Saturday, September 15, 2018

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่วีซ่าขาดโดยที่ไม่รู้ตัว


ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เราต้องการทำวีซ่าเอง เพื่อที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย
ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เราให้เพื่อนของแฟนช่วยทำเรื่องให้ เพราะภาษาอังกฤษเราก็ไม่เก่ง ภาษาอังกฤษของแฟนก็ไม่เก่ง

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เพื่อนของแฟนก็แก่แล้ว อาจจะไม่ค่อยได้เช็คอีเมลล์เหมือนคนรุ่นใหม่

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เราก็เปลี่ยนที่อยู่ เพื่อนของแฟนก็เปลี่ยนที่อยู่ แล้วทั้งเราและเพื่อนของแฟน คนที่ช่วยทำเรื่องให้เรา ไม่ได้แจ้งที่อยู่ใหม่ไปที่อิมมิเกรชั่น ไม่ได้มีการ update ข่าวสาร ข้อมูล

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เราเองก็ยุ่ง มัวแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ และยุ่งอยู่กับลูก ๆ และก็ชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไป ก็เลยไม่ค่อยได้ติดตามเรื่องเอกสารของอิมมิเกรชั่น 

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เรามัวแต่ทำงาน จนลืมไปเลยว่า เรายังไม่ได้ PR วีซ่าเรายังไม่ผ่าน

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่อิมมิเกรชั่นติดต่อเรา ส่งเอกสารมาทางไปรษณีย์ เราก็ไม่ได้รับ เพราะเราเปลี่ยนที่อยู่ เพื่อนแฟนเราก็ไม่ได้รับ เพราะเขาเองก็อาจจะเปลี่ยนที่อยู่ และทั้งเราและเขาก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันแล้ว

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่อิมมิเกรชั่นก็ email มาหาเรา แต่มันเป็น email เก่ามากแล้ว เราไม่ได้ใช้ email ตัวนั้นแล้ว

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เรากลับไปค้นหาข้อมูลใน email เก่าของเรา แล้วปรากฎว่าทางอิมมิเกรชั่นได้ส่ง email มาหาเราเมื่อปีที่แล้ว

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่อิมมิเกรชั่นไม่อาจที่จะรอเอกสารจากเราได้เป็นปี ๆ 

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ก็ต้อง make decision เลย เท่าที่เอกสารมีอยู่ต่อหน้าเขา

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่ทางอิมมิเกรชั่น ไม่ให้วีซ่าเราผ่าน เราเอกสารเราไม่คบ เอกสารเราไม่พอ แล้วเราก็มีเวลาอุทธรณ์ภายใน 21 วัน

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เราไม่รู้เรื่องว่าวีซ่าเราไม่ผ่าน

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เวลามันก็ล่วงเลย 21 วันไปแล้ว อุทธรณ์ไม่ได้แล้ว อุทธรณ์ไม่ทันแล้ว

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เราเองก็ยังไม่รู้ว่าวีซ่าเราไม่ผ่าน และมันก็เลยเวลาอุทธรณ์ไปแล้ว เราและทุกคนในครอบครัวกลายเป็นคนไม่มีวีซ่าไปแล้ว

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่เรากับทุกคนในครอบครัวไม่รู้เรื่องอะไรเลย ว่าเราวีซ่าขาดกันแล้ว จะมารู้ตัวอีกที่หนึ่งก็ตอนที่คนในครอบครัวเราจะเดินทางมาที่ประเทศออสเตรเลีย แล้วเจ้าหน้าที่ที่สนามบินบอกว่า เราไม่มีวีซ่าแล้ว

ก็อาจจะมีบ้างเป็นบางที... ที่บางทีทุกอย่างมันก็สายเกินไปแล้ว เราก็คงจะต้องเริ่มทำเรื่องใหม่ เราก็คงต้องบินกลับไปเมืองไทย ออกไปยื่นเรื่องที่เมืองไทย เพราะตอนนี้เราและครอบครับไม่มีวีซ่ากันแล้ว

แต่ก็ไม่แน่ เหตุการณ์ทุกสิ่งอย่างในชีวิต มันเป็นครู
มันสอนอะไรให้เราได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง

นี่มันก็อาจจะเป็นโอกาสที่ดี ที่ให้เราได้กลับไปพักผ่อนอยู่ที่เมืองไทย
นี่มันก็อาจจะเป็นโอกาสที่ดี ที่ให้เราได้กลับไปพักผ่อนสมอง ก็อาจจะเป็นได้

นี่ก็อาจจะเป็นโอกาสที่ดี ที่ให้เรากับลูก ๆ ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยสักพัก ซึมซับความเป็นไทย ก็อาจจะเป็นได้

เหตุการณ์ทุกสิ่งอย่างในชีวิต มีทั้งด้านดีและด้านลบ ลองมองหาด้านที่ดีของมันดูนะครับ ชีวิตเราจะได้ไม่ต้องเครียดมาก

ต่อไปในอนาคต หากต้องการคนช่วยทำเรื่องให้
เราขอแนะนำให้ใช้ทนายความหรืออิมมิเกรชั่นเอเจนท์ที่มีหลายเลข MARN อย่างถูกต้องตามกฎหมายนะครับ

ที่ผ่านมาแล้ว ให้มันแล้วไป
ชีวิตเรา เราเริ่มต้นกันใหม่ได้

เมื่อวาน มันเป็นเรื่องของอดีต เราแก้ไขอะไรมันไม่ได้
วันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่
take control of your lives
กุมบังเหียนชีวิตของเราเอง


LINE: @JMigrationTeam (มี @ ข้างหน้าด้วย)
IG: @JMigrationTeam
Snapchat: @JMigrationTeam
YouTube: www.youtube.com/c/JMigration
Website: www.jmigrationteam.com
Podcast: Spotify, iTune และ platform ต่าง ๆ
SMS: +61 412470969

No comments:

Post a Comment