Friday, September 30, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย 350,000 บาท แล้วได้ PR ไม่มีนะครับ


วีซ่าออสเตรเลียเหรอ จ่าย 350,000 บาทแล้วได้ PR ไม่มีนะครับ

ไปฟังจากใหนมาเอ่ย??

ถ้าเขาบอกว่าได้ PR เลย ก็ต้องถามเขาด้วยนะว่า PR ที่ว่านี้ มัน subclass อะไร เพราะวีซ่าที่ประเทศออสเตรเลียมีทั้งหมดเกือบ 120 subclasses หรือ 120 ชนิดนะครับ

เขามาส่งเราที่สนามบินก็จริง
เขาส่งเรามาลอยแพหรือเปล่า??

คิดกันให้ดีๆนะครับ

350,000 บาทแล้วได้ PR เหรอ... ไม่มีนะครับ
เพราะถ้าเป็นพวกวีซ่าที่จ่ายตังค์แล้วได้ PR นั้น เราเรียกกันว่า SIV; Significant Investor Visa คือวีซ่านักลงทุน

SIV เป็นอะไรที่ใช้เงินลงทุนสูง
ต้องเอาเงินมาลงทุนและฝากเอาไว้กับหน่วยงานที่รัฐบาลรับรอง และต้องฝากหรือลงทุนเป็นจำนวนเงิน AUD $5,000,000 นะครับ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นเงินไทยเท่าไหร่ ก็ลองเอาอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันคูณเข้าไปดูนะครับ

350,000 บาทไทย แตกต่างกันลิบลับกับ AUD $5,000,000 นะครับ
ลองเอาเครื่องคิดเลขมาจิ้มดู

ถ้าเขาบอกว่ารู้จักกันกับคนไทยที่อยู่ที่ออสเตรเลีย

เอ่อ.... รู้จักแล้วไงเหรอ
รู้จักแล้วช่วยอะไรได้ ไม่เห็นเกี่ยวเลย

ถ้าบอกว่าเปิดบริษัทถูกต้อง จดทะเบียนถูกต้อง
เอ่อ... เปิดบริษัทแล้วไงเหรอ มันก็แค่กระดาษแผ่นเดียว หมู หมา กา ไก่ ตาสี ตาสา ที่ใหนก็เปิดบริษัทได้ 

ถ้าจ่าย 350,000 บาทแล้วได้ PR ที่ออสเตรเลียเลย
ป่านนี้ ขวัญกับเรียม ก็คงเลิกไถนา แล้วขอ PR มาอยู่ออสเตรเลียกันแล้วสิ

อ้าว... แล้วตำนานรักของขวัญกับเรียม ก็คงจะไม่มีอีกต่อไปแล้วสิ

ไม่นะ... อย่าเอาขวัญกับเรียมของเราไปนะ
ให้ขวัญกับเรียม เขารักกันอยู่ที่บ้านนา เมืองไทยแหละดีแล้ว

ข้อมูลทุกอย่าง ศึกษา รู้เท่าทันนะครับ

Tuesday, September 27, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย วีซ่าท่องเที่ยว มาทำงานในฟาร์ม อย่าตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพ


มีคนสอบถามเข้ามาจากเมืองไทย เรื่องของเอกสารในการขอวีซ่าท่องเที่ยวไปประเทศออสเตรเลีย

เขาบอกเราว่า มีคนจะทำวีซ่าท่องเที่ยวให้เขา ด้วยราคา 250,000 บาท เป็นวีซ่าท่องเที่ยว เพื่อไปทำงานในฟาร์ม

อีกแล้วเหรอเนี๊ยะ...

ก็เข้าใจนะครับ ว่าหลายๆคนอยากจะมาที่ประเทศออสเตรเลีย แต่ก็ไม่ใช่แบบว่า อยากมาจนตัวสั่น

จริงๆแล้วชีวิตการทำงานในฟาร์มมันก็ไม่ได้เลิศหรูอะไรนะ ถึงแม้ว่าเราเองจะยังไม่เคยไปทำอะไรแบบนั้น แต่ก็ได้มีโอกาสขับรถพาน้องคนไทยไปเก็บ  Cherry ที่ Young, NSW.... แล้วคุณจะรู้ว่า "นรก หนะมีจริง" จ๊ะ

และก็อยากจะบอกเหรอเกินว่า
  • วีซ่าท่องเที่ยวไม่สามารถทำงานได้
  • จ่ายเขาไป (ใครก็ไม่รู้) 250,000 บาท แล้วจะรู้ได้ไงว่าวีซ่าเราจะผ่าน

จากการคาดเดา  using professional judgement  เราคาดว่า 99.99% น่าจะโดนหลอกนะครับ

ศึกษา รู้เท่าทันนะครับ
อย่าตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพ

Monday, September 26, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย วีซ่า subclass 186, วีซ่า subclass 187 พนักงานต้องทำงานต่อให้กับนายจ้างอย่างน้อย 2 ปี




เป็นคำถามยอดฮิตจากหลายๆคนว่า หลังจากที่เราได้ PR ด้วย วีซ่า subclass 186, subclass 187 จากนายจ้างแล้ว เราจำเป็นต้องทำงานหรืออยู่ต่อให้กับนายจ้างอีกต่อไปหรือเปล่า 

คำตอบก็คือ เราต้องทำงานหรืออยู่ต่อให้กับนายจ้างคนที่ทำเรื่องสปอนเซอร์ให้เราอย่างน้อย 2 ปี

เพราะว่าตอนที่นายจ้างทำเรื่องสมัคร stage 1 ของ Nomination, นายจ้างเองก็ต้องให้ข้อมูลกับทางอิมมิเกรชั่นว่า นายจ้างนั้นมีงานรองรับให้กับพนักงาน อย่างน้อยเป็นเวลา 2 ปี (สามารถดูได้จาก screen capture ที่เราทำมาให้ดูนะครับ)

ในขณะเดียวกัน ตอนที่ตัวคนสมัครเอง ทำเรื่องสมัคร stage 2 Visa Application, คนสมัครก็ต้องบอกว่าจะทำงานให้กับนายจ้างนี้เป็นระยะเวลาอย่างต่ำ 2 ปี (สามารถดูได้จาก screen capture ที่เราทำมาให้ดูนะครับ)

ดังนั้นพนักงานหรือลูกจ้างคนใหนที่คิดจะลาออกหรือเลิกทำงานกับนายจ้าง หลังจากที่ได้ PR แล้ว เราแนะนำให้ลองคิดดูใหม่นะครับ

ส่วนนายจ้างเองที่กังวลว่าพนักงานจะลาออกหลังจากที่เขาได้ PR นั้น ก็ไม่ควรกังวลมากเกินไปนะครับ

เราก็แนะนำให้ทั้งพนักงานและนายจ้าง นำเอาความรู้นี้ไป แล้วก็นั่งจับเข่าคุยกันนะครับ

จะคิด จะทำอะไรก็ตามแต่ เราอยากให้ทุกๆฝ่าย ได้เป็นประโยชน์ และเป็นอะไรที่ win-win ด้วยกันทั้งคู่

Sunday, September 18, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย visa subclass 457 สามารถต่อได้เรื่อยๆ




วีซ่า subclass 457 หรือวีซ่าที่มีนายจ้างสปอนเซอร์นั้น ถ้าหากเมื่อครบเวลาที่ต้องขอ PR แล้ว แต่คุณสมบัติของเรายังไม่พร้อม เราก็สามารถต่อวีซ่า subclass 457 ไปได้เรื่อยเรื่อยๆทุก 4 ปี ไม่มีกำหนดหมด


เราอาจจะมีเหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ หรือองค์ประกอบหลายๆอย่าง ที่ทำให้เราไม่สามารถขอ PR ได้

อย่างเช่นถ้าหากเรามีการเปลี่ยนนายจ้างเราก็ต้องมาเริ่มนับ 0 ใหม่

ตราบใดที่คุณสมบัติของการขอวีซ่า subclass 457 ของเรายังครบอยู่ เราก็ยังสามารถที่จะต่อวีซ่า subclass 457 ไปได้เรื่อยๆ

แต่เราก็ต้อง make sure นะครับว่า เราขอวีซ่า subclass 457 ก่อนที่วีซ่าตัวเก่าของเราจะหมด เพราะมีหลายคนเข้าใจว่า หลังจาก visa หมดแล้วเขามีเวลา 90 วันในการที่จะหานายจ้างใหม่ อันนี้คนเข้าใจผิดกันนะครับ เพราะว่าถ้าเกิดวีซ่าเราหมดแล้วก็คือหมดเลย

ที่บอกว่าสามารถหานายจ้างใหม่ได้ภายใน 90 วันนั้นคือ เราต้องหานายจ้างใหม่หรือเปลี่ยน nomination (stage 2) ภายใน 90 วัน ในขณะที่วีซ่า subclass 457 ของเรายังมีอยู่ ดังนั้นต้องระวังกันตรงจุดนี้ด้วยนะครับ เพราะเราไม่อยากให้ใครวีซ่าขาดโดยที่ไม่จำเป็น

Friday, September 16, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย วีซ่าขาด โดนแบน เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยน passport ไม่แนะนำ


สำหรับคนที่วีซ่าขาดนะครับ ก็มีคนติดต่อสอบถามเข้ามาว่า ถ้าเผื่อวีซ่าขาดแล้ว โดนแบน 3 ปี ถ้ากลับไปเมืองไทยแล้วไปเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยน passport หรือเปลี่ยนการสะกดชื่อ แบบนี้จะสามารถกลับมาได้อีกไหม

ก่อนอื่นเลยนะครับ เราอยากจะบอกว่า เราไม่แนะนำให้ทำอะไรแบบนี้

เพียงแค่คิดก็ผิดแล้ว เพราะนี่มันเข้าข่ายตั้งใจที่จะหลอกลวง หรือให้ข้อมูลผิดๆ ให้กับ immigration ถ้าโดนจับได้ ก็จะโดนข้อหา PIC 4020 (Public Interest Criteria) โดนแบน 3 ปีอยู่ดี หนักเข้าไปใหญ่

ดังนั้นเราไม่แนะนำนะครับ

เพราะต่อให้เราไปเปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนวิธีการสะกดชื่อภาษาอังกฤษ 

อย่าลืมนะครับว่านายแบบฟอร์มของ immigration ทุกแบบฟอร์มเลยไม่ว่าจะเป็นแบบ online หรือ paper-based มันจะมีคำถามอยู่หนึ่งคำถามว่าคุณเคยเปลี่ยนชื่อ หรือเคยใช้ชื่ออื่นมาก่อนหรือเปล่า ถ้าเราบอกว่าไม่เคย ก็เหมือนเป็นการจงใจที่จะโกหก หลอกลวง หรือให้ข้อมูลที่ผิดๆ ถ้าโดนจับได้ ก็จะโดนข้อหา PIC 4020 โดนแบน 3 ปีอยู่ดี

ดังนั้นเราไม่แนะนำนะครับ

ที่เมืองไทยเองก็มีการทำ finger print, finger scan ต่อให้เรามีการเปลี่ยนชื่อเราก็ไม่สามารถเปลี่ยน finger print รอยนิ้วมือเราได้ นอกเสียจากในหนัง!!!

กฎหมายมีเอาไว้เพื่อจัดระเบียบสังคมนะครับ
กฎหมายไม่ได้มีเอาไว้ให้เราแหกกฎ

ถ้าเราทำอะไรที่ถูกต้องตามกฎหมาย ชีวิตเราก็จะไม่วุ่นวายนะครับ

เราแนะนำให้ทำอะไรให้มันถูกต้องมากกว่า จะได้ไม่ต้องมาปวดหัวทีหลัง

Wednesday, September 14, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย Partner Visa รักแรกพบ


Partner Visa หรือวีซ่าสำหรับคู่รักนั้น เรื่องราวของความรักและความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ไม่เหมือนกัน

บางคนพบรักกัน online
บางคนพบรักกันที่ร้านอาหารพวก fast food
บางคนพบรักเพราะนั่งทานข้าวที่ร้านอาหาร นั่งโต๊ะข้างๆกัน ก็เลยได้คุยกัน
บางคนพบรักบนรถบัส
บางคนรักกันตั้งแต่สมัยเรียน
บางคนพบรักกันที่ทำงาน
บางคนพบรักเพราะฝนตก เดินข้ามถนนแล้วมีคนเอาร่มมาให้ 

เหมือนในหนัง ยังไงยังงั้น...

เป็นไงหละ ความรัก ความสัมพันธ์ และเรื่องราวของแต่ละคู่ แต่ละคน ไม่เหมือนใคร และเราไม่จำเป็นต้องให้ใครมาเหมือน

ดังนั้น เราไม่ต้อง worries ว่า เอ๊ะ คู่รักเราเป็นแบบนี้ 
เราเจอกันแบบนี้
case officer จะเชื่อเราหรือเปล่านะ

ขอให้ทุกอย่างเป็นความจริง เป็นความรักที่มั่นคง เป็นรักจริง ไม่ใช่พวกจ้างแต่ง ทุกอย่างก็ OK แล้วครับ

วีซ่าออสเตรเลีย Partner Visa, $1 เดียว ก็เสียวได้


สำหรับ Partner Visa แล้ว มีหลายคนสงสัยในเรื่องของการเงินและ bank statement ทั้งของตัวเองและของคนที่สปอร์นเซอร์

Partner Visa ไม่เหมือนวีซ่านักเรียนหรือวีซ่าท่องเที่ยว

ทาง immigration ไม่ได้ดูที่ยอด balance statement ดังนั้นจึงไม่สำคัญว่าเราหรือคนที่สปอนเซอร์เรามียอดเงินในบัญชีเท่าไหร่

Partner Visa จะเน้นและโฟกัสไปที่ความรัก ความผูกพันและ relationship 

ไม่ใช่เรื่องของการเงิน หรือยอดเงินในบัญชี

ดังนั้นคนที่ขอเงิน central link ก็สามารถทำเรื่องสปอนเซอร์แฟนของตัวเองได้

หรือบางคนที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่ได้เปิดบัญชีที่ประเทศออสเตรเลียก็ไม่เป็นไร เราก็สามารถใช้บัญชีธนาคารของประเทศนั้นๆที่เรากับแฟนไปอาศัยอยู่ เราไม่จำเป็นที่จะต้องมาเปิดบัญชีเพื่อที่จะทำ Partner Visa (มีก็ดี แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่)

เรากับแฟนของเราเคยใช้เงินด้วยกันยังไงก็ให้ใช้ไปตามปกติ ก็ให้ดำเนินชีวิตไปตามปกติ เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน lifestyle ของเราเพื่อที่จะทำ Partner Visa ไม่จำเป็น

เราเคยมีชีวิตยังไง ก็ให้ดำเนินชีวิตไปตามปกติ ดำเนินชีวิตคู่นะครับไม่ใช่ ดำเนินชีวิตคนเดียว!!! 

ในส่วนของเรื่องการเงินแล้ว ขอเพียงเรากับแฟนเราสามารถโชว์ว่าเราสองคนใช้เงินร่วมกันยังไง หรือใครจ่ายอะไรมั่ง ในการจับจ่ายใช้สอย แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับหลักฐานการใช้เงินร่วมกัน หรือ financial commitment ที่คนสองคนมีต่อกัน

ดังนั้นเราไม่ต้องไป focus ที่ยอดเงินบัญชีหรือ balance ให้มากจนเกินไป

คนเรามีเงินในบัญชี $1 ก็สามารถ sponsor แฟนของตัวเองได้ (ทำผ่านมาแล้วจ๊ะ) ถ้าเขาสามารถพิสูจน์ว่าเขาสองคนรักกันจริง เป็น:

  • long-term relationship, 
  • genuine
  • continuing 

แค่นี้ก็พอแล้ว

Partner Visa, มีเงินบัญชี $1 เดียว ก็สามารถทำเรื่องสปอนเซอร์เอาแฟนหรือคู่รักของตัวเองมาที่ออสเตรเลียได้ครับ

Partner Visa, $1 เดียว ก็เสียวได้...

Tuesday, September 13, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย Partner Visa สาวสมัยใหม่ สาว independent girl ไม่เกาะใครกิน


Partner Visa

มี LINE สอบถามมาจากเมืองไทย
พี่ผู้หญิงคนนี้คบกับแฟนซึ่งเป็นชาว Australian อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย
ในขณะที่ตัวของพี่เขาเองอยู่ที่เมืองไทย

พี่เขาสอบถามเรื่องการเก็บเอกสารที่จะต้องใช้ยื่นในการทำ Partner Visa
พี่เขาบอกว่า ตัวของพี่เค้าเองนั้นก็ทำงาน full time
ใช้เงินของตัวเอง ใช้เงินใครเงินมัน
พี่เขาอยากรู้ ว่าแบบนี้จะมีปัญหาในการขอ Partner Visa หรือเปล่า

เราก็ตอบไปว่า “พี่ครับสาวสมัยใหม่ สาว independent girl ไม่เกาะใครกินนะพี่

คู่รักของเรา การจับจ่ายใช้สอยเงินของเรา ไม่จำเป็นต้องเหมือนคู่ของคนอื่นนะครับ
เราใช้จ่ายเงินยังไง ก็ให้ตอบไปตามความเป็นจริง
ไม่ต้องโกหก (ผิดศีล) ไม่ต้องสร้างเรื่อง มันไร้สาระ
ความจริงเป็นยังไง ก็บอกอย่างนั้น
เพราะชีวิตคู่แต่ละคู่เป็นอะไรที่ unique และแตกต่างกันออกไป

ไม่ต้องฟังเพื่อน “หางอึ่ง” ให้มาก
ไม่จำเป็นต้องไปอ่านอะไรตาม web board หรือ forum ต่างๆจากพวก “พันถีบ”
มันไร้สาระ มันเปลืองสมอง

สมัยนี้ กาลเวลานี้ โลกมันเปลี่ยนไปแล้วจ๊ะ
อย่าลืมนะครับว่า “สาวสมัยใหม่ ไม่ควรเกาะใครกิน”

รั ก น ะ ถึ ง บ อ ก จุ๊...จุ๊...จุ๊...

Sunday, September 11, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย วีซ่าขาด อย่าตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพ


เราอยากจะลองถามทุกคนดูนะครับว่า หากมีใครคนใดคนหนึ่งรับทำการบ้านให้นักเรียน

เขาคนนั้นจะมี integrity หรือเปล่า
เขาคนนั้น dodgy มั๊ย

และในขณะเดียวกันก็คนคนเดียวกัน หรือหน่วยงานเดียวกันองค์กรเดียวกันนี่แหละ ก็รับทำหรือแอบอ้างสรรพคุณว่าพวกเขาเหล่านั้นสามารถ “ชุบผีให้เป็นคนได้”

คุณคิดว่าพวกเขาเหล่านั้นหรือหน่วยงานหน่วยนั้น จะมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน

หน่วยงานที่เราพูดถึงนี้ดูจาก web page ของเขาแล้วน่าจะเป็นขบวนการแบบครอบครัวคือแม่กับลูก โลโก้ของเขาจะเป็นต้นไม้สีเขียวมีภาษาจีนเป็นสีเหลือง

บุคคลเหล่านั้นหรือองค์กรพวกนั้นอยู่ที่ Melbourne ครับ ได้โปรดพากันระวังด้วย ได้โปรดใช้วิจารณญาณของท่านด้วย ในการที่จะใช้บริการหรือว่า engage services ของพวกเขา


เพราะเขาอ้างว่าสำหรับคนที่วีซ่าขาด เขาจะช่วยขอ Protection Visa หรือวีซ่าลี้ภัยให้ หลังจากนั้นก็จะได้เป็น Bridging Visa C แล้วเขาก็บอกว่าสามารถอยู่ที่นี่ได้ถึง 2 ปีแล้วช่วง 2 ปีถ้าเผื่อหากไม่มีประวัติอะไรใดๆคุณจะสามารถได้ PR ได้เลย


เราต้องใช้วิจารณ์วิจารณญาณของเราด้วยนะครับว่า Protection Visa หรือวีซ่าลี้ภัยนั้นมีเอาไว้สำหรับคนที่ต้องการลี้ภัยจริง ๆ แสดงว่าชีวิตของเขานั้นไม่สามารถที่จะกลับไปที่ประเทศไทยได้ อาจจะเพราะว่ามีภัยที่คุกคามต่อชีวิตของเขา ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่มีสงครามดังนั้นการที่ใครจะมาขอลี้ภัยนั้นเป็นไปได้ยากมาก นอกเสียจากว่าคุณคนนั้นจะขอลี้ภัยทางการเมือง

การที่ใครจะขอลี้ภัยทางการเมืองเขาคนนั้นก็ต้องเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลสูงในสังคมการเมือง หรือมีความขัดแย้งกับกลุ่มการเมืองอะไรสักอย่าง เขาต้องรู้สึกไม่ปลอดภัยถ้าจะกลับไปที่ประเทศไทย
การขอ Protection Visa นั้นไม่ผ่านแน่นอน ไม่ได้ PR แน่นอน แต่บางคนก็เลือกที่จะขอ เพียงเพราะเพื่ออต้องการที่จะซื้อเวลา เพื่อที่จะได้จัดการกับชีวิตของตัวเองเท่านั้น หรือสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมที่จะกลับไปประเทศไทย 

เราอยากจะให้ทุกคนมองโลกด้วยความเป็นจริง ไม่อยากให้เพ้อฝันอะไรลมๆแล้งๆ ชีวิตและบรรทัดฐานต้องตั้งอยู่บนความเป็นจริง อย่าไปคาดหวังที่จะได้ PR จาก Protect Visa พราะเมืองไทยไม่ใช่ประเทศที่มีสงครามเหมือนพวก Middle East หรือประเทศอื่น ๆ 

แล้วที่บอกว่าถ้าเผื่อได้วีซ่ามาแล้ว อยู่ที่นี่ 2 ปีแล้วไม่มีประวัติอะไรใด ๆเลยคุณก็จะได้ PR นั้นไม่เป็นความจริงครับ เพราะว่าเราจะได้วีซ่าผู้ลี้ภัยนั้น ทางอิมมิเกรชั่นก็จะดูหรือคุณสมบัติของเราว่า เรา meet requirement ของ Protect Visa จริงไหม เราต้องการลี้ภัยจริงหรือเปล่า ไม่ใช่เพียงแค่ว่าอยู่ที่นี่ 2 ปีแล้ว เป็นคนดี ไม่มีประวัติก็จะได้ PR เลย ถ้าเพื่อเป็นแบบนี้ทุกคนเขาก็คงมาขอ Protection Visa แล้วก็ได้ PR กันหมดแล้วหละ

กฎหมายมีเอาไว้เพื่อจัดระเบียบสังคม
กฎหมายไม่ได้มีเอาไว้ให้คนแหก

ส่วนคนที่แอบอ้างว่าสามารถช่วยท่านได้ นั่น นี่ โน่น 
ลองดู website ของเขา 
ลองดู page ของเขา 
ลองดู profile ของเขาด้วยว่า เขาและลูกมี MARN ที่ถูกต้องหรือเปล่า เขาจบกฎหมายของ Immigration ประเทศออสเตรเลียจากมหาลัยอะไร เพราะว่าที่ประเทศออสเตรเลียมีแค่ 4 มหาลัยเท่านั้นที่สามารถเรียนกฎหมายของ immigration ได้

ศึกษา รู้เท่าทัน
อยาตกเป็นเหยื่อของคนประเภทนี้
อย่าปล่อยให้เขาทำนาบนหลังเราได้...

Thursday, September 8, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย วีซ่าขาด ข้อมูลจะถูกเก็บไว้แค่ 5 ปี จริงเหรอ


มีคนบอกว่าเขาเคยได้ยินคนอื่นพูดมาว่า

ถ้าวีซ่าขาดแล้ว immigration จะเก็บข้อมูลไว้แค่ 5 ปี แล้วหลังจากนั้น immigration จะมีการลบข้อมูลทิ้ง คนที่วีซ่าขาดจะไม่มีประวัติใดใดทั้งสิ้น

เราอยากจะบอกว่า ข้อมูลพวกนี้ไม่เป็นความจริงนะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเราในเรื่องของ immigration ข้อมูลทุกอย่าง จะถือว่าเป็นประวัติหรือ records ติดตัวเราไปตลอดชีวิต

ทาง immigration จะไม่มีการล้างฐานข้อมูลหรือ clear ประวัติของใครใดๆทั้งสิ้น ดังนั้นเวลาให้ข้อมูลหรือกรอกเอกสารของ immigration โดยเฉพาะตอนขอ PR ปกติแล้วมันจะมีคำถามว่าเราเคย overstay ไหม ดังนั้นคนที่วีซ่าขาดต้องตอบว่าเคย overstay นะครับ ต่อให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นมาแล้วหลายหลายปีก็ช่าง เพราะว่าทาง immigration จะมี records ของเราทั้งหมดเลย ดังนั้นทุกอย่างเราต้องตอบให้ตรง เพราะไม่อย่างนั้นเราจะมีความผิดโทษฐานให้ข้อมูลผิด หรือโกหกอิมมิเกรชั่น โดนแบน 3 ปีได้นะครับ

ประวัติทาง immigration จะเป็นอะไรที่ติดตัวเราไปตลอดชีวิต

เปรียบเสมือนหนึ่ง ถ้าเราเคยเสียตัวให้ใคร ฉันใดก็ฉันนั้น เราจะไปบอกคนอื่นว่าเรา virgin เราบริสุทธิ์ไม่ได้ ต่อให้เหตุการณ์นั้นจะผ่านไปแล้ว 5 ปีก็ตามเถอะ

ดังนั้นการที่เราไปฟังคนอื่นพูดมาเราต้องดูด้วยนะครับว่าคุณจะพูดนั้นเป็นใคร อย่าเชื่อใคร อะไรง่ายๆเพียงเพราะว่าเขาคนนั้นเป็นเพื่อน

ตัวเราเองเราต้องศึกษาข้อมูลแล้วใช้วิจารณญาณในการพิจารณาด้วย เพราะเหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเราจะไปบอกว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลยมันเป็นไปไม่ได้มันไม่ make sense

วีซ่าขาดไม่ได้หมายความว่าชีวิตเราต้องหมดหวังซะหน่อย
คนที่วีซ่าขาดก็ยังมีอีกหลายทางเลือกเยอะแยะ ขอเพียงเพื่อให้เขาปรึกษาผู้รู้ก็เป็นพอ

อย่าลืมนะครับว่า ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้
ขอให้เราแก้ให้ถูกจุด

ค่อยๆแก้ไปไปทีละจุด เดี๋ยวทุกอย่างก็จะค่อยๆคลี่คลายและดีขึ้นเอง

Sunday, September 4, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย Skill assessment ของสาขาอาชีพพยาบาล


Skilled Migrant Programme สาขาอาชีพพยาบาล หรือ Registered Nurse เป็นอีกสาขาอาชีพหนึ่งที่ถือว่าเป็นสาขาอาชีพที่มีความต้องการสูง เพราะเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เรา และประเทศออสเตรเลียเองก็ผลิตพยาบาลไม่พอตามความต้องการของคนไข้

การที่เราจะขอวีซ่า ขอ PR (Permanent Resident) ในตำแหน่งพยาบาล ภายใต้ Independent Skilled Migrant, subclass 189 นั้น นอกจากเราจะต้องนับ point ให้ได้ 60 points แล้ว เราจะต้องทำ skill assessment ให้ผ่านด้วย

หน่วยงานที่ทำ skill assessment ของสาขาอาชีพพยาบาลคือ Australian Nursing & Midwifery Accreditation Council; ANMAC 

เดี๋ยว blog นี้เราจะมาดูในเรื่องของรายละเอียดการทำ skill assessment กับ ANMAC กันนะครับ

เนื่องด้วยตำแหน่งงานในสาขาอาชีพพยาบาลมีหลายสาขามาก แต่ blog นี้เราขอ focus แค่ Registered Nurse ก็แล้วกัน ถ้าใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในสาขาอาชีพอื่น ก็เข้าไปดูข้อมูลกันได้ ที่ website ของ ANMAC ข้างบน

Requirement ในการทำ skill assessment ของ registered nurse:
1. ID ต่างๆ; passport, ใบเกิด ใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อมาก่อน)
2. ผลสอบภาษาอังกฤษ;  IELTS Academic, OET for Nurses, PTE Academic หรือ TOEFL iBT.

  • คนที่จะเป็นพยาบาลที่ออสเตรเลีย ภาษาอังกฤษต้องดี เพราะต้องพูดคุยและสื่อสารกับคนไข้และเพื่อนร่วมงาน และทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเป็น ความตายของคนไข้ ดังนั้น ANAMC จะรับผลสอบภาษาอังกฤษที่สอบผ่านทีเดียว หรือสอบ 2 รอบภายใน 6 เดือนเท่านั้น ANMAC จะไม่รับผลสอบของคนที่สอบภาษาอังกฤษบ่อยๆ ดังนั้นเราแนะนำให้คนที่มั่นใจจริงๆ พร้อมจริงๆ ถึงควรจะไปสอบภาษาอังกฤษ
  • IELTS Acamedic, overall 7, ทุกอย่างอย่างต่ำ 7 หรือถ้าสอบ 2 รอบภายใน 6 เดือน ทุกครั้งที่สอบต้องได้ overall 7 และทุกอย่างห้ามต่ำกว่า 6.5
  • OET; Occupational English Test, ต้องได้ทุกอย่าง อย่างต่ำ B, หรือถ้าสอบ 2 รอบภายใน 6 เดือน ทุกครั้งต้องสอบทั้ง 4 parts (พูด อ่าน เขียน ฟัง) และทุก part ห้ามต่ำกว่า C
  • PTE Acamedic (Pearson Test of English), overall 65 และต้องได้อย่างต่ำ 65 ทุกอย่าง หรือถ้าสอบ 2 รอบภายใน 6 เดือน overall ของแต่ละครั้งต้องได้อย่างต่ำ 65 และ ทุก part ห้ามต่ำกว่า 58
  • Test of English as a Foreign Language (TOEFL) iBT, overall 94 และคะแนนอย่างต่ำ: 24 ฟัง, 24 อ่าน, 27 เขียน, 23 พูด หรือถ้าต้องสอบ 2 รอบภายใน 6 เดือน คะแนน overall ต้องอย่างต่ำ 94 และทุกครั้งที่สอบ คะแนนของแต่ละ part ห้ามต่ำกว่า: 20 ฟัง, 19 อ่าน, 24 เขียน, 20 พูด

3. การศึกษา

  • ต้องได้มาตรฐานของประเทศออสเตรเลีย
  • มีใบประกอบวีชาชีพพยาบาล และใบประกอบวิชาชีพพยาบาล ไม่ได้ออกโดย ANMAC นะครับ ใบประกอบวิชาชีพพยาบาลออกโดย AHPRA; Australian Health Practitioner Regulation Agency ผลสอบภาษาอังกฤษที่ใช้ในการขอใบประกอบวิชาชีพต้องเป็น IELTS Academic ทุกอย่าง อย่างต่ำ 7.0 หรือ OET เท่านั้น และมีผลใช้ได้แค่ 2 ปี (ซึ่งแตกต่างจากการนับ point ของอิมมิเกรชั่น ที่สามารถใช้ได้ถึง 3 ปี)
  • นักเรียนที่จบจาก Australia, Canada, New Zealand, Republic of Ireland, South Africa, United Kingdom or United States of America และใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน ไม่จำเป็นต้องสอบ IELTS

4. ในระยะเวลา 5 ปีก่อนที่จะทำ skill assessment ผู้สมัครต้อง ทำงานในสาขาของพยาบาลมาแล้วอย่างต่ำ 1 ปีที่ออสเตรเลีย หรือ 3 ปีที่ต่างประเทศ (ประเทศใหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ประเทศออสเตรเลีย)

  • นักเรียนที่จบพยาบาลจากประเทศออสเตรเลีย หรือประเทศนิวซีแลนด์ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การทำงาน ดังนั้นคนที่จบจากออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ก็จะมีข้อได้เปรียบนะครับ

5. ใบอนุญาติหรือใบประกอบวิชาชีพจากประเทศนั้นๆ ที่เราทำงานอยู่ ใบประกอบวิชาชีพต้องเป็นตัวจริง ANMAC จะไม่รับตัวถ่ายเอกสาร fax หรือ scan