Saturday, December 30, 2017

Feeling appreciate กับทุกสิ่งอย่างที่ได้มา


เมื่อวาน; 29 Dec 2017
เรากับครอบครับแวะไปหาพี่ "B" ที่ Shellharbour

พี่ "B" เพิ่งย้ายงานจาก Wollongong มา Shellharbour เราก็เงอะ ๆ งะ ไปผิดที่บ้างเล็กน้อย

แต่สุดท้ายก็หากันเจอ

เมื่อวาน แวะเอา cake ไปสวัสดีปีใหม่กับ "P' B"
ครอบครัวเราจะแวะเข้าไปสวัสดีปีใหม่กับ P' B ทุกปี เพราะเรารู้ดีว่า หากเราไม่มีเขาในวันนั้น มันก็คงไม่มีเราในวันนี้

ปี 2003, นานมาแล้ว เราก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่ไม่เคยทำธุรกิจอะไรมาก่อน รู้แค่ว่าอยากจะทำอะไรเป็นของตัวเอง ไม่อยากเป็นคนลูกจ้างคนอื่น ไม่อยากทำงานให้กับคนอื่น เราก็ได้ P' B คอยอยู่ช่วยงาน

ปีนี้ 2017, 14 ปีผ่านไป เราต่างคนต่างแยกย้ายไปทำในสิ่งที่เราทำ
เรากับครอบครัวก็ยังติดต่อกันกับ P' B อยู่

P' B คือหนึ่งในคนที่เราเปิดประตูบ้านต้อนรับด้วยความยินดี ปกติจะไม่เชิญใครหรือชวญใครมาที่บ้าน เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว

เมื่อวานนอกจากเจอ P' B แล้ว เราก็ไปเจอ "2 J" ด้วย
เพราะ "2 J" ก็อยู่ที่ Shellhabour เหมือนกัน

"2 J" ก็เหมือนกัน คือคนที่เราสนิทอยู่ในระดับหนึ่ง
เริ่มต้นจากการเป็นลูกค้า แต่ตอนนี้กลายเป็นเพื่อน กลายเป็นหนึ่งใน family members ไปแล้ว

เพราะลูกค้า visa subclass 457 ที่ "2 J" แนะนำมาให้เรา มีเยอะมาก และตอนนี้ไม่ใช่แค่ลูกค้า visa subclass 457 แล้ว, "2 J" แนะนำคนมาเยอะมาก... 

It's a long list.
It's truly through a word of mouth.

ปกติ น้อยมากที่เราจะมีเวลาไปนั่งทานข้าวกับลูกค้า เนื่องด้วยเวลาที่จำกัดในวันหนึ่ง และตัวเราเองก็ต้องการความเป็นส่วนตัว ต้องการอยู่กับครอบครัวมากกว่า

แต่ "2 J" คือลูกค้าที่เราไปนั่งทานข้าวด้วย ตอนที่ "2 J" จะย้ายจาก Wollongong NSW ไป Sunshine Coast QLD

คืนนั้น เรานั่งทาน dinner กันประมาณ 6.5 ชั่วโมง
เป็น dinner ที่นานที่สุดในชีวิต
เริ่มนัดทานข้าวกัน 6pm ทานจนร้านอาหารเลิก 10:30pm แล้วก็ไปต่อกันที่ Novotel North Wollongong จนถึง 12:30am

"2 J" คือหนึ่งใน "เล็ก ๆ เฉพาะคนรู้ใจ" จริง ๆ

Student visa มาด้วยกันกับแฟน, เลิกกับแฟนแล้ว, มีแฟนใหม่เป็นคนที่นี่, จะทำ Partner Visa


ขวัญกับเรียม เป็นคู่รักคนไทย เป็นสามีภรรยา ที่ทำวีซ่านักเรียนมาด้วยกันจากเมืองไทย

ความรักมันเป็นเรื่องของหัวใจ
ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้
เราไม่ judge ใครทั้งสิ้น

ขวัญกับเรียม หมดรักซึ่งกันและกัน 
ขวัญถือวีซ่านักเรียนติดตามเรียม
เรียมเป็นคนเรียน

เนื่องด้วยทั้งขวัญและเรียมเคยใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาก่อน ความเห็นอกเห็นใจกันก็ยังพอมี

เรียมเลือกที่จะไม่แจ้งไปที่อิมมิเกรชั่น เรื่องที่ขวัญกับเรียมเลิกกันแล้ว

oh dear... this is no good เพราะว่าตามกฎหมายของอิมมิเกรชั่นแล้ว

ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง circumstances แบบนี้ เราจะต้องแจ้งไปที่อิมมิเกรชั่นจ๊ะ

ok นะ ก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าขวัญกับเรียมก็ยังเห็นอกซึ่งกันและกันอยู่

ตัดบัว แต่ก็ยังเหลือเยื่อใย ว่างั้นเถอะ

เห็นอก เห็นใจกัน มันก็ดีนะครับ
แต่อย่าลืมว่า charity starts from home

ดูแลตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปดูแลคนอื่น
ถ้าดูแลตัวเองก่อนได้แล้ว แล้วค่อยไปดูแลคนอื่น

เหมือนการสวมหน้ากาก oxygen เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินบนเครื่องบินนะครับ

ขวัญกับเรียมก็คุยกันเอาไว้ว่า
ให้เรียมช่วยขวัญไปก่อน คือขอวีซ่านักเรียนด้วยกันอีกรอบ โดนที่ให้เรียมเป็นคนสมัคร (main applicant) แล้วขวัญติดตามเหมือนเดิม

แต่วีซ่านักเรียน มันก็ไม่ได้ผ่านกันได้ง่าย ๆ หรือขอกันได้ตลอด

วีซ่านักเรียนของขวัญกับเรียมไม่ผ่าน
ทั้งขวัญกับเรียมมีเวลาในการอุทรณ์แค่ 21 วัน

ทั้งขวัญและเรียมต้องรีบจัดการชีวิตตัวเองให้เรียบร้อย ภายใน 21 วัน

ก่อนหน้านี้เรียมก็เจอกับหนุ่มคนไทยหน้าตาดีคนหนึ่ง ชื่อ "พี่มาก"
พี่มากเป็น PR/Citizen ที่นี่ 

เรียมกับพี่มาก เคยเรียนมหาลัยเดียวกันมาก่อนที่เมืองไทย 
ทั้ง 2 เจอกันที่นี่อีกครั้ง

คนมันเคยรู้จักมาก่อน แรงดึงดูดเข้าหากันก็เยอะ

พี่มากอยากทำเรื่อง Partner Visa ให้กับเรียม
ซึ่งมันก็จะเข้าข่ายกับ case ของมะเมี๊ยะ แต่ที่เพิ่มเติมเข้าคือความซับซ้อน และความสัมพันธ์คาบเกี่ยวกับขวัญ

เรียมก็ต้องจัดการชีวิตของตัวเองแล้วหละ
ขวัญเองก็ต้องจัดการชีวิตของตัวเองแล้วหละ

จะมามัวติดตามกันไม่ได้

เพราะไม่งั้นคงจมน้ำตายด้วยกันทั้งคู่

สิ่งที่เราอยากจะแนะนำให้เรียมทำก็คือ:
  • อุทรณ์ไปที่ AAT ภายใน 21 วัน
  • อุทรณ์โดยที่ไม่มีชื่อขวัญเข้าไปด้วย เพราะถ้าอุทรณ์แล้วเอาชื่อขวัญ เข้าไปด้วย ทุกอย่างก็จบ เพราะแสดงว่าเรียมกับขวัญยังมีความสัมพันธ์อยู่ คงจะไม่ make sense ที่พี่มากสุดหล่อจะทำเรื่อง Partner Visa ให้เรียม
  • เรียมต้องกรอก form 1022 เพื่อแจ้งกับอิมมิเกรชั่นว่าความสัมพันธ์กับขวัญได้จบลงแล้ว, form 1022 ต้องทำเป็น paper-based application นะครับ เพราะ case ของขวัญกับเรียม finalised ไปแล้วที่อิมมิเกรชั่น เราจะแจ้ง update ข้อมูลใน ImmiAccount  ไม่ได้
  • ในระหว่างที่รอเวลา (ซื้อเวลา) จาก AAT ซึ่งก็น่าจะรอเวลาได้ประมาณ 1 ปี ซึ่งก็ถือว่านานสำหรับเรียมในการจัดการชีวิตและเตรียมเอกสารเพื่อที่จะทำ Partner Visa กับพี่มาก

เรื่องราวครั้งนี้สอนให้รู้ว่า
เมื่อถึงจุดที่ต้องเลือก เราก็ต้องเลือก
และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา

รักตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปรักคนอื่น
เมื่อไหร่ที่เรารักตัวเองได้มากพอแล้ว เราถึงจะไปรักคนอื่นได้

...เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญของเรียม...


J Migration Team:
LINE: @JMigrationTeam
IG: @JMigrationTeam
Snapchat: @JMigrationTeam
www.jmigrationteam.com
anchor.fm/john-paopeng
SMS: +61 412470969




Friday, December 29, 2017

Student visa ไม่ผ่าน, อุทธรณ์ ได้ Bridging Visa A, แล้วจะทำ Partner Visa


"มะเมี๊ยะ" เป็นสาวไทย เคยถือวีซ่านักเรียนมาก่อน
มะเมี๊ยะ ขอวีซ่านักเรียนอีกรอบ แล้วไม่ผ่าน
มะเมี๊ยะ ตอนนี้ถือ Bridging Visa A
มะเมี๊ยะ อุทธรณ์เรื่องไปที่ AAT
มะเมี๊ยะ ก็ถือ Bridging Visa A  ต่อไปเรื่อย ๆ 

มะเมี๊ยะ มีแฟนเป็น de facto partner ชื่อ "เจ้าชาย"
เจ้าชายเป็น Australian PR/Citizen 

เจ้าชายตัดสินใจทำ Partner Visa ให้กับ มะเมี๊ยะ เพราะเจ้าชายไม่อยากให้มะเมี๊ยะเอาชีวิตไปฝากไว้กับวีซ่านักเรียนเพียงอย่างเดียว

เพราะเรื่องที่ AAT ก็ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย

เนื่องด้วยมะเมี๊ยะตอนนี้ถือ Bridging Visa A 
มะเมี๊ยะไม่สามารถยื่น Partner Visa ภายในประเทศออสเตรเลียได้ (นอกจาก schedule 3)

ในระหว่างที่มะเมี๊ยะรอเรื่องที่ AAT ซึ่งก็เหมือนที่จะซื้อเวลาเอาไว้เฉย ๆ มะเมี๊ยะกับเจ้าชายก็เตรียมเอกสาร นั่น นี่ โน่น ในการยื่น Partner Visa

Form 888 พร้อม
หลักฐานเรื่องความสัมพันธ์พร้อม

เนื่องด้วยมะเมี๊ยะ ไม่สามารถยื่น Partner Visa ภายในประเทศ (onshore) ได้

สิ่งที่มะเมี๊ยะสามารทำได้คือ
  • ขอ Bridging Visa B เพื่อที่จะเดินทางออกไปนอกประเทศ ไปประเทศไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นประเทศไทย มะเมี๊ยะจะไป New Zealand, Bali หรือ Fiji ก็เรื่องของมะเมี๊ยะ
  • ทันทีที่มะเมี๊ยะ scan passport ที่สนามบิน หรือที่ท่าเรือ (เผื่อมะเมี๊ยะ จะไป cruise) มะเมี๊ยะก็ถือว่าอยู่นอกประเทศออสเตรเลีย (offshore) แล้วครับ
  • ในระหว่างที่มะเมี๊ยะอยู่ offshore, มะเมี๊ยะ หรือทนายความ หรืออิมมิเกรชั่นเอเจนท์ของมะเมี๊ยะ ก็สามารถยื่นเรื่อง Partner Visa ทาง online ให้ได้
  • พอ click submit, จ่ายเงินค่าสมัครแล้วเรียบร้อย มะเมี๊ยะก็สามารถบินกลับเข้าประเทศออสเตรเลียได้เลย ยื่นเรื่องตอนเช้า บินกลับได้เลยตอนบ่ายครับ
  • พอมะเมี๊ยะ กลับเข้าถึงประเทศออสเตรเลีย Bridging Visa ก็กลับมา take affect โดยอัตโนมัติ
  • ในระหว่างที่รอผล AAT, case ของมะเมี๊ยะก็ process ไปเรื่อย ๆ เป็นการไม่เสียเวลา และมะเมี๊ยะเองก็ได้อยู่กับเจ้าชายด้วย
  • แต่เมื่อไหร่ที่ AAT เรียกแล้วผลการอุทธรณ์ไม่ผ่าน มะเมี๊ยะ ก็ต้องเดินทางออกนอกประเทศ และก็ไปรอเรื่อง Partner Visa อยู่นอกประเทศนะครับ แต่ถึงตอนนั้น case Partner Visa ที่ยื่น offshore ก็ใกล้ที่จะ finalise แล้วก็ได้ เพราะ Partner Visa ที่ยื่น offshore จะ process เร็วกว่าที่ยื่น onshore
เราก็ขอให้ความรักของมะเมี๊ยะและเจ้าชาย สมหวังกันนะครับ

..อยากให้คุณได้สม ดังที่ฝัน
ฝันอะไรให้ใครก็ตาม
อยากให้คุณได้สม.ดังที่หวัง
ตั้งใจไว้ ทุกประการ...



J Migration Team:
LINE: @JMigrationTeam
IG: @JMigrationTeam
Snapchat: @JMigrationTeam
www.jmigrationteam.com
anchor.fm/john-paopeng
SMS: +61 412470969


Monday, December 11, 2017

วีซ่าขาด แล้วทำไมเราต้องไปแจ้งจับเขาด้วยหละ


คนวีซ่าขาด เราไม่จำเป็นต้องไปแจ้งใครมาจับเขานะครับ
ทำไมต้องทำกันแบบนั้นด้วยหละ
หากทุกคนมีทางเลือก เขาก็คงไม่เลือกในสิ่งที่เขา เป็น อยู่ คือ

ทำไมเราไม่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความเมตตา ช่วยเหลือ เกื้อกูลซึ่งกันและกัน

แค่นี้ชีวิตเขาก็ลำบากพอแล้ว

มีพื้นที่ให้พวกเขาได้ยืน
ได้หายใจหน่อยเธอ 

เพื่อนมนุษย์เหมือนกัน

เราได้เกิดมาร่วมโลกกันแล้ว

ไม่ขอโทษที่เราไม่ได้ตอบกลับ
ไม่ขอโทษที่เราต้อง "block" you เอาไว้

เราไม่ต้องการตอบโต้หรือเสวนาด้วย แต่เอ๊ะทำไมเขียน blog หละ

ก็เขียนเป็น blog เอาไว้
คนจะได้รู้จุดยืนของ J Migration Team ว่าเป็นยังไง

จะได้ไม่ต้องมีใครติดต่อมาอีกเรื่องนี้

คนเรานะครับ บางทีมันก็เลือกที่จะเป็น เลือกที่จะทำไม่ได้

คงไม่มีใครอยากจะวีซ่าขาดหรอก
แต่คนไทย ไม่ใช่อันดับหนึ่งนะ

ดังนั้นก่อนที่จะโทษคนวีซ่าขาดว่าเขาทำให้คนไทยขอวีซ่ายากขึ้น

อยากจะให้ดูสถิติก่อน

แต่เอาเถอะ ทุกคนมีมุมมองที่แตกต่างกัน
เหมือนเสื้อเหลืองกับเสื้อแดงนั่นแหละ มันไม่มีวันจบสิ้นหรอก

แต่เอาเป็นว่า
เราไม่ขออยู่ฝ่ายที่ต้องคอยแจ้งจับใครละกัน

หากทุกคนมีทางเลือก เขาก็คงไม่เลือกที่จะทำในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่

แต่ถ้าเขาเลือกที่จะเป็นในสิ่งที่เขาเป็น
ทำในสิ่งที่เขาทำ

เราก็อยู่ของเรา
เขาก็อยู่ของเขา

ต่างคนต่างมีชีวิตของใครมัน ไม่ดีกว่าเหรอครับ

ไม่ต้องไปคอยแจ้งจับใคร

กฎแห่งกรรมเป็นหน้าตาแบบไหนเราไม่รู้
รู้แต่ว่า ทำแบบไหน ก็คงได้แบบนั้น

"กรรม" คือการกระทำ
ทุกคนมีกรรมใหม่ และกรรมเก่าที่แตกต่างกันไป

การตัดสินใจของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป

หรือพระเจ้าเบื้องบนอาจจะอยากทดสอบเราอยู่ก็ได้

แต่เอาเป็นว่าการตัดสินใจของเราเป็นแบบนี้ละกัน

เรา busy ทำ case ของเรานะครับ
ไม่ได้มีหน้าที่ไปคอยช่วยเหลือให้ใครไปจับใคร

ใครเหยียบหางใคร ก็ต้องชำระและสะสางกันเอาเอง
อย่าเอาเราเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย

ปวดหัว..

แล้วไอ้ "คชจ" เนี๊ยะมันคืออะไรเหรอ
มันแปลว่า "คุณชายจู๋" หรือครับ

อย่าคิดว่าทุกคนต้องรู้คำย่อภาษายุค 4.0 เสมอไป

Saturday, December 9, 2017

ขอบคุณที่ยังรักกัน ด้วยรัก จากใจ J Migration Team


ยังไม่จบ...

ต่อจาก LiVE เมื่อวาน (วันศุกร์ 8 Dec 2017)

ดีใจด้วยกันน้อง "B" ที่วีซ่าผ่าน ตามที่เห็นใน Facebook LiVE

น้อง B ไม่ได้เป็นแค่ลูกค้าธรรมดา แต่น้องเป็น "น้อง" ที่เราสัมผัสได้ถึงความเป็น "พี่" และ "น้อง"

น้อง "B" อยู่ที่ QLD ถึงแม้ว่าเราจะเคยเจอน้องตัวเป็น ๆ แค่ 2 ครั้ง
แต่เราคุยกันบ่อยมากทาง LINE

ไม่ว่าจะเรื่อง case และเรื่องอื่น ๆ 

ครั้งล่าสุดที่เราไปทำงานที่ QLD office น้องก็แวะเข้ามา
น้องไม่ได้แวะเข้ามา consult หรอก

น้องแวะมาเม๊าส์มอย
น้องแวะมา เอาขนมมาฝาก

(ตอนนี้ P' J ลด ละ เลิก กาแฟและน้ำตาลแล้ว น้องก็เอา version less sugar มาให้ด้วย)

มิตรไมตรีที่น้องให้มา มันประเมิณค่าไม่ได้
เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น้องทำให้เรา แต่มันมีค่ามากนะ สำคัญคนที่เดินทางทำงานบ่อย ๆ อย่างเรา

P' J ก็ได้ทำหน้าที่ของ  J Migration Team ให้น้องแล้ว
P' J ดีใจด้วยกับทุกสิ่งทุกอย่าง

แต่ P' J ก็ขอทำหน้าที่ของพี่ชายด้วยก็แล้วกัน
น้องบอกว่า น้องและแฟนยังไม่เคยมา NSW

คราวนี้น้องกับแฟนคงต้องมาแล้วหละ

ทาง J Migraiton Team ไม่มีดอกไม้ให้น้อง เพราะเรามี "ใจ" ให้มากกว่า




แต่ก็ขอแนบ return airticket Brisbane - Sydney ให้น้องและแฟนก็แล้วกันนะครับ

ถ้าไม่รู้ว่าต้องไปเที่ยวที่ไหนที่ NSW มั่ง
ก็ลองดู facebook page: กิน เล่น เที่ยว ออสเตรเลีย ได้นะครับ

P' J ขอให้น้องและแฟนมาเที่ยว NSW อย่างมีความสุข

ไม่จำเป็นต้องแวะมาหาพี่
ให้เราไปเที่ยวกันให้สนุกนะครับ

ปีใหม่หรือ X'mas ก็ไม่ต้องซื้อของให้พี่จอห์น
แต่ถ้าอยากจะซื้อ พี่แนะนำให้เอาตังค์ไปบริจาคให้ พี่ตุน นะครับ

สินค้าดีใช้แล้วต้องบอกต่อ นะครับ

ด้วยรัก จากใจ J Migration Team

MARN: 0851174
LINE: @JMigrationTeam
Snapchat: @JMigrationTeam
www.jmigrationteam.com
anchor.fm/john-paopeng
SMS: +61 412470969


Partner Visa offshore ระยะทางระหว่างน้องกับแฟน


ดีใจด้วยกับน้อง "N" ที่ Partner Visa (offshore) ผ่านแล้ว
ถึงแม้จะเป็นแค่ stage 1; TR (Temporary Residence) แต่เราก็อยากจะเล่าเรื่องของน้องให้ทุกคนฟังคร่าว ๆ นะครับ

น้องบอกว่า "ดีใจจนมือสั่น" แต่สั่นด้วยก็ความดีใจ ซึ่งเราก็ดีใจด้วย



น้อง "N" เป็นลูกค้าเรา ที่ยื่น Partner Visa (offshore)
น้อง "N" อยู่ที่เมืองไทย

แฟนของน้องอยู่ที่ Perth, WA

สิ่งที่เราอยากจะให้ทุกคน take note ก็คือ ระยะทางระหว่างน้องกับแฟนนะครับ

เพราะน้องอยู่ที่เมืองไทย และแฟนอยู่ที่ Perth

ส่วนเราเอง J Migration Team ก็ทำงานให้น้อง อยู่ที่ Wollongong

ก็แค่อยากจะบอกว่า ระยะทาง ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับความรัก
ระยะทางก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงานของเราเหมือนกัน

เพราะเอกสารทุกอย่างเรายื่นกัน online
น้องกับแฟน ไม่ต้องเข้ามาเจอเราตัวเป็น ๆ ด้วย

แต่เราก็คุยกัน ติดต่อกันทาง LINE, Skype (ฝรั่งส่วนมากใช้ Skype), email และ โทรศัพท์

ดังนั้น J Migration Team, เราสามารถทำ case ได้ทั่วโลกนะครับ

ดังนั้นจริง ๆ แล้ว ลูกค้าไม่ต้องเข้ามาหาเราก็ได้
ปัญหาอะไร สามารถแก้ไขและคุยกันได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ นะครับ

เราโทรหาน้อง แจ้งข่าวดีทาง LINE
ตอนที่เราโทรไป น้องอยู่ที่เมืองไทย กำลังจะเดินทางมา Perth วันรุ่งขึ้นพอดี

ก็ถือว่าเป็นข่าวดี เพราะน้องจะได้ไม่ต้องเดินทางเข้า-ออก บ่อย ๆ เพื่อมาหาแฟนที่ประเทศออสเตรเลีย

เพราะหลังจากนี้ น้องก็อยู่ที่นี่ได้ละ ไม่ต้องเข้า ๆ ออก ๆ ด้วยวีซ่าท่องเที่ยวอีกต่อไป

เราก็คิดว่าเป็นอีกหนึ่ง mile stone ที่สำคัญของน้องและแฟนของน้องนะครับ

ขอบคุณที่ให้เรา J Migration Team เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคู่ของน้องและแฟนนะครับ

ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในการเดินทางของน้องในครั้งนี้นะครับ

ขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจและใช้บริการของ J Migration Team นะครับ

สินค้าดีใช้แล้วต้องบอกต่อ นะครับ

Saturday, December 2, 2017

Partner Visa ยังไม่ได้หย่า เอกสารไม่ครบ 12 เดือน


Partner Visa มีหลาย case มากที่เราทำ ที่บางทีคนสปอนเซอร์เอง หรือคนสมัครเอง ยังไม่ได้หย่าจากแฟนคนเก่า

อาจจะด้วยเหตุผลทางสมบัติ
เหตุผลทางเรื่องลูก
หรือ ego อะไรหลาย ๆ อย่าง

หลาย case ที่ยังไม่ได้หย่า ทำได้ง่าย ๆ ไม่มีปัญหา เพราะเอกสารเขาครบ อยู่ด้วยกันเกิน 12 เดือน

อย่าลืมนะครับว่า ถ้าคนใดคนหนึ่งยังไม่ได้หย่า
เราก็ไม่สามารถที่จะไปจดทะเบียนสมรสซ้อนได้
หรือจด register of relationship ได้ (ก็มีบาง case ที่เล็ดลอดมาได้)

แต่มันก็บาง case ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังไม่ได้หย่า
ตัวเป็น ๆ หนะอยู่ด้วยกันจริงเกิน 12 เดือน

แต่ว่าไม่มีเอกสารอะไรร่วมกันเลย เพราะว่าอีกฝ่ายไม่แน่ใจว่า สรุปแล้ว "เธอจะสปอนเซอร์ให้ฉันหรือเปล่า"

เพราะบางที ของแบบนี้เราก็ไปบังคับแฟนเราให้เขามาสปอนเซอร์เราไม่ได้

พอเราวีซ่าใกล้หมดโน่นแหละ พอเริ่มจะต้องเก็บกระเป๋ากลับเมืองไทย เขาถึงเอ่ยปากบอกว่าจะทำเรื่องสปอนเซอร์ให้

แต่บิลอะไรต่าง ๆ นา ๆ ก็ยังส่งไปที่อยู่เดิม เพราะบางทีเราก็อยู่กับญาติ เราก็ให้จดหมายหรือบิลต่าง ๆ ไปที่อยู่เดิม มีบิลมีจดหมายมาที่อยู่เดียวกัน ไม่กี่เดือนเอง


แต่ตัวเป็น ๆ หนะ อยู่ด้วยกันมาเกิน 12 แล้ว

แต่ความจริง มันก็คือความจริง

คนมันอยู่ด้วยกันแล้วเกิน 12 เดือน มันก็คือเกิน

ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

เราก็เลยให้ทั้งน้องและแฟนของน้องเขียน statutory declaration (stat dec) ว่าเขาอยู่ด้วยกันตั้งแต่วันที่ "xyz" อะไรก็ว่าไป

stat dec ที่เขียน เขียนแค่บรรทัดเดียวจ๊ะ

ออกแนวทำนองว่า

"ข้าพเจ้าขอยืนยัน นอนยันว่า เราอยู่ด้วยตั้งแต่วันที่ xyz เป็นต้นมา"

แค่นี้แหละ บรรทัดเดียว เนื้อ ๆ ไม่ต้องอะไรมากมาย

เพราะ stat dec เป็นหนังสือทางด้านกฎหมาย เราจะไม่ยึดเยื้อ

ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี
น้องได้วีซ่า โดยที่ไม่มีการขอเอกสารเพิ่มใด ๆ ทั้งสิ้น
เพราะเอกสารอย่างอื่น ถึงแม้ว่าตอนที่ยื่นเรื่องเข้าไป เอกสารจะยังไม่มาก แต่เราก็ให้น้องเขาส่งเอกสารมา update ทุกสิ้นเดือน

ให้ส่งบิลมาให้เราทุกเดือน
ให้ส่ง bank statement มาให้เราทุกเดือน

ทุกอย่างมันก็ผ่านไปได้ด้วยดี

ขอบคุณที่ให้ J Migration Team เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางชีวิตคู่ ชีวิตรักในครั้งนี้

ที่ J Migration Team,  Partner Visa  เราทำเป็น Package นะครับ
คือดูแลตั้งแต่ stage 1 ไปจนถึง stage 2 

case นี้ เจอกันอีกที stage 2 (PR) นะครับ

J Migration Team:
LINE: @JMigrationTeam
Snapchat: @JMigrationTeam
www.jmigrationteam.com
anchor.fm/john-paopeng
SMS: +61 412470969