

Bridging Visa B ปกติแล้วเจ้าหน้าที่ที่ counter สามารถออกให้ได้เลยภายใน 5 นาที ถ้าเป็นที่ซิดนีย์ก็สามารถถือฟอร์มแล้วไปยื่นได้เลย เจ้าหน้าที่ก็จะโทรถาม case officer ว่า case เราใกล้จะออก ใกล้จะ finalize อะไรหรือยัง ถ้าไม่ใกล้ finalize ปกติแล้วก็เดินทางออกได้ ซึ่ง Bridging Visa B ก็สามารถเดินทางเข้าออกได้ถึง 3 เดือน

แต่ด้วยระบบ ImmiAccount ที่มีการพัฒนาและทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ 
ตอนนี้เราสามารถขอ Bridging Visa B ผ่านระบบ ImmiAccount ได้

Partner Visa; subclass 820 ถ้าขอ Bridging Visa B, "ส่วนมากแล้ว" ก็จะได้มา 12 เดือน

ถ้า case เราใกล้จะ finalise แล้ว เค๊าก็จะชะงักการออกวีซ่าของเรา แล้วให้เราเดินทางกลับเข้ามาก่อน แล้ว case officer ถึงจะ finalise วีซ่าของเรา

แต่การขอ Bridging Visa B นั้นเราก็ต้องให้เหตุผลด้วยว่าทำไมเราถึงจะต้องเดินทางออกนอกประเทศ ถ้าจะบอกว่า ไปเที่ยวอะไรประมาณนี้ก็อาจจะดูกระไรอยู่ ไม่เหมาะสม เราก็แนะนำให้บอกไปว่า กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ อะไรก็ว่าไปนะครับ

Bridging Visa A



หลาย ๆ คนสงสัยรื่อง Bridging Visa กัน
ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราค่อย ๆ มาเรียนรู้กันไปนะครับ

Bridging Visa A เป็นอะไรที่เราคุ้นเคยกัน เพราะเมื่อเรายื่นเรื่องวีซ่าเข้าไปแล้ว คนส่วนมากจะได้ Bridging Visa A

ถ้าเรายื่นขอวีซ่า Substantive visa (วีซ่าทุกอย่างที่ไม่ใช่ Bridging Visa) ภายในประเทศออสเตรเลีย เราก็จะได้ Bridging Visa A โดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะคนที่สมัคร online พอเราจ่ายตังค์เสร็จ click submit ปุ๊บ เราก็จะได้ Bridging Visa A เลยทันที 

ดังนั้นหลาย ๆ คนที่มีภาวะล่อแหลมวีซ่าใกล้หมด เราไม่แนะนำให้ยื่นวีซ่าเป็นแบบ paper-based เพราะถ้าเป็น paper-based กว่าจะยื่น แล้วกว่าจะจ่าย 2-3 วันถึงจะถึงมือเจ้าหน้าที่ แล้วถึงจะได้ Bridging Visa A

แต่ถ้ายื่น online พอเรา click จ่ายตังค์ และ click submit ปุ๊บ ก็ได้ Bridging Visa A มาเลยทันที โดยเฉพาะคนที่วีซ่าจะหมด ถ้าเรารีบ submit อะไรก็ตามก็รีบ ๆ submit เข้าไปก่อนเที่ยงคืน ที่เหลือแล้วค่อย upload เอกสารเข้าไปก่อนก็ได้

ดังนั้นถ้าใครสามารถขอวีซ่าภายในประเทศออสเตรเลีย onshore ได้ ก็แนะนำให้ขอภายในประเทศออสเตรเลีย เพราะเราจะได้ Bridging Visa A

แต่ถ้าเราสมัครมาจากข้างนอกประเทศ เราก็จะไม่ได้ Bridging Visa A

Bridging Visa A เป็นวีซ่าที่ไม่มีวันหมดอายุ จนกว่าวีซ่าที่เราจะไปนั้นจะ finalised ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน

"Bridge" แปลว่าสะพาน
สะพานก็คือการเชื่อมจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง

โดยส่วนตัวแล้ว เราคิดว่า Bridging Visa A เป็นสิ่งที่ดี เพราะเราสามารถรอผลวีซ่าของเราอยู่ภายในประเทศออสเตรเลีย ไม่ต้องออกไปรอนอกประเทศ
ในระหว่างที่รอเรื่อง เราก็สามารถทำงานได้ (ส่วนมาก) และสำหรับคู่รัก เราก็ได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่เรารัก ไม่ต้องแยกกันอยู่

Visa condition ของ Bridging Visa A นั้นไม่ตายตัวนะครับ กฎของ Bridging Visa A มีอยู่ว่า visa conditions ของ Bridging Visa A จะตาม visa conditions ของตัว substantive visa ตัวล่าสุดที่เราถือ ก็ประมาณว่า visa conditions อะไรเก่าที่เรามีอยู่ เราก็จะ continue visa condition นั้น ๆ ไป

แต่นั่นก็ไม่เสมอไป
เราต้องดู conditions ของวีซ่าของเราให้ดี ๆ 

วีซ่าตัวเก่าบางตัวก็อนุญาตให้เราทำงานได้ บางตัวก็ไม่อนุญาตให้เราทำงาน คนใหนที่มีวีซ่าอนุญาตให้เราทำงานได้ก็ดีไป 

- วีซ่าท่องเที่ยว ไม่สามารถทำงานได้ ถ้ายื่นวีซ่านักเรียนเข้าไป Bridging Visa A ที่ได้ก็คือ "ทำงานไม่ได้"
- วีซ่าท่องเที่ยว ไม่สามารถทำงานได้ ถ้ายื่น Partner Visa  (subclass 820/801) เข้าไป Bridging Visa A "สามารถทำงานได้"

ก็เอาเป็นว่า เราก็ต้องดู visa conditions ของเราให้ดี ๆ 

สิ่งสำคัญเกี่ยวกับ Bridging Visa A ที่ทุกคนควรจะรู้ก็คือ:

1. ถึงแม้ว่า Bridging Visa A จะได้มาโดยอัตโนมัติ Bridging Visa A จะไม่ take affect หรือมีผลใช้จนกว่า วีซ่าเก่า วีซ่า substantive จะหมดอายุ ดังนั้นวีซ่าอะไรที่เรามีอยู่แล้ว substantive visa เราก็ต้องทำตาม visa conditions ของวีซ่าตัวนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น วีซ่านักเรียน เราก็ต้องยังคงไปเรียนตามปกติ จนกว่าวีซ่านักเรียนจะหมด เพราะถ้าเราไม่ไปเรียน ทางโรงเรียนก็สามารถแจ้งอิมมิเกรชั่น และอิมมิเกรชั่นก็สามารถยกเลิกวีซ่าเราได้ เราก็จะกลายเป็นคนที่อยู่ที่นี่โดยผิดกฏหมาย; unlawful non-citizen แต่เราก็มีวิธีแก้ปัญหานี้ได้ครับ...

2. Bridging Visa A ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ เพราะจุดประสงค์ของ Bridging Visa A คืออยู่รอวีซ่าที่ประเทศออสเตรเลีย ถ้าเราจะเดินทางออกนอกประเทศเราก็ต้องขอ Bridging Visa B 

3. สาเหตุที่ Bridging Visa A ถึงแม้ว่าเราจะได้มาโดยอัตโนมัติ แต่ไม่ take affect จนกว่าวีซ่า substantive visa ตัวเก่าจะหมดไป ก็เพราะว่าคนคนหนึ่งจะสามารถมีวีซ่าได้แค่ 1 วีซ่าเท่านั้น คือไม่สามารถถือ 2 วีซ่า (หรือมากกว่า) ได้ภายในเวลาเดียวกัน ดังนั้นเวลาที่เรายื่นเรื่องขอวีซ่าภายในออสเตรเลีย แล้วได้ Bridging Visa A มา เราก็อย่าเพิ่งรีบดีใจ เราต้องรอให้วีซ่าตัวเดิมเราหมดสะก่อน

4. ทันทีที่เราเดินทางออกนอกประเทศออสเตรเลีย ทันทีที่เรารูด passport ของเราที่สนามบินหรือท่าเรือเพื่อเดินทางออกนอกประเทศ Bridging Visa A ของเราจะถูก cancel ทันที ดังนั้นทุกครั้งที่มีการเดินทางออกไปนอกประเทศ เราจะต้องขอ Bridging Visa B เพื่อที่จะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศได้

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเบื้องต้นของ Bridging Visa A

ถ้าใครคิดว่า blog ของเรามีประโยชน์โปรดแชร์
ขอความกรุณาไม่ copy and paste
ถ้าต้องการแชร์ให้แชร์จากต้น post ไปเลย
เราเขียนเองทุกตัวอักษร

Wednesday, November 24, 2021

01 Dec 2021; ประเทศค่อย ๆ เปิด



เมื่อมีคนฉีดวัคซีนมากขึ้น

เมื่อเศรษฐกิจของประเทศต้องก้าวเดินต่อไป

พร้อมหรือไม่พร้อม ประเทศก็ต้องมีการเปิดพรมแดนให้คนได้เดินทางเข้าออก ไม่งั้นเศรษฐกิจก็จะพัง หลาย ๆ คนก็ anxious กับการต้องอยู่แยกกันกับครอบครัว นักเรียนหลาย ๆ  คนที่ต้องเรียน online ซึ่งมันเป็นอะไรที่ไม่ work กับการจ่ายค่าเรียนแพง ๆ แล้วต้องมาเรียน online เรียนผ่าน Zoom ถ้าจะเรียนแบบนั้น เรียนฟรี ๆ ที่ไหนก็ได้ มีเยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเรียนแพง ๆ หรอก


Nov 2021: คนที่สามารถเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียได้ โดยที่ไม่ต้องขอ Travel Exemption คือคนที่เป็น PR, Citizen, Eligible New Zealander และคนในครอบครับ; พ่อ แม่ และลูก


สำหรับคนที่ถือวีซ่าชั่วคราว (Temporary Visa) เริ่มวันที่ 01 Dec 2021 ก็จะสามารถเดินทางเข้าประเทศได้แล้ว ถ้าฉีดวัคซีนครบ


แต่ละรัฐมีกฎและข้อบังคับของการกักตัวที่แตกต่างกันออกไป

ณ วันที่ 22 Nov 2021; รัฐที่ไม่ต้องกักตัวคือ NSW, VIC และ ACT 

อันนี้คือเท่าที่เราทราบนะครับ รัฐอื่น ๆ เราไม่มีเวลาติดตามข่าว ๆ จริง เพราะเขา update กันรายวัน ข้อมูลมันเยอะมาก


เริ่มวันที่ 01 Dec 2021, คนที่ถือวีซ่าชั่วคราวที่สามารถเดินทางเข้าออกประเทศออสเตรเลียโดยไม่ต้องขอ Travel Exemption คือ:


Subclass 200 – Refugee visa

Subclass 201 – In-country Special Humanitarian visa

Subclass 202 – Global Special Humanitarian visa

Subclass 203 – Emergency Rescue visa

Subclass 204 – Woman at Risk visa

Subclass 300 – Prospective Marriage visa

Subclass 400 – Temporary Work (Short Stay Specialist) visa

Subclass 403 – Temporary Work (International Relations) visa (other streams, including Australian Agriculture Visa stream)

Subclass 407 – Training visa

Subclass 408 – Temporary Activity visa

Subclass 417 – Working Holiday visa

Subclass 449 – Humanitarian Stay (Temporary) visa

Subclass 457 – Temporary Work (Skilled) visa

Subclass 461 – New Zealand Citizen Family Relationship visa

Subclass 462 – Work and Holiday visa

Subclass 476 – Skilled – Recognised Graduate visa

Subclass 482 – Temporary Skill Shortage visa

Subclass 485 – Temporary Graduate visa

Subclass 489 – Skilled – Regional (Provisional) visa

Subclass 491 – Skilled Work Regional (Provisional) visa

Subclass 494 – Skilled Employer-Sponsored Regional (Provisional) visa

Subclass 500 – Student visa

Subclass 580 – Student Guardian visa (ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น subclass 590)

Subclass 590 – Student Guardian visa

Subclass 785 – Temporary Protection visa

Subclass 790 – Safe Haven Enterprise visa

Subclass 870 – Sponsored Parent (Temporary) visa

Subclass 988 – Maritime Crew visa

วีซ่าชั่วคราวที่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วเท่านั้น ยกเว้น Johnson & Johnson ที่ฉีดเข็มเดียวก็พอ 

วัคซีนที่ได้รับการยอมรับของรัฐบาลออสเตรเลียมีดังต่อไปนี้ (as of 22 Nov 2021):

AstraZeneca Vaxzevria
AstraZeneca Covishield
Pfizer/Biontech Comirnaty
Moderna Spikevax
Sinovac Coronavac
Bharat Biotech Covaxin
Sinopharm BBIBP-CorV (for 18-60 year olds).
Johnson & Johnson/ Janssen-Cilag COVID Vaccine.

เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังต้องการกลับเข้าประเทศออสเตรเลียนะครับ ตอนนี้ทุกอย่างค่อย ๆ ดีขึ้น

ตอนนี้ก็มี subclass ไม่เยอะที่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้
อีกสักหน่อยก็น่าจะเปิดเสรีแล้ว
ใจร่ม ๆ กันนะครับ
ทุกอย่างต้องดีขึ้น

Tuesday, November 16, 2021

Student Agent บอกว่าเรียนตัวนี้แล้วขอ PR ได้

น้อง "ไข่ย้อย" มีความฝันที่จะเป็นพลเมืองของประเทศออสเตรเลีย

น้องถือวีซ่านักเรียน เรียนและสานฝันตามที่ทาง student agent ของน้องบอก

แต่ปัญหาคือ... แล้วเราจะรู้ได้ไงหละว่าวิชาหรือ course ที่ทาง student agent เลือกหรือแนะนำให้น้องเรียนนั้น มันสามารถต่อยอดและขอวีซ่าเพื่อเป็นคนหรือพลเมืองขอที่นี่ได้จริง


ก่อนอื่นเลย เราต้องแยกกันให้ออกก่อนว่า

- เรียนอะไรแล้วหางานทำได้ง่าย นั้น "อาจจะ" ไม่เหมือนกันกับ

- เรียนอะไรแล้วมีโอกาสต่อยอดได้ PR/Citizen


ถ้า student agent บอกว่า "เรียนตัวนี้แล้วสามารถขอ PR ได้" สิ่งที่น้องไข่ย้อยควรทำคือ ให้ student agent ของน้องไข่ย้อยเขียนเป็น roadmap ออกมาเลย ว่าหลังจากเรียนจบวีซ่านักเรียน subclass 500 แล้ว น้องไข่ย้อยต้องไปขอวีซ่าอะไรต่อ subclass อะไร ใช้เวลากี่ปี


อย่างน้อยก็เอาแบบคร่าว ๆ มาก็ยังดี

ไม่ต้องละเอียดเป๊ะเหมือนที่ทนายหรืออิมมิเกรชั่นเอเจนท์เขาทำกัน 


ทำออกมาเป็น step เลย; 1-2-3-4

เราจะได้มองเห็นภาพที่ชัดเจน

ไม่เอาแบบพูดปากเปล่า ลอย ๆ เป็นแค่ลมปาก

ทำเป็น roadmap มา

เขียนมาใน email หรือ MS-Word แล้วเราจะได้เก็บเอาไว้เป็น reference ได้


แล้วเราจะได้เอา roadmap ตัวนี้ไปขอ 2nd opinion กับคนอื่นได้


เป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ

ปัญหามันมีทางออกแหละ

ปัญหามันมีเอาไว้แก้ 

ค่อย ๆ แก้กันไปทีละเปราะ เดี๋ยวก็ได้ เดี๋ยวก็เจอ