Sunday, September 30, 2018

เรียมเหลือทนแล้วนั่น


กับเรื่องของความรัก
กับเรื่องของภาษาหัวใจ
บางทีมันก็เป็นอะไรที่ซับซ้อน

ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน

กับการทำงานตรงจุดนี้ บางทีเราก็ต้อง no attachment
ทุกสิ่งอย่าง มีที่มา และที่ไป
เราไม่จำเป็นต้องไปเข้าใจ เราเป็นแค่ผู้เฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ 

ในวันที่ความรักของขวัญกับเรียมสั่นคลอน

ก็อาจจะมีบ้างที่ขวัญโทรมา

ขวัญ: "พี่ครับ ผมไม่ต้องการที่จะสปอนเซอร์เรียมอีกต่อไปแล้วครับ ผมอยากทำเรื่องขอยกเลิกการสปอนเซอร์ Partner Visa"

P' J: "ได้ครับ แต่พี่ขอ instruction เป็นลายลักษณ์อักษรผ่านทาง email"  (เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเขาต้องการยกเลิกจริง)

2 วันต่อมา ขวัญส่ง email มาบอกว่า

ขวัญ: "พี่ครับ อย่าเพิ่งทำเรื่องยกเลิกนะครับพี่ ผมขอคิดก่อน อีก 2-3 วัน"

P' J: "ได้ครับ"

ไม่ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น
สิ่งที่เราได้อย่างเดียวคือ "ได้ครับ"

บอกได้ สั่งมาได้ แต่อย่าลืมว่าทุกคำสั่ง ทุก instruction ที่ส่งมา มันจะมี consequence เสมอ

มีอะไร ลองนั่งคุยกันก่อนนะครับ
ค่อย ๆ คิด
ค่อย ๆ ทำ
อย่าผลีผลาม

เพราะเหตุการณ์บางสิ่งบางอย่างมัน rewind ไม่ได้นะครับ
ชีวิตคนเราไม่ใช่มั้วนเทป VHS

แต่เราก็ทำงานตรงจุดนี้มานาน เรารู้ดีว่า อันไหนที่จะต้องแจ้งอิมมิเกรชั่นทันที อันไหนที่จะต้องรอก่อน ดูท่าที ดูสถานการณ์

กับการทำงานตรงจุดนี้ พอคู่รักทะเลาะกัน เขาก็โทรมาหาเราตอนตี 5  ก็มี บอกว่าต้องการยกเลิกวีซ่าแฟน

พอ 9 โมงเช้า ก็บอกว่าทุกอย่าง OK แล้ว กลับมารักกันดี

จากวันนั้น ถึงวันนี้ เราเปิดมือถือเป็น flight mode ทันที 8pm หลัง dinner แล้วจะปิด flight mode อีกทีประมาณ 9am ของอีกวัน

พอเปิดมือถือเป็น flight mode บ้าง ชีวิตการทำงานมีความสุขเพิ่มมากขึ้นจ๊ะ

มีสมาธิในการทำงานเพิ่มมากขึ้นด้วย

ไม่ว่า จะอะไร ยังไง ก็ตามแต่ เราขอเป็นกำลังใจให้กับคู่รักทุกคู่นะครับ

มีปัญหาอะไรกัน ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ แก้ไขกันไป

"เรียมเหลือทนแล้วนั่น"
"ขวัญของเรียม"

Sunday, September 23, 2018

วีซ่าขาด กับ Partner Visa offshore


"Open letter to น้อง J สุดหล่อ จาก P' J ที่หล่อยังไม่สุด"

วันนี้ วันอาทิตย์ที่ 23 Sep 2018
น้อง J สุดหล่อ (น้องเขาหล่อจริง ๆ เป็นนายแบบได้) จะต้องเดินทางออกไปยื่น Partner Visa ที่เมืองไทย

น้องวีซ่าขาด จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เราไม่ judge ใครทั้งนั้น
เรามีหน้าที่ที่จะช่วยเหลือลูกค้าทุกคนที่เข้ามาหาเรา หรือติดต่อมาทาง online อะไร ยังไงก็ตาม

น้องติดต่อเรามาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว July 2017
แล้วน้องเขาก็จ่ายตังค์แล้วด้วยนะ ตั้งแต่ July 2017 ด้วย
ถ้าไม่จ่ายตังค์ เราก็คงไม่มานั่งประคบประหงม case ของน้องอยู่เป็นปีหรอกจ๊ะ

เงินมา งานไป มันเป็นสัจธรรมของชีวิตการทำงานหนะจ๊ะ อย่ามาโลกสวย
...งก...

คือแบบว่าเราติดต่อกันนานมากนะครับ
ก็อาจจะเป็นเพราะน้องยังไม่พร้อมที่เดินทาง ยังไม่พร้อมที่จะต้องแยกกันอยู่กับคนรัก

แน่นอน ของแบบนี้ มันเป็นเอกลักษณ์ส่วนบุคคล ของใครของมัน case-by-case เราก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร เราก็แล้วน้องเขาจะสะดวก

สะดวกจะเดินทางเมื่อไหร่ก็บอก
สะดวกจะให้เราทำเรื่องให้เมื่อไหร่ก็บอก ก็แค่นั้นเอง

วันนี้น้องพร้อมจะออกเดินทางแล้ว
เอกสารและข้อมูลอะไรต่าง ๆ ที่ P' J ก็มีพร้อมแล้วเหมือนกัน
ทีมงาน P' J ก็ stand by ที่จะยื่นเรื่องให้น้องแล้วเช่นเดียวกัน
เราก็คิดว่า ยื่นเรื่อง 2 วันก็น่าจะเสร็จ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะ P' J นั่งตรวจทานเอกสาร และจดหมายเรื่องราวความสัมพันธ์อะไรต่าง  ๆ นานาแล้ว

อ่านเรื่องราวความสัมพันธ์ของน้องกับแฟน
อ่านไป ซึ้งไป
น้องเขียนมาเป็นภาษาอังกฤษ เขียนได้ดีมาก
หรือใครจะเขียนมาเป็นภาษาไทยก็ได้นะครับ เราจะจัดการแปลให้เอง ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจ๊ะ

แต่พี่ก็เขียนเพิ่มเติมให้นิดหน่อย จดหมายความสัมพันธ์จาก J Migration Team มันต้องเวอร์ มันต้องอลังการจ๊ะ ไม่งั้นมันไม่สมชื่อ... อะนะ... ว่ากันไป

วันนี้น้องออกเดินทางแล้ว
ตอนบ่าย  ๆ
P' J ขอให้น้อง J เดินทางด้วยความสวัสดิภาพนะครับ
คิดว่าคงไม่นาน น้องก็คงจะได้กลับมาหาแฟนสุดที่ love แล้ว
It won't be long. Hang in there.

P' J ขอขอบคุณ น้อง J ที่ให้ความไว้วางใจเรา ดูแลและทำเรื่องให้นะครับ
P' J และทีมงานรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราได้ร่วมงานกันนะครับ

จะเห็นได้จาก case ของน้อง J นะครับ ว่าน้องเขาต้องการที่จะทำอะไรให้มันถูกต้อง ต้องการ legalise status ของตัวเอง ให้กลับมาอยู่ที่นี่ได้อย่างถูกต้อง ได้อย่างถูกกฎหมาย

น้อง J ทำได้
ทุกคนก็ทำได้ครับ

วีซ่าขาด แล้วอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ หนะ ชีวิตไม่มีความสุขหรอกหนู
ถ้ามีแฟน ถ้าจะทำ Partner Visa ก็พากันรีบ ๆ ออกมาทำซะ

ออกไปรอแป๊บเดียว
เดี๋ยวก็ได้กลับมาแล้วครับ

...ด้วยรัก...

LINE: @JMigrationTeam (มี @ ข้างหน้าด้วย)
IG: @JMigrationTeam
Snapchat: @JMigrationTeam
YouTube: www.youtube.com/c/JMigration
Website: www.jmigrationteam.com
Podcast: Spotify, iTune และ platform ต่าง ๆ
SMS: +61 412470969

Saturday, September 22, 2018

วีซ่าที่สามารถทำงานได้

สถิติจากกระทรวงอิมมิเกรชั่น
แสดงถึงวีซ่าประเภทต่าง ๆ ที่สามารถทำงานได้

Special Category visa (subclass 444) คือวีซ่าสำหรับชาว New Zealander ที่มาอาศัยอยู่ที่นี่

และอันดับต่อมาก็คือวีซ่านักเรียน student visa (subclass 500)

จึงไม่เป็นที่แปลกใจว่าทำไมหลาย ๆ คนถึงอยากจะขอวีซ่านักเรียนกันจังเลย

จึงไม่เป็นที่แปลกใจว่าทำไมตอนนี้วีซ่านักเรียนขอกันยากมากยิ่งขึ้น

จะเกิดอะไรขึ้นนะ ถ้า...

วีซ่าขาด กับ Partner Visa


หนูหริ่ง: "พี่ค่ะ หนูวีซ่าขาด หนูมีแฟนอยู่ที่นี่ หนูต้องการทำ Partner Visa ถ้าหนูเข้าไปหาพี่ หนูจะโดนจับหรือเปล่าพี่? หนูจะสามารถทำเรื่องได้มั้ย? ...blah...blah"

หนูจ๋า เข้ามาปรึกษาได้จ๊ะ
หรือถ้าไม่สะดวกก็ติดต่อกันทาง email, LINE, inbox หรือ โทรศัพท์ก็ได้

ทำได้หรือเปล่าหนะเหรอ

ก็เอาเป็นว่า case วีซ่าขาดและทำ Partner Visa ของพี่ ทำผ่านทุก case

ทุก case ที่ออกไปยื่น Partner Visa ข้างนอกประเทศ ทุก case ผ่านหมด

ทุก case ได้กลับมาหาแฟน ได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่กับแฟนที่นี่

ที่เหลือ ให้น้อง ให้หนูหริ่งตัดสินใจเองละกันนะครับ

พร้อมเมื่อไหร่ ก็ติดต่อเข้าละกัน
อย่ามัวหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ เพียงเพราะเรารู้เท่าไม่ถึงไม่การ

วีซ่าขาด ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด มันมีทางแก้
แต่เราเองก็ต้องเรียนรู้ที่จะแก้ไขด้วย ไม่ใช่มัวแต่หลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่

Wednesday, September 19, 2018

วีซ่าขาด โดยที่ไม่รู้ตัว หรือรู้เท่าไม่ถึงการ


หลาย case เหลือเกินที่คนวีซ่าขาด โดยที่ไม่รู้ตัว หรือรู้เท่าไม่ถึงการ ดังนั้นเราอยากจะให้ทุกคนพึงระวังเอาไว้ด้วยนะครับ

อย่างเช่น

วีซ่า subclass 482 TSS (Temporary Skill Shortage), subclass 186 ENS (Employer Nomination Scheme), subclass 187 RSMS (Regional Sponsored Migration Scheme)

วีซ่า subclass 482 TSS มี 3 stages:
Stage 1 SBS; Standard Business Sponsor
Stage 2 Nomination
Stage 3 Visa Application

วีซ่า subclass 482 ถ้าจะมีปัญหา เรื่องไม่ผ่าน ส่วนมาก็จะมีปัญหากันที่ stage 2 nomination เหตุผลว่าทางธุรกิจมีความจำเป็นที่จะต้องจ้างพนักงานคนนี้หรือเปล่า

ถ้า stage 2 nomination ไม่ผ่าน, stage 3 ก็จะพลอยไม่ผ่านไปด้วย ภาษาทางกฎหมายเราเรียกกันว่า natural justice ครับ

พอ stage 2 ไม่ผ่าน เราก็จำเป็นที่จะต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน 21 วันนะครับ หรือยื่นเรื่องใหม่ก็ได้ ($330)

หลาย ๆ คนอาจจะเลือกที่ไม่อุทธรณ์ stage 2 nomination ก็ไม่เป็นไร
แต่ปัญหาคือ

ถ้าเราไม่อุทธรณ์ stage 2 nomination เราก็ไม่สามารถอุทธรณ์ stage 3 visa application ของเราได้ บางคนถือ Bridging Visa A อยู่ ซึ่งมาจากการยื่น stage 3 visa application พอเราไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ของ stage 3 เราก็ต้องกลับประเทศภายใน 28 วัน หรือ 35 วัน (สำหรับคนที่ยื่นเรื่องหลัง 18 Nov 2016)

บางคนก็ไม่ทราบว่าตัวเองต้องอุทธรณ์ stage 3 เพราะคิดว่า stage 2 nomination ไม่ผ่าน อุทธรณ์ stage 2 nomination ไปแล้ว ก็คิดว่าจบ

ไม่จ๊ะไม่
ทุก stage มันแยกกัน
ดังนั้นเราก็ต้องอุทธรณ์แยกใครแยกมัน
ดังนั้นคนที่จะต้องอุทธรณ์ ก็ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเอาไว้ด้วยนะครับ
เพราะอุทธรณ์แต่ละครั้ง ก็ $1,764 (as of today)

ส่วนวีซ่า subclass 186 กับ subclass 187 ก็เหมือนกัน
วีซ่า subclass 186 กับ 187 จะมีแค่ 2 stages คือ:
Stage 1 Nomination (รวม stage 1 & stage 2 ของ 482 เข้าด้วยกัน)
Stage 2 Visa Application

ดังนั้นถ้า stage 1 nomination ของเราไม่ผ่าน (subclass 186 & subclass 187) เราก็ต้องแยกอุทธรณ์ของ stage 1 และ stage 2 ด้วยเช่นเดียวกัน

อย่าปล่อยให้ตัวเองวีซ่าขาด เพียงเพราะเรารู้เท่าไม่ถึงการนะครับ

blog นี้ มีประโยชน์ โปรดแชร์

LINE: @JMigrationTeam (มี @ ข้างหน้าด้วย)
IG: @JMigrationTeam
Snapchat: @JMigrationTeam
YouTube: www.youtube.com/c/JMigration
Website: www.jmigrationteam.com
Podcast: Spotify, iTune และ platform ต่าง ๆ
SMS: +61 412470969

Tuesday, September 18, 2018

วีซ่า subclass 482; TSS ต่างคน ต่างจิต ต่างใจ อีกเช่นเดียวกัน


ก็อาจจะมีบ้างเป็นทางที ที่ทางร้านหรือธุรกิจเอง มีพนักงานหลายคน และต้องการทำเรื่องสปอนเซอร์ ขอวีซ่า subclass 482 TSS; Temporary Skill Shortage Visa ให้กับพนักงาน

ก็อาจจะมีบ้างที่พนักงานแต่ละกันก็มีทนายความหรืออิมมิเกรชั่นเอเจนท์ของเขา ที่เขาอยากจะใช้อยู่แล้ว

แบบนี้ก็ไม่มีปัญหาเหมือนกันครับ

ร้านเดียวกัน
พนักงานคนแรก หนูหริ่ง อาจจะใช้ บริษัท "xzy" ในการทำเรื่องให้ก็ได้

พนักงานคนที่ 2 น้องตูดหมึก อาจจะจใช้ บริษัท "abc" ในการทำเรื่องให้ก็ได้

แบบนี้ก็ได้ เช่นเดียวกัน

ต่างคน ต่างจิต ต่างใจ
เราไม่จำเป็นต้องไปเข้าใจเขา
เขาก็ไม่จำเป็นต้องมาเข้าใจเรา

เลือกเอาที่สบายใจ
เพราะทางอิมมิเกรชั่นเอง
เขาไม่ได้สนใจในเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว

blog นี้ มีประโยชน์ โปรดแชร์

วีซ่า subclass 482; TSS ต่างคน ต่างจิต ต่างใจ


วีซ่า subclass 482 หรือ TSS; Temporary Skill Shortage Visa
คือวีซ่าทำงานโดยที่มีนายจ้างสปอนเซอร์

ก็อาจจะมีบ้างที่บางทีนายจ้างกับพนักงาน ต่างคน ต่างมีทนายความหรืออิมมิเกรชั่นเอเจนท์ที่เขาอยากจะใช้อยู่ด้วย

จะด้วยเหตุผลอะไร ยังไง ก็ตามแต่
อาจจะด้วยเหตุผลทางการค้า ที่นายจ้างไม่ต้องการให้เอกสารของตัวเอง ตกไปอยู่ในมือของอีกบริษัทที่เขาไม่คุ้นเคยก็ได้

เราไม่ว่ากัน
ต่างคน ต่างจิต ต่างใจ

ก็เอาเป็นว่า

นายจ้างสามารถใช้อีกบริษัทหนึงทำเรื่อง stage 1 และ stage 2 ของทางร้านได้ครับ

และลูกจ้างเองก็สามารถใช้อีกบริษัทหนึง ทำเรื่อง stage 3 ของตัวเองได้

ไม่มีปัญหาครับ
ก็คงจะเป็นเรื่องการติดต่อสื่อสาร ขอพวก reference number เอามา link กันก็แค่นั้นเอง

เอาที่ทุกคนสบายใจ

blog นี้ มีประโยชน์ โปรดแชร์

Saturday, September 15, 2018

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่วีซ่าขาดโดยที่ไม่รู้ตัว


ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เราต้องการทำวีซ่าเอง เพื่อที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย
ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เราให้เพื่อนของแฟนช่วยทำเรื่องให้ เพราะภาษาอังกฤษเราก็ไม่เก่ง ภาษาอังกฤษของแฟนก็ไม่เก่ง

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เพื่อนของแฟนก็แก่แล้ว อาจจะไม่ค่อยได้เช็คอีเมลล์เหมือนคนรุ่นใหม่

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เราก็เปลี่ยนที่อยู่ เพื่อนของแฟนก็เปลี่ยนที่อยู่ แล้วทั้งเราและเพื่อนของแฟน คนที่ช่วยทำเรื่องให้เรา ไม่ได้แจ้งที่อยู่ใหม่ไปที่อิมมิเกรชั่น ไม่ได้มีการ update ข่าวสาร ข้อมูล

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เราเองก็ยุ่ง มัวแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ และยุ่งอยู่กับลูก ๆ และก็ชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไป ก็เลยไม่ค่อยได้ติดตามเรื่องเอกสารของอิมมิเกรชั่น 

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เรามัวแต่ทำงาน จนลืมไปเลยว่า เรายังไม่ได้ PR วีซ่าเรายังไม่ผ่าน

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่อิมมิเกรชั่นติดต่อเรา ส่งเอกสารมาทางไปรษณีย์ เราก็ไม่ได้รับ เพราะเราเปลี่ยนที่อยู่ เพื่อนแฟนเราก็ไม่ได้รับ เพราะเขาเองก็อาจจะเปลี่ยนที่อยู่ และทั้งเราและเขาก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันแล้ว

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่อิมมิเกรชั่นก็ email มาหาเรา แต่มันเป็น email เก่ามากแล้ว เราไม่ได้ใช้ email ตัวนั้นแล้ว

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เรากลับไปค้นหาข้อมูลใน email เก่าของเรา แล้วปรากฎว่าทางอิมมิเกรชั่นได้ส่ง email มาหาเราเมื่อปีที่แล้ว

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่อิมมิเกรชั่นไม่อาจที่จะรอเอกสารจากเราได้เป็นปี ๆ 

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ก็ต้อง make decision เลย เท่าที่เอกสารมีอยู่ต่อหน้าเขา

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่ทางอิมมิเกรชั่น ไม่ให้วีซ่าเราผ่าน เราเอกสารเราไม่คบ เอกสารเราไม่พอ แล้วเราก็มีเวลาอุทธรณ์ภายใน 21 วัน

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เราไม่รู้เรื่องว่าวีซ่าเราไม่ผ่าน

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เวลามันก็ล่วงเลย 21 วันไปแล้ว อุทธรณ์ไม่ได้แล้ว อุทธรณ์ไม่ทันแล้ว

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เราเองก็ยังไม่รู้ว่าวีซ่าเราไม่ผ่าน และมันก็เลยเวลาอุทธรณ์ไปแล้ว เราและทุกคนในครอบครัวกลายเป็นคนไม่มีวีซ่าไปแล้ว

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เรากับทุกคนในครอบครัวไม่รู้เรื่องอะไรเลย ว่าเราวีซ่าขาดกันแล้ว จะมารู้ตัวอีกที่หนึ่งก็ตอนที่คนในครอบครัวเราจะเดินทางมาที่ประเทศออสเตรเลีย แล้วเจ้าหน้าที่ที่สนามบินบอกว่า เราไม่มีวีซ่าแล้ว

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่บางทีทุกอย่างมันก็สายเกินไปแล้ว เราก็คงจะต้องเริ่มทำเรื่องใหม่ เราก็คงต้องบินกลับไปเมืองไทย ออกไปยื่นเรื่องที่เมืองไทย เพราะตอนนี้เราและครอบครับไม่มีวีซ่ากันแล้ว

แต่ก็ไม่แน่ เหตุการณ์ทุกสิ่งอย่างในชีวิต มันเป็นครู
มันสอนอะไรให้เราได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง

นี่มันก็อาจจะเป็นโอกาสที่ดี ที่ให้เราได้กลับไปพักผ่อนอยู่ที่เมืองไทย
นี่มันก็อาจจะเป็นโอกาสที่ดี ที่ให้เราได้กลับไปพักผ่อนสมอง ก็อาจจะเป็นได้

นี่ก็อาจจะเป็นโอกาสที่ดี ที่ให้เรากับลูก ๆ ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยสักพัก ซึมซับความเป็นไทย ก็อาจจะเป็นได้

เหตุการณ์ทุกสิ่งอย่างในชีวิต มีทั้งด้านดีและด้านลบ ลองมองหาด้านที่ดีของมันดูนะครับ ชีวิตเราจะได้ไม่ต้องเครียดมาก

ต่อไปในอนาคต หากต้องการคนช่วยทำเรื่องให้
เราขอแนะนำให้ใช้ทนายความหรืออิมมิเกรชั่นเอเจนท์ที่มีหลายเลข MARN อย่างถูกต้องตามกฎหมายนะครับ

ที่ผ่านมาแล้ว ให้มันแล้วไป
ชีวิตเรา เราเริ่มต้นกันใหม่ได้

เมื่อวาน มันเป็นเรื่องของอดีต เราแก้ไขอะไรมันไม่ได้
วันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่
take control of your lives
กุมบังเหียนชีวิตของเราเอง


LINE: @JMigrationTeam (มี @ ข้างหน้าด้วย)
IG: @JMigrationTeam
Snapchat: @JMigrationTeam
YouTube: www.youtube.com/c/JMigration
Website: www.jmigrationteam.com
Podcast: Spotify, iTune และ platform ต่าง ๆ
SMS: +61 412470969

Friday, September 7, 2018

วีซ่าท่องเที่ยวให้คุณพ่อ คุณแม่ 3 ปี


Another success story to be shared.

น้อง "J" กับน้อง "L" คู่สามีภรรยาจาก VIC ติดต่อ P' J มาทาง LINE (เห็นมั้ยเธอ อยู่ใกล้หรือไกล เราทำได้ case ได้หมด เลิกถามซะทีเถอะว่าจะส่งเอกสารหรือติดต่อเรายังไง)

น้องเป็น Australian citizen ทั้งคู่
น้อง "J" ต้องการขอวีซ่าท่องเที่ยวแบบ long stay ให้กับคุณพ่อและคุณแม่

คุณพ่อ คุณแม่ยังไม่เคยเดินทางมาที่ประเทศออสเตรเลียมาก่อน

วีซ่าท่องเที่ยวแบบ long stay คือ ได้วีซ่ามา 3 ปี เข้าออกกี่รอบก็ได้
แต่อยู่ได้สูงสุด 12 เดือนภายในระยะเวลา 18 เดือน

P' J  แจ้งราคาไป 
น้องทำเลย
ไม่ถามอะไรมาก จู้จี้ จุกจิก
เราชอบทำงานกับคนแบบนี้
คือน้องมาแบบมีเป้าหมาย รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
แสดงว่าคลื่นความถี่เราตรงกัน
เพราะน้อง J เองก็เป็นเจ้าของธุรกิจอยู่ที่ VIC 
รู้ว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่า เราไม่ควรเสียเวลาซึ่งกันและกัน


เรายื่นเรื่องให้คุณพ่อกับคุณแม่ไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
คุณพ่อกับคุณแม่ ตรวจร่างกายและทำ finger print วันจันทร์
วันอังคาร วีซ่าคุณพ่ออก ได้มา 3  ปี ตามที่เราขอไป
วันศุกร์ วีซ่าคุณแม่ออก ได้มา 3 ปี ตามที่เราขอไปเช่นเดียวกัน

P' J ดีใจด้วยนะครับ กับน้อง J  และน้อง L
สินค้าดีใช้แล้วต้องบอกต่อนะครับ

ทั้ง 2 ท่านไม่ติด condition 8503
ถ้าน้อง J จะทำเรื่อง Parent Visa ให้กับคุณพ่อคุณแม่ก็ได้ ติดต่อมาได้หลังไมค์นะครับ

ตัวอย่างมีให้เห็นว่า Tourist Visa แบบ long stay เราสามารถทำให้ได้

ที่ทำมา ก็ผ่านทุก case

ทุกสิ่งอย่างขึ้นอยู่กับการเขียนเรื่องราวอธิบายให้กับ case officer ว่าทำไมเราถึงอยากให้คุณพ่อคุณแม่ได้วีซ่าแบบ 3 ปี

ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับ persuative writing 
การเขียนโน้มน้าวจิตใจ
การเขียนยกแม่น้ำทั้ง 5, 6, 7, 8 (คงจะหนักน่าดู)

อ๋อ ลืมบอกไปว่า
เราจบปริญญาที่นี่ 6 ใบจ๊ะ
เคยเขียน essay ตอนเรียนโท ที่ USQ ได้ 100% มาแล้ว 
เคยเขียน essay ตอนเรียนอักษรญี่ปุ่นที่ UOW ได้ 95% top in class (นักเรียนปีสุดท้ายเหลือ 15 คน จากปี 1 มีประมาณ 100 คน, คนไทย 2 คน ฝรั่ง 13 คน... สรุปหัวดำหรือหัวทอง ใครเรียนเก่งกว่ากัน... ดังนั้นเลิกเถอะกับคำพูดจาของคนไทยหัวดำบางคนด้วยกัน กับคนที่คิดว่าหัวทองต้องเก่งเสมอไป I'm ขอค้าน)

คนไทยทำได้
คนไทยอยู่ที่ไหนก็ประสบความสำเร็จได้

OK กลับเข้าเรื่องวีซ่าต่อ
เอาเป็นว่า ใครอยากทำให้คุณพ่อ คุณแม่ก็ทำได้นะครับ ถ้าเราเป็น PR หรือ citizen