Thursday, April 30, 2009

ถ้าได้ PR แล้วอยาก sponsor น้องชาย

มีน้องคนหนึ่งอยากรู้ว่า ถ้าเค๊าได้ PR แล้ว นานเท่าไหร่เค๊าถึงจะสามารถ sponsor น้องชายเค๊าได้

คำตอบง่ายๆ สั้นๆ คือ ไม่ต้องรอจ๊ะ sponsor ได้เลย แต่ก็มีเงื่อนไขบ้างเล็กน้อย ไม่ยาก คือ:
  • คนที่ sponsor เนี๊ยะ ต้องอยู่ภายในประเทศออสเตรเลีย ตอนที่น้องชายเค๊ายื่นใบสมัคร
  • คนที่เป็น sponsor เนี๊ยะ ก็ต้องมีเงินในบัญชี ที่สามารถ ดูแลน้องชายเค๊า (ถ้าน้องชายไม่มีงานทำ) ได้อย่างต่ำ 2 ปี
  • คนที่เป็น sponsor เนี๊ยะ ก็ต้องมีที่พักให้น้องชาย จริงๆแล้ว ข้อเนี๊ยะ ก็ common sense นะ เพราะปกติคนไทยเรา คงไม่ปล่อยให้น้องตัวเองเคว้งคว้าง ไม่มีที่นอน :)
ส่วนน้องจะได้ PR หรือไม่นั้น ก็ต้องมาดูคุณสมบัติของน้องชายเค๊าอีกทีหนึ่ง

John, J The Migration Team
0412-470969

Wednesday, April 29, 2009

มีธุรกิจ อยากขอ PR

หลายคนคิดว่า ถ้าทำธุรกิจแล้ว ต้องสมารถขอ PR ได้แน่ๆเลย ตรงจุดนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆคนคิดนะครับ ก็มีหลายอย่างที่ต้องดู

- เรื่องอายุ เรื่องภาษา พี่จอห์นเขียนมาแล้วรอบหนึ่ง

- การจะยื่นขอ PR โดยใช้หลักของการมีธุรกิจมาเป็นหลักใหญ่ ต้องยื่นเรื่องมาจากข้างนอกนะครับ

- สามารถยื่นเรื่องภายในประเทศได้ ก็ต่อเมื่อถือวีซ่านักเรียนเท่านั้น อันนี้ก็แปลกเหลือเกิน พี่จอห์นเองก็ไม่รู้ว่า คุณพี่อิมมิเกรชั่นเนี๊ยะ เค๊าคิดอะไรของเค๊าอยู่

- วีซ่าที่ได้จะไม่ใช่ PR เลยทันที อิมมิเกรชั่นจะให้โอกาสพิสูจน์ผลงานก่อน 2 ปี ว่าธุรกิจไปได้ดีมั๊ย ถ้าไปได้ด้วยดี คุณพี่อิมมิเกรชั่น ถึงจะอนุมัติให้ PR ได้


นี่ก็เป็นข้อมูลคร่าวๆนะครับ พอแค่ตอบคำถามของหลายๆคนที่สอบถามกันเข้ามา

พี่จอห์น


Sunday, April 12, 2009

Same-sex relationship

ประกาศ ประกาศ ตั้งแต่วันที่ 1 July 2009 เป้นต้นไป ทางกระทรวงอิมมิเกรชั่นจะมีการเปลียนแปลงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนเพศเดียวกัน หรือเรียกกันง่ายๆว่า Same-sex relationship

ภายใต้กฏหมายใหม่นี้ ทางกระทรวงอิมมิเกรชั่น จะให้สิทธิทางอิมมิเกรชั่นให้กับ คนที่มีความสัมพันธ์กันกับคนเพศเดียวกัน เทียบเท่ากับคนที่มีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 July 2009 เป็นต้นไป applicant สามารถยื่นขอวีซ่าแบบ de-facto ได้ และเวลากรอกใบสมัครทำเรื่องขอวีซ่า ก็สามารถเอาชื่อ partner เป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัวได้

หลังจากวันที่ 1 July 2009 วีซ่าของออสเตรเลียก็จะเปิดกว้างมากขึ้น :)
ท่านใดสนใจเรื่องวีซ่าสำหรับ same-sex relationship นี้ก็สามารถสอบถามกันเข้ามาได้ ส่วนท่านใดที่อยากจะยื่นเรื่องทำวีซ่าให้แฟน ก็อดใจรอกันอีกนิดนะครับ ไม่นานเกินรอ

พี่จอห์น
J The Migration Team, Wollongong NSW

Australian pupulation reached 21.5 millions

ผลจากการสำรวจประชากรเมื่อเดือนที่ผ่านมา ตอนนี้ประชาการของประเทศออสเตรเลียอยู่ที่ 21.5 ล้านคน นี่ก็ถือว่าเป็นการเติบโตทางจำนวนประชากรที่มากที่สุดหลังจากสงครามโลก

การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรในครั้งนี้ ก็เนื่องด้วยมาจากการเพิ่มจำนวนของนักเรียนต่างด้าว และอัตราการเกิดของประชากรที่นี่ เมื่อปีที่ผ่านมา ก็มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นถึง 389,000 คน และประชากรทั่วประเทศก็ถึง 21.5 ล้านคนเมื่อเดือน Septermber ปีที่แล้ว

จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้ ก็มาจาก อิมมิเกรชั่น ถึง 61% ซึ่งก็ถือว่าเยอะเหมือนกัน
ประชากรจากรัฐ NSW ก็มีการย้ายถิ่นฐานไปรัฐอื่นถึง 22,400 เมื่อปีที่ผ่านมา

ประชากรที่มีการอพยพมาอยู่ที่นี่ ก็มาจาก นิวซีแลนด์, อังกฤษ, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้

และเนื่องด้วยสภาวะเศรษกิฐที่ถดทอยอของประเทศอังกฤษซึ่งก็มีคนออสเตรเลี่ยนทำงานอยู่ที่นั่นเยอะเหมือนกัน ตอนนี้จำนวนคนออสเตรเลี่ยนที่ทำงานอยู่ที่ประเทศอังกฤษก็เริ่มพากันกลับบ้านเกิดเพื่อมาหางานทำที่นี่ ในขณะเดียวกัน ประชากรจากนิวซีแลนด์ก็พากันเข้ามาหางานทำที่ออสเตรเลียมากขึ้น เนื่องจากตอนนี้เศรษกิจที่นิวซีแลนด์ย่ำแย่กว่าออสเตรเลียเยอะมากเลย

อันนี้ก็เป็นข้อมูลประดับสมองก็แล้วกันนะ

Thursday, April 9, 2009

Student Visa to own a business

กลับมาตามคำสัญญา และก็หวังว่าคราวนี้คงจะได้ตอบปัญหาที่อาจค้างคาอยู่ในใจน้องๆหลายๆคนที่ถือวีซ่านักเรียน และก็อยากทำธุรกิจที่นี่กัน

คำตอบง่ายๆ สั้นๆ คือ ทำได้ครับ น้องๆคนใหนที่ถือวีซ่านักเรียน อิมมิเกรชั่นไม่ได้ห้ามว่า ห้ามทำ business ที่นี่ เคยมีคนพูดปากต่อปากมามากแล้วว่าทำธุรกิจไม่ได้ อันนั้นไม่จริง

ถือวีซ่านักเรียนสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้จริง แต่ก็ยังต้องทำตามเงื่อนไขของวีซ่านักเรียนที่ตัวเองถืออยู่นะ คือทำงานเกิน 20 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ไม่ได้นะครับ ปัญญาตรงนี้ เป็นปัญญาเรื่องของการจัดการ อันนี้น้องๆคนใหนที่อยากเปิดธุรกิจที่นี่ ก็ให้พึงจำตรงนี้ไว้ด้วย จะจ้างพนักงาน หรือผู้จัดการมาบริหารแทน หรืออะไรก็ตามแต่ ก็ต้องระวังตรงจุดนี้ด้วย ก่อนลงมือทำอะไร ปรึกษาทนายความ หรืออิมมิเกรชั่นเอเย่นต์นิดหนึ่ง ก็น่าจะดี

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เรื่องของการเสียภาษี ถ้าถือวีซ่านักเรียนแล้วทำธุรกิจที่นี่ การเสียภาษีรายได้ประจำปี ก็จะเป็นอีกอัตราหนึ่ง ซึ่งจะเสียแพงกว่าที่เป็นคน local บ้างเล็กน้อย ตรงจุดนี้พี่จอห์นก็แนะนำให้ปรึกษา accountant ก่อนที่จะลงมือทำอะไร

จะทำอะไรก็ตามแต่ ก็ขอให้ plan กันให้ดีๆนะครับ ความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

พี่จอห์น
J The Migration Team, 0412-470969