Wednesday, April 2, 2025

วีซ่านักเรียน ยื่น Partner Visa แล้วโดนยกเลิกวีซ่านักเรียน


ถือวีซ่านักเรียน (หรือวีซ่าอะไรก็ตาม) ถ้ายื่น Partner Visa ภายในประเทศ Subclass 820/801 เราก็จะได้ Bridging Visa A

จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ถ้าวีซ่านักเรียนของเราโดนยกเลิก (visa cancellation) อาจจะเป็นเพราะไม่ไปเรียน หรือไม่ได้จ่ายค่าเทอม

สิ่งที่จะตามมาก็คือ

1. เมื่อวีซ่านักเรียนโดนยกเลิก Bridging Visa A ของเราก็จะโดนยกเลิกไปด้วย automatically ดังนั้นเราจะอยู่ในสถานะของคนวีซ่าขาด ซึ่งทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่ามันมีชื่อเรียกกันว่าอย่างไร

สิ่งที่เราต้องรีบทำคือ

2. ยื่นอุทธรณ์ไปที่ ART ให้เร็วที่สุด ตามวันที่กำหนดมาในจดหมาย

3. ยื่นขอ Bridging Visa E เพื่อเราจะได้ไม่เป็นคนที่ "ไม่มีวีซ่า"

4. ต้องทำ 2 กับ 3 ก่อน เราถึงจะอยู่รอ Partner Visa ของเราที่นี่ได้ 

Note: Bridging Visa E ไม่สามารถเดินทางต่างประเทศได้ ต้องอยู่ที่นี่จนกว่า Partner Visa จะ finalise

Thursday, March 27, 2025

สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ชนะศาลอุทธรณ์; วีซ่านักเรียน

"สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ชนะศาลอุทธรณ์; วีซ่านักเรียน"

AAT/ART ชนะแล้ว หมดหน้าที่ของ "J Migration Team" เพราะเราถูกจ้างมาเพื่อดูแลการอุทธรณ์เท่านั้น

เราไม่ได้ทำวีซ่านักเรียน
สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือ

1. เรื่องจะถูกส่งกลับไปให้ case officer พิจารณาใหม่ ให้ grant visa แต่ก่อนที่จะ grant เขาก็จะดูก่อนว่ามีเอกสารอะไรจะหมดอายุหรือเปล่า อย่างเช่นผลตรวจร่างกาย...etc...etc....

2. Case officer จากอิมมิเกรชั่นจะส่ง email ไปหา Student Agent หรือคนที่ยื่นเรื่อง ไม่ส่งมาที่ "J Migration Team"

3. คนสมัครจะต้องบอก Student Agent ของคนสมัครให้รอรับ email จาก case officer ด้วยนะครับ แล้วก็สานกันต่อเลย จะไปตรวจร่างกายหรืออะไรก็ว่าไป แล้ววีซ่าก็จะ grant (ถ้าไม่มีอะไรติดขัด)

กราบขอบคุณที่เลือกใช้บริการของเรา
สินค้าดีใช้แล้วช่วยบอกต่อ

Tuesday, March 18, 2025

วีซ่า subclass 407; Training Visa

วีซ่า subclass 482 SID; Skills in Demand คือวีซ่าทำงานโดยที่มีนายจ้างสปอนเซอร์


แต่วีซ่า subclass 482 ก็เป็นอะไรที่มี requirement ที่ค่อนข้างยุ่งยาก โดยเฉพาะให้เรื่องของ:

- ประสบการณ์การทำงาน
- skill assessment
- ผลสอบภาษาอังกฤษ

และอะไรอื่น ๆ อีกมากมาย

ก็เอาเป็นว่าแต่ละคนมีคุณสมบัติอะไรหลาย ๆ อย่างไม่เหมือนกัน
บางคนขอวีซ่า subclass 482 ได้ง่าย แต่บางคนขอได้ยาก

subclass 482 ที่หลาย ๆ สาขาอาชีพที่ต้องมี Caveat หรือ special requirement เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ความซับซ้อนมันก็ยุ่งวุ่นวายไปอีก 

วีซ่าในหมู่ตระกูลของ subclass 400s มันก็หลายวีซ่าด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็น subclass 482, 407, 408 & 403...etc..etc..

วีซ่า subclass 407 เป็นวีซ่าสำหรับการฝึกงาน กับนายจ้างหรือองค์กรที่เขาต้องการจะ train เรา

requirement ของวีซ่าตัวนี้ไม่ได้ยาก แต่เราก็อยากจะให้ทุกคนเลือกวีซ่าตัวนี้ด้วยความระมัดระวัง

เพราะวีซ่าตัวนี้ไม่มีกฎหมายบังคับว่านายจ้างต้องจ่ายค่าแรงเราเท่าไหร่ เพราะนี่คือวีซ่าฝึกงานเท่านั้น

มันไม่ใช่วีซ่าทำงานที่มีค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมายบังคับ

เราอาจจะได้วีซ่า 2 ปีก็จริง แต่ถ้าทำงานหรือฝึกงานโดยที่ไม่ได้ค่าแรงเลย เราจะกลายเป็น modern slaves หรือเปล่า

ประสบการณ์การทำงานตอนที่ถือวีซ่า subclass 407, ถ้ามีการจ่ายค่าแรงอะไรที่ถูกต้อง และมีการเสียภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมาย เราก็สามารถนำเอาประสบการณ์การทำงานตรงจุดนี้มาต่อยอดในการทำวีซ่าตัวอื่น ๆ ได้ด้วย อย่างเช่น

- subclass 482 SID
- subclass 186 ENS (PR)
- subclass 494 


1. วีซ่า subclass 407 ไม่ได้จำกัดอายุของคนสมัคร ขอให้อายุ 18 ขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว

2. ภาษาอังกฤษเองก็ requires แค่ IELTS (general) overall 4.5
หรือถ้าเรียนพวก college หรือ TAFE full-time ที่ประเทศออสเตรเลียเป็นเวลา 1  ปี ก็สามารถเอามาเทียบเท่ากับ IELTS overall 4.5 ได้

ถ้าใครเรียนระดับมัธยมไม่ว่าเป็นที่ประเทศออสเตรเลีย หรือเรียนเป็น internaltional school มาจากประเทศอื่น ก็สามารถนำเอามาเทียบเท่าได้เหมือนกัน แต่ต้องเรียน full-time 5 ปี

แต่ถ้าเป็นมัยธม + ประถม เรียนแค่ 3  ปีก็พอ (สื่อการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ เรียนแบบ face-to-face ตัวเป็น ๆ )

3. การที่เราจะขอวีซ่า subclass 407 เราก็ต้องมีนายจ้างหรือองค์กรที่ต้องการ sponsor เราก่อน ก็เหมือนการทำ nomination ของพวกวีซ่า subclass 482 TSS ซึ่งนายจ้างเองหรือองค์กรก็ต้องทำเรื่องเข้าไปเพื่อขอเป็นหน่วยงานที่สามารถทำเรื่องสปอนเซอร์คนด้วยวีซ่าตัวนี้ 

เรื่องการ nominate position เข้าไปก็ไม่แตกต่างอะไรจากพวกวีซ่า subclass 482, 186 & 494

ถ้าหากเราขอวีซ่าอะไรไม่ได้แล้ว คุณสมบัติไม่ครบ หรือว่าเรายังไม่พร้อมอะไรหลาย ๆ อย่าง มีอะไรก็คว้าเอาไว้ก่อน ก็คว้าวีซ่า subclass 407 มาก่อนก็ได้


วีซ่า subclass 407 มันก็ยังสามารถเป็น Pathway ไปทำอะไรอื่นได้อีกเยอะเหมือนกัน เพราะวีซ่าที่ได้มา 2 ปี อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 2 ปีนี้


วีซ่าตัวนี้ก็สามารถทำเรื่องขอมาจากเมืองไทยได้ด้วย สำหรับใครที่สนใจอยากจะมาลองทำงานกับนายจ้างก่อน 2 ปี 

วีซ่า subclass 407 ตัวนี้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

Note1: บริษัทเราเลิกทำ Subclass 407 ตั้งแต่ปี 2019 แล้ว เราไม่มีเวลาในการเขียน training plan ของ Stage 2; Nomination 

Note2: ยื่น Subclass 407 แล้วไม่ผ่าน เราสามารถอุทธรณ์เรื่องเข้าไปที่ศาลอุทธรณ์ได้ (ART) แล้วก็จัดการชีวิตตัวเองให้เสร็จสรรพในระหว่างที่รอ ART; 1.5 - 2 ปี

Monday, March 17, 2025

Submission

ต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่แล้ว

วันนี้นั่งเขียน "submission" ต่อ x 3 cases (1 วัน)

เยอะมาก หลาย case หลายเรื่องหลายราว

การเขียน "submission" คือ:

1. case officer คิดว่า case นี้มีอะไร "something"

2. เราก็ต้อง fight ก็ต้องอธิยาย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับปลายปากกา เราขา fight อยู่แล้ว ปลายปากกาต้องพริ้ว persuasive writing ต้องมา

Writing skills สำคัญนะครับ
การเลือกใช้คำ
โน้มน้าวจิตใจนั่น นี่ โน่น

ยกแม่น้ำทั้ง 5-6-7
เชื่อมโยงเรื่องราว

ทุก "submission" ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ก็เลยไม่รวยสักที!!!

17/03/2025 💕💕💕

Saturday, March 15, 2025

Common mistakes with Student Visa Application


Common mistakes with Student Visa Application ของ VET course

1. ลงเรียน course ราคาถูก

2. เรียนอะไรง่าย ๆ general มากจนเกินไป ไม่ใช่ course ที่ hand-on ไม่ practical

3. Copy & paste course outline มาจาก course brochure

4. เงินไม่มีที่มาที่ไป

5. เงินมาจากญาติแต่ไม่ได้เขียน family tree ทางอิมมิเกรชั่นไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เกี่ยวข้องกัน

6. คิดว่าเขียนจดหมาย support; Genuine Student Statement ยาว ๆ หลาย ๆ หน้า

7. คิดว่าเดินทางต่างประเทศหลาย ๆ ประเทศจะช่วยให้วีซ่านักเรียนผ่านง่าย

Note: เราไม่ทำวีซ่านักเรียน เราทำศาลอุทธรณ์ ART; Administrative Review Tribunal.

Subclass 186 (ENS); Director


Subclass 186 (ENS; Employer Nomintation Scheme) ไม่ว่าจะ stream ไหน เมื่อเราใช้ชื่อคนอื่นเป็น director ให้

เมื่อวีซ่าเราผ่าน
เราได้ PR

เราสามารถเอาชื่อเราหรือชื่อแฟนเราเข้าไปเป็น director ได้เลยทันที

ก็ไม่จำเป็นต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจอีกต่อไป
คนสมัยนี้เชื่อใจยาก
เงินหลักร้อยเขายังเอาเลย

อย่าลืมดูด้วยว่า  director เก่าได้ไปสร้างหนี้อะไรที่เป็นหนี้สินของบริษัทหรือเปล่า

Friday, March 14, 2025

New caps family visa stream; 01 July 2024 - 30 June 2025


New caps family visa stream; 01 July 2024 - 30 June 2025

1. Contributory: 6,800 (ที่จ่ายเงิน $43,600)

2. Parent Visa: 1,700

3. Family อื่น ๆ: 500

นี่คือเหตุผลที่บริษัทเรารับทำเฉพาะ Contributory Parent Visa

Money เท่านั้นที่ knock everything....

ส่วน "Family อื่น ๆ" ก็สมาชิกคนสุดท้ายของครอบครัว...etc...etc... Remaining Relative Visa; Subclass 115 หรือ Subclass 835

Thursday, March 13, 2025

Skilled Migrant Visa; Subclass 189/190/491: ขอวีซ่าได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องใช้นายจ้างสปอนเซอร์



1. Skilled Migrant Visa; Subclass 189, Subclass 190, Subclass 491 ขอวีซ่าได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องใช้นายจ้างสปอนเซอร์

2. Subclass 189, Subclass 190 ไม่จำเป็นต้องออกไปเมืองรอบนอก

3. Subclass 189; Skilled Independent Visa ขอได้ทั่วประเทศออสเตรเลีย ได้ PR (Permanent Resident) เลย สามารถยื่นได้จาก offshore หรือ offshore

สาขาอาชีพที่สามารถขอได้ต้องอยู่ใน long-term list เท่านั้น Medium and Long‑term Strategic Skills List

4. Subclass 190; Skilled Nominated Visa ขอได้เป็นรัฐ ๆ ไป ได้ PR เลย แต่บังคับให้อยู่ต่อในรัฐ ๆ นั้นอีก 2 ปีหลังจากได้ PR เพราะเราได้ 5 แต้ม bonus จากรัฐ ๆ นั้น จะอยู่ส่วนใหนของรัฐ ๆ นั้นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองรอบนอก (regional)

แต่ละรัฐจะมีสาขาอาชีพที่เขาต้องการแยกไปต่างหาก 
แต่ละรัฐ occupation list จะไม่เหมือนกันและมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

แต่ละรัฐมี requirements ปลีกย่อยออกไป

5. Subclass 491; Skilled Work Regional (Provisional) visa เป็น TR (Temporary Resident) ได้มา 5 ปีแล้วต้องไปอยู่เมืองรอบนอก 3 ปีแล้วขอ PR ด้วยวีซ่า Subclass 191; Permanent Residence (Skilled Regional) visa 

การไปอยู่เมืองรอบนอก 3 ปี ทำอะไรก็ได้กับชีวิต เป็น free bird แต่ต้องอยู่เมืองรอบนอก 

อิมมิเกรชั่นจะ checks จากที่อยู่ และ pattern การใช้ชีวิต การกดเงินจากตู้ ATM ที่ไหน shopping ส่วนมากที่ไหน เติมน้ำมันส่วนมากที่ไหน  charge รถ EV ส่วนมากที่ไหน และอีกหลาย ๆ อย่าง

แต่ละเขตจะมีสาขาอาชีพที่เขาต้องการแยกไปต่างหาก 
แต่ละเขต occupation list จะไม่เหมือนกันและมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

แต่ละเขตมี requirements ที่แตกต่างกันออกไป

6. Subclass 189/190/491 ไม่ได้บังคับว่าเราต้องทำงานในสาขาอาชีพที่เราใช้ในการวีซ่า ขอให้เรานับแต้มให้ถึงเกณฑ์ที่ทางอิมมิเกรชั่นกำหนด

Note: Subclass 189/190/491 ไม่มี Health Waiver

Friday, March 7, 2025

ผู้ลี้ภัย


"ผู้ลี้ภัย" (Refugee) หมายถึง บุคคลที่อยู่ในนอกประเทศของตนเนื่องจากมีความหวาดกลัวอย่างมีมูลเหตุว่าจะถูกประหัตประหารเนื่องจากเชื้อชาติ ศาสนา สัญชาติ ความคิดเห็นทางการเมือง หรือการเป็นสมาชิกในกลุ่มสังคมเช่น เพศภาวะ, อัตลักษณ์ทางเพศ และไม่สามารถหรือไม่ต้องการขอความคุ้มครองจากประเทศต้นทางได้ หรือไม่ต้องการกลับไปเนื่องจากความกลัวดังกล่าว


ลักษณะสำคัญของ "ผู้ลี้ภัย" มีดังนี้:

1. อยู่นอกประเทศต้นทาง

2. มีความกลัวที่มีมูลเหตุชัดเจน (well-founded fear) ว่าจะถูกประหัตประหาร

3. สาเหตุของการประหัตประหาร ต้องเกี่ยวข้องกับปัจจัยเฉพาะ 5 ประการข้างต้น

ผู้ลี้ภัยแตกต่างจากผู้อพยพย้ายถิ่นทั่วไป โดยเน้นที่การหนีภัยคุกคามจากการถูกทำร้ายโดยเจตนา หรือผู้ลี้ภัยจากสงคราม

ทั้งนี้ การขอสถานะผู้ลี้ภัยต้องผ่านกระบวนการพิจารณาตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎหมายของประเทศที่ให้ที่ลี้ภัย

Wednesday, March 5, 2025

หน่วยงานที่ทำ Skill Assessment ของสาขาอาชีพครู


หน่วยงานที่ทำ Skill Assessment ของสาขาอาชีพครู เปลี่ยนแปลงเมื่อ 07 December 2024

1.Early Childhood (Pre-Primary School) Teacher; ครูสอนเด็กประถมวัย: ACECQA; Australian Children’s Education and Care Quality Authority

2. Secondary School Teacher; ครูสอนมัธยม: AITSL; Australian Institute for Teaching and School Leadership Limited

3. Special Needs Teacher; ครูสอนเด็กพิเศษ ที่มีความไม่สมบูรณ์ทางร่างกายและการเรียนรู้: AITSL; Australian Institute for Teaching and School Leadership Limited

4. Teacher of the Hearing Impaired; ครูสอนเด็กพิเศษ ที่มีความไม่สมบูรณ์ทางด้านหูหรือการฟัง: AITSL; Australian Institute for Teaching and School Leadership Limited

5. Teacher of the Sight Impaired; ครูสอนเด็กพิเศษ ที่มีความไม่สมบูรณ์ทางด้านสายตา: AITSL; Australian Institute for Teaching and School Leadership Limited

Tuesday, March 4, 2025

Section 48 bar


Section 48 bar คือ คนที่โดนวีซ่าปฏิเสธหรือถูกยกเลิกวีซ่าภายในประเทศออสเตรเลีย (visa refusal หรือ visa cancellation) จะโดน section 48 bar คือห้ามขอวีซ่าภายในประเทศออสเตรเลีย

ดังนั้นทุกคนที่ยื่นเรื่องอุทธรณ์อยู่ที่ศาลอุทธรณ์ ART ทุกคนติด section 48 bar หมดเลย ไม่ว่า you จะถือ Bridging Visa A, B, C หรือ E ดังนั้น you ไม่สามารถยื่นเรื่องวีซ่าได้ภายในประเทศออสเตรเลีย

ทุกคนที่โดน section 48 bar จะต้องเดินทางออกไปยื่นวีซ่าข้างนอกหมด เป็น offshore

ส่วนสำหรับวีซ่า subclass ตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Partner Visa หรือวีซ่าอะไรก็ตามแต่ ถ้าเราติด section 48 bar เราต้องเดินทางออกไปยื่นเรื่องนอกประเทศ

1. Partner Visa (onshore); Subclass 820/801 มีข้อยกเว้นในส่วนของ schedule 3

2. Medical Treatment Visa; Subclass 602 มีข้อยกเว้น เพราะต้องหาหมอ

Copyright: ถ้าจะแชร์ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น ไม่ copy & paste, ไม่ screen capture


Aged Care Worker

Aged Care Worker ไม่ได้อยู่ใน list อะไรเลย

Long-term list ก็ไม่อยู่
Short-term list ก็ไม่อยู่
CSOL; Core Skills Occupation List ก็ไม่อยู่

ลูกเมียน้อย

Aged Care Worker อยู่ใน Labour Agreement (Subclass 482 และ Subclass 186) ปัญหาคือมันมีไม่กี่บริษัทที่อยู่ใน Labour Agreement 

มันมีไม่กี่บริษัทที่อยากจะสปอนเซอร์พนักงาน

ทำงานดูแลคนแก่ หรือทุก ๆ อาชีพ เป็นงานที่มีเกียรติครับ เราชื่นชม

แต่นายจ้างจะสปอนเซอร์หรือเปล่านั้น อีกเรื่องหนึ่ง

คนเรียนเยอะมาก ค่าเรียนถูก
จบ Cert II หรือ Cert III ก็ทำงานได้แล้ว (Skill Level 4)

course เรียน "ถูกและดี" ไม่มีอยู่จริง
มันแค่ "การตลาด"

มองมากกว่าที่ตาเห็น
ฟังมากกว่าที่เคยได้ยิน

Copyright: ถ้าจะแชร์ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น ไม่ copy & paste, ไม่ screen capture.

อาชีพครูที่อยู่ใน long-term list



สาขาอาชีพครูที่อยู่ใน long-term list นะครับ Medium and Long‑term Strategic Skills List:

สามารถขอ PR ได้ด้วยตัวเอง
Skilled Migrant; Subclass 189

1.Early Childhood (Pre-Primary School) Teacher; ครูสอนเด็กประถมวัย

2. Secondary School Teacher; ครูสอนมัธยม

3. Special Needs Teacher; ครูสอนเด็กพิเศษ ที่มีความไม่สมบูรณ์ทางร่างกายและการเรียนรู้

4. Teacher of the Hearing Impaired; ครูสอนเด็กพิเศษ ที่มีความไม่สมบูรณ์ทางด้านหูหรือการฟัง

5. Teacher of the Sight Impaired; ครูสอนเด็กพิเศษ ที่มีความไม่สมบูรณ์ทางด้านสายตา

Bridging Visa B


ในหมวด Bridging Visa ทั้งหมด Bridging Visa B เป็น Bridging Visa ที่สามารถใช้เดินทางเข้าออกประเทศออสเตรเลียได้ ก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะได้เป็นเดินทางเข้าออกรอบเดียว (single entry) หรือเข้าออกประเทศได้หลาย ๆ รอบ (multiple entries)


Bridging Visa อย่างอื่นสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ แต่ไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาในประเทศออสเตรเลียได้ อย่างเช่น Bridging Visa A, Bridging Visa C หรือ Bridging Visa E

สรุปคือ "ออกไปแล้ว ออกไปเลย"

1. ปกติแล้ว Bridging Visa B ก็จะเป็น Bridging Visa ต่อเนื่องจาก Bridging Visa A, เพราะ Bridging Visa ตัวอื่น ๆ ไม่สามารถขอ Bridging Visa B เพื่อเดินทางออกนอกประเทศได้

2. Bridging Visa B โดยความรู้สึกส่วนตัวแล้ว เป็นวีซ่าให้เปล่า คือ 99.99% อย่างไรก็ขอได้ ขอให้จ่ายค่าสมัครมาเถอะอะไรประมาณนี้ เพราะว่า Bridging Visa ตัวอื่น ๆ จะไม่มีค่าสมัครเลย ทางอิมมิเกรชั่นสามารถออกให้ได้เลย ก็มีแต่ Bridging Visa B นี่แหละที่ต้องจ่ายค่าสมัคร

ด้วยระบบ ImmiAccount ที่มีการพัฒนาและทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ 
ตอนนี้เราสามารถขอ Bridging Visa B ผ่านระบบ ImmiAccount ได้

3. Partner Visa; subclass 820 ถ้าขอ Bridging Visa B, "ส่วนมากแล้ว" ก็จะได้มา 12 เดือน

วีซ่านักเรียนที่ติดอยู่ที่ ART ก็ได้ประมาณ 12 เดือน

แต่ถ้าเป็นพวก Subclass 482, Subclass 186, Subclass 187 จะได้แค่ประมาณ 3 เดือน

อันนี้ case-by-case นะครับ

4. การขอ Bridging Visa B นั้นเราก็ต้องให้เหตุผลด้วยว่าทำไมเราถึงจะต้องเดินทางออกนอกประเทศ ถ้าจะบอกว่า ไปเที่ยวอะไรประมาณนี้ก็อาจจะดูกระไรอยู่ ไม่เหมาะสม เราก็แนะนำให้บอกไปว่า กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ อะไรก็ว่าไปนะครับ

5. การขอ Bridging Visa B และการเข้าออกประเทศ ไม่มีผลต่อการพิจารณาวีซ่านะครับ อันนี้ถามกันเข้าเยอะ

6. ที่ "J Migration Team", normal practice ของเราคือขอ Bridging Visa B ก่อนที่จะซื้อตั๋ว จะได้ไม่ต้องมานั่งเลื่อนตั๋วทีหลัง หรือทำตัวเป็น "นกกระจิก"

Copyright: ถ้าจะแชร์ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น ไม่ copy & paste, ไม่ screen capture

Saturday, March 1, 2025

เพื่อนที่ไม่ค่อยดี


อยู่ที่ Wollongong เรามีเพื่อนที่สนิทเป็นชาวต่างชาติอยู่ 2 ครอบครัว
ครอบครัวเราและอีก 2 ครอบครัวจะไปมาหาสู่กันตลอด แต่ก่อนเจอกันทุก weekend สลับกัน host

ตอนนี้ไม่ได้เจอกันทุก weekend แล้ว
แต่เจอกันแทบทุก 1-2 week อยู่แล้ว

เป็น 3 ครอบครัวที่อยู่กันแบบเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เวลาครอบครัวเราไป Hurstville เราก็มีของกินมาฝากเพื่อนอีก 2 ครอบครัวนี้เสมอ ครอบครัวเพื่อนก็เหมือนกัน เวลาพวกเขาไป Hurstville พวกเขาก็จะมีของกินมาให้เสมอ พวกเราค่อนข้างรู้ว่าแต่คนชอบกินอะไร

มันเป็นอะไรที่ใจฟู

เพื่อนชาวต่างชาติ ถือ passport ประเทศ xyz
เพื่อนไม่สามารถมี dual citizen ได้ เขาก็เลยต่อ PR ไปเรื่อย ๆ

ประเทศของเพื่อนสามารถขอ Subclass 601 ETA; Electronic Trael Authority ได้ง่าย กรอกฟอร์ม 20 นาที autogrant แต่ต้องขอนอกประเทศนะครับ และอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน

ปรกติเพื่อน ๆ ก็จัดการเรื่องวีซ่าอะไรของพวกเขาเอง เขาเป็น PR อยู่แล้ว อยู่ที่นี่มา 20 กว่าปี

เมื่อหลายปีก่อน (เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่) คุณพ่อคุณแม่ของเพื่อนก็เที่ยวที่ออสเตรเลีย พวกเขาก็ขอ ETA กันเองตามปรกติ เผอิญว่าคุณแม่อยากจะอยู่ต่อ ซึ่งมันก็ขอ ETA ไม่ได้เพราะมันเป็น onshore คุณแม่ของเพื่อนต้องขอ Subclass 600; Tourist Visa ปรกติ

ด้วยความที่ว่าเราก็เจอเพื่อนบ่อยอยู่แล้ว สมัยก่อนก็เจอกันแทบทุก weekend พวกเราจะไม่เคยคุยเรื่องวีซ่าเพราะเราก็ take it granted ว่าเพื่อนเรา handle เองทุกอย่างและพวกเราก็ไม่ก้าวล่วงเรื่องส่วนตัว ถ้าเพื่อนต้องการความช่วยเหลือ เพื่อนจะเอ่ยปากเองแหละ (อันนี้เราก็คิดเองเออเอง)

เมื่อหลายปีก่อน ช่วงนี้เราก็เรียน ป.โท ไปด้วย
งานก็ต้องทำ เรียนก็ต้องเรียน
เพื่อนก็คงเห็นเรายุ่ง ๆ เพื่อนเลยไม่ได้บอกอะไร

เมื่อหลายปีก่อน ใช่ว่าทุกคนจะมี ImmiAccount และอิมมิเกรชั่น office ที่ Lee St, Sydney (Central) มันก็ยัง walk-in ได้อยู่ 

เพื่อนก็ต้องขับรถจาก Wollongong ไป Sydney เพื่อไปถามอิมมิเกรชั่นว่าต้องทำอะไร; 1-2-3-4

ตอนนั้นที่อิมมิเกรชั่น office ที่ Lee St ตรง counter จะมี computer ให้คนทั่วไปใช้

พนักงานที่ reception ชี้ไปที่ computer แล้วบอกให้เพื่อนเรากรอก online application ให้คุณแม่

เพื่อนอยู่ที่นี่มาหลายปีก็จริง ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้เก่งเวอร์
ใช้ computer ใช้ internet ก็งู ๆ ปลา ๆ (สมัยเมื่อหลายปีก่อน)
เพื่อนขับรถไปมา Wollongong - Sydney หลายรอบอยู่กว่าจะทำเรื่องให้คุณแม่เสร็จ

ผ่านไปสักพัก หลาย week เพื่อนถึงมาเล่าให้ฟังว่า เขาทำแบบนี้แบบนี้ ทำวีซ่าให้คุณแม่นะ ขับรถ Wollongong - Sydney หลายรอบมาก

บอกเลยว่าเรารู้สึกผิดมากตอนนั้น
เราก็บอกว่า "เดี๋ยวก่อนนะ you ขับรถไปกลับ Wollongong - Sydney หลายรอบเพื่อขอวีซ่าท่องเที่ยวให้คุณแม่??"

คือเราสามารถทำ online ให้คุณแม่ของเพื่อนได้เลย
เชื่อเถอะ 1-2 ชั่วโมงก็เสร็จ

คือเราเจอกันแทบทุก weekend อยู่แล้ว (สมัยนั้น) แต่เพื่อนก็ไม่เคยพูดอะไร
เพื่อนบอกว่า เพื่อนเห็นว่าเรายุ่งมาก ไม่อยากรบกวน มันเล็ก ๆ น้อย ๆ เดี๋ยวเขาจัดการเอง

ยอมรับเลยว่าตอนนั้นเรารู้สึกผิดมาก
เรา take things for granted
เรามัวแต่ยุ่งทำงาน หาเงิน จนลืมดูแลคนที่ใกล้ตัวพวกเรามากที่สุด

เราเลยบอกเพื่อน ๆ ทั้ง 2 ครอบครัวว่าต่อไปทุกเรื่องเกี่ยวกับวีซ่า ขอให้บอกเรา เดี๋ยวเราจัดการให้เองได้ ต่อให้ยุ่งแค่ไหน เราก็จะดูแลคนที่อยู่ใน "inner-circle" ของเราก่อน ทุกอย่างมันทำ online ได้ง่าย (สมัยโน้น ImmiAccount ยังใหม่อยู่)

ทุกวันนี้เราก็ต่อ PR; RRV นั่น นี่ โน่นให้เพื่อนและคนในครอบครัวของเพื่อนมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว

เราทำให้เพื่อนฟรี ๆ อยู่แล้ว แค่เพื่อนต้องจ่ายค่าสมัครเอง

ลูกของเพื่อนเกิดที่นี่ แต่เพื่อนก็เลือกที่จะให้ลูกถือ passport ประเทศของเขา เพราะประเทศเขาถือ dual citizenship ไม่ได้

เวลาผ่านไปหลายปี ลูกเรียน high school แล้ว โตแล้ว ลูกอายุเกิน 10 ขวบมานานแล้วหละ แต่ลูกของเพื่อนก็ยังถือ passport ประเทศนั้นอยู่ 

เมื่อมาถึงจุดที่มันต้องเลือก
เพื่อนก็เลยบอกให้เรายื่น citizenship ให้ลูกเขา ซึ่งหมายความว่าลูกเขาก็ต้องยกเลิก citizenship ประเทศนั้น

แน่นอนเราทำให้ลูกของเพื่อนฟรี ๆ อยู่แล้ว คนในครอบครัวเขา ก็เหมือนคนในครอบครัวของเรา 
3 ครอบครัวนี้อยู่ด้วยกันมานาน
มิตรภาพยั่งยืน

เราจ่ายค่าสมัครให้ลูกของเพื่อนด้วย
เพื่อนไม่ต้องจ่ายค่าสมัคร แค่ทำอาหารมาให้เรากินก็พอ
เราไม่มีพรสวรรค์ทางด้านอาหาร
เพื่อนมีพรสวรรค์ทางด้านการทำอาหาร
แค่เพื่อนคอยส่งอาหารส่งน้ำก็เป็นบุญปากเราแล้ว

เราก็ได้ทำหน้าที่ของเพื่อนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะเราสัญญากับดิน ลม ฟ้าและอากาศว่าจะไม่ให้เหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อนเกิดขึ้นอีกเด็ดขาดที่เราละเลยเพื่อนที่เราเจอกันแทบทุก week แล้วเขาต้องวิ่งเต้นเรื่องวีซ่าเอง มันดูไม่ถูกต้อง

อย่ามัวดูแลคนอื่น จนลืมดูคนใกล้ตัวนะครับ
อย่า take things for granted
โปรดอย่าเป็นเช่น P' J

Friday, February 21, 2025

VETASSESS + TRA: Chef



2:44pm: ได้รับ email ว่า Stage 1 ของลูกค้าผ่าน
4:09pm: เราก็แจ้งลูกค้า
4:15pm: เราก็ยื่น Stage 2 ให้ลูกค้า "เลยทันที"

VETASSESS; Chef ไม่ผ่านง่ายเหมือนสมัยก่อนแล้วนะครับ
ร้าน casual dinning หรือ cafe ง่าย ๆ ตอนนี้ก็ทำ Skill Assessement ไม่ได้แล้ว
แต่ก่อนผ่านฉลุย
ร้านปิ้งย่างเอย ร้าน buffet เอย ลืมไปได้เลย

...เฮ้อ... ปาดเหงื่อ.... 

ยากจัง กว่าจะได้มาแต่บาทแต่ละดอล์ล
เงินทองหามาได้ กอดไว้แน่น ๆ นะครับ อย่าให้ใครยืม

อันนี้ของ VETASSESS นะครับ ไม่เกี่ยวกับ JRP; Job Ready Program

1. Pathway 2 คือมีวุฒิการศึกษา Cert IV Kitchen Management หรือ Cert IV Commercial Cookery จากประเทศออสเตรเลีย ไม่ต้องทำอาหารให้คนตรวจดู

2. Pathway 1 คือไม่มีวุฒิการศึกษา Cert IV Kitchen Management หรือ Cert IV Commercial Cookery จากประเทศออสเตรเลีย อันนี้ต้องไปทำอาหารให้คนตรวจดู

3. วุฒิการศึกษาจาก RPL ก็ใช้ได้

4. ประสบการณ์ในการทำงาน 3 ปี full-time, หรือ 6 ปี part-time เอามานับรวมกันได้ ช่วงที่ทำ part-time ก็นับได้ครึ่งหนึ่ง

5. ประสบการณ์ 12 เดือนสุดท้ายต้องเป็น full-time เท่านั้น สำหรับคนที่อยู่ onshore ก็ต้องดูด้วยว่าตัวเองถือวีซ่าอะไร ทำงาน full-time ได้ไหมตอนนั้น

6. ประสบการณ์จากร้านที่เป็น table service เท่านั้น ประสบการณ์จากร้าน limited service ทำไม่ได้ ประสบการณ์จากร้านปิ้งย่างหรือร้าน buffet ทำไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น โปรดปรึกษา MARN ของคุณ

7. ต้องมีประสบการณ์ครบก่อน ถึงจะทำ Skill Assessment ได้

8. ประสบการณ์จากที่ไหนก็ได้ ประเทศไหนก็ได้ หรือช่วงที่ถือวีซ่าอะไรก็ได้ เอามารวม ๆ กันได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นร้านที่เราจะทำเรื่องด้วย

9. Skill Assessment นี้เอาไปทำเรื่องกับร้านไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ทำเรื่องเฉพาะกับร้านที่เราทำงานด้วย ณ ปัจจุบัน

10. เอกสารค่อนข้าง strict, หลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีหรือการจ่ายค่าแรงต้องมี ขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถทำ Skill Assessment ได้

11. Resume ต้อง specify มาด้วยว่าทำงานช่วงไหน full-time, ช่วงไหน part-time

Skill Assessment: Chef (VETASSESS); Pathway 2


อันนี้ของ VETASSESS นะครับ ไม่เกี่ยวกับ JRP; Job Ready Program

1. Pathway 2 คือมีวุฒิการศึกษา Cert IV Kitchen Management หรือ Cert IV Commercial Cookery จากประเทศออสเตรเลีย ไม่ต้องทำอาหารให้คนตรวจดู

2. Pathway 1 คือไม่มีวุฒิการศึกษา Cert IV Kitchen Management หรือ Cert IV Commercial Cookery จากประเทศออสเตรเลีย อันนี้ต้องไปทำอาหารให้คนตรวจดู

3. วุฒิการศึกษาจาก RPL ก็ใช้ได้

4. ประสบการณ์ในการทำงาน 3 ปี full-time, หรือ 6 ปี part-time เอามานับรวมกันได้ ช่วงที่ทำ part-time ก็นับได้ครึ่งหนึ่ง

5. ประสบการณ์ 12 เดือนสุดท้ายต้องเป็น full-time เท่านั้น สำหรับคนที่อยู่ onshore ก็ต้องดูด้วยว่าตัวเองถือวีซ่าอะไร ทำงาน full-time ได้ไหมตอนนั้น

6. ประสบการณ์จากร้านที่เป็น table service เท่านั้น ประสบการณ์จากร้าน limited service ทำไม่ได้ ประสบการณ์จากร้านปิ้งย่างหรือร้าน buffet ทำไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น โปรดปรึกษา MARN ของคุณ

7. ต้องมีประสบการณ์ครบก่อน ถึงจะทำ Skill Assessment ได้

8. ประสบการณ์จากที่ไหนก็ได้ ประเทศไหนก็ได้ หรือช่วงที่ถือวีซ่าอะไรก็ได้ เอามารวม ๆ กันได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นร้านที่เราจะทำเรื่องด้วย

9. Skill Assessment นี้เอาไปทำเรื่องกับร้านไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ทำเรื่องเฉพาะกับร้านที่เราทำงานด้วย ณ ปัจจุบัน

10. เอกสารค่อนข้าง strict, หลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีหรือการจ่ายค่าแรงต้องมี ขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถทำ Skill Assessment ได้

11. Resume ต้อง specify มาด้วยว่าทำงานช่วงไหน full-time, ช่วงไหน part-time

12. จดหมายผ่านงาน ถ้าเป็นลูกค้าของ "J Migration Team" ต้องใช้ template ที่เราให้ไปเท่านั้น

Note1: Skill Assessment ของ Cook ก็จะคล้าย ๆ กัน

Note2: ตอนทำ Skill Assessment ใช้วุฒิการศึกษา Cert IV แต่ตอนยื่นวีซ่าต้องเป็น Cert IV Commercial Cookery (หรือ Cert IV Kitchen Management) + Diploma of Hospitaltiy Management ตาม ANZSCO

Copyright: ถ้าจะแชร์ ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น, ไม่ copy & paste, ไม่ screen capture

AAT/ART; Student Visa



AAT/ART; Student Visa

โอนเงิน: 11:59am
เอกสารตามมา: 12:09pm
P' J ยื่นเลยทันที: 12:10pm

เงินซื้อ P' J ได้ถ้ามากพอ

- ไปขึ้นศาลด้วย ทุกรัฐ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- เขียน GTE/GST ให้ใหม่
- update เอกสารให้ใหม่หมดทุกอย่าง
- ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มใด ๆ

AAT เอกสารที่ต้องใช้:

1. จดหมาย refusal letter

2. passport ของคนสมัครทุกคน

3. ที่อยู่

4. เบอร์โทร

P' J อ่าน refusal letter แล้วนะครับ ก่อนที่จะเสนอราคาไป

Thursday, February 20, 2025

จาก AAT/ART สู่ Partner Visa


1. เรื่องของน้องอยู่ที่ศาลอุทธร์ AAT/ART จะ subclass อะไรก็ตามแต่

2. ทันทีที่น้องรูด passport ผ่าน custom ที่สนามบิน ทีมงานเราก็เริ่มจัดการเรื่องให้น้องเลยทันที ตอนนี้น้องน่าจะอยู่บนฟ้า ยังไม่ touch down ยังไม่ land แต่ P' J ก็ยื่นเรื่องให้น้องแล้ว submit ไปแล้ว เป็น offshore application ประมาณลงเครื่องปุ๊บ เปิด roaming ปั๊บ ก็จะได้รับ email จากเราว่า "ยื่นเรื่องแล้วนะครับ" เลยทันที Partner Visa offshore; Subclass 309 & Subclass 100.

3. เดี๋ยวน้องต้องทำ biometrics

4. บินกลับเข้าประเทศ (Bridging Visa B) เดี๋ยว P' J จะ link Bridging Visa ให้ (Subclass 309)

5. ถอน AAT/ART แบบ no สน no care เราจัดการให้ได้

กราบขอบคุณที่เลือกใช้บริการของเรา
สินค้าดีใช้แล้วช่วยบอกต่อ

Wednesday, February 19, 2025

Partner Visa; เพื่อนรักหักเหลี่ยม


น้อง "หว่อชื่อ" กับน้อง "ไท้กั๋วเหลิน" คู่รักเพศเดียวกัน
น้องยื่นวีซ่าคู่รัก Partner Visa; Subclass 820/801 หรือ Subclass 309/100

น้องให้เพื่อนสนิทและแฟนของเขาเซ็นฟอร์ม 888 เป็นพยานให้ 
2 คนพอดิบพอดี

น้องหว่อชื่อและเพื่อนสนิทเปียแชร์ลูกโซ่ นวัตกรรมทางการเงินที่คนไทยรู้จักกันดี

รวบรัดตัดตอน ไม่รู้ว่าใครโกงใคร
ใครส่งดอกไม่ทัน ใครส่งต้นไม่ทันเราไม่รู้
เรื่องแบบนี้ต้องถามแม่ชะม้อย

ทุกคนต่างล้วนแล้วเป็นตัวร้ายในเรื่องเล่าของคนอื่น

เราไม่ยุ่งเกี่ยวดีที่สุด
ทำหน้าที่ทางด้านของวีซ่าให้เขาให้ดีที่สุดก็พอ ทำตามหน้าที่

เมื่อมีการเงินเข้ามาข้องเกี่ยว ความสัมพันธ์ของเพื่อนก็จบลง
เงินมันคมมากครับ "ตัด" ได้แทบทุกอย่าง พี่น้องท้องเดียวกันก็เกิดขึ้นได้

เมื่อความเป็นเพื่อนของน้องหว่อชื่อกับเพื่อนสนิทจบลง

เพื่อนที่เคยสนิทและแฟนของเขาก็โทรไปแจ้งอิมมิเกรชั่น ว่าความสัมพันธ์ของหว่อชื่อกับไท้กั๋วเหลินเป็นความสัมพันธ์เท็จ เป็นความสัมพันธ์หลอก ๆ 

จริงหรือไม่จริง อิมมิเกรชั่นก็ต้องทำตามหน้าที่
อิมมิเกรชั่นก็ต้องเอกสารเพิ่มรัว ๆ

สิ่งที่เราต้องทำเพื่อแก้เกมก็คือ:

1. หาพยานเพิ่มสิจ๊ะ รออะไร อย่าเอาชีวิตเราไปแขวนไว้แค่กับคน 2 คนและเขาก็ดันเป็นแฟนกันด้วย พยานเซ็นฟอร์ม 888 สามารถมีได้มากกว่า 2 คนนะครับ เราเคยส่งไปเยอะที่สุด 7 คน

2. เราผู้ซึ่งเป็น MARN ก็ต้องเขียนจดหมายอธิบายว่า "อ๋อ เรื่องราวมันเป็นแบบนี้หนะ เขาทะเลาะกันเรื่องเงิน ก็เลยเกิดการกลั่นแกล้ง blah...blah..." ก็ต้องอธิบาย ก็ต้องยกแม่น้ำทั้ง 5-6-7 ก็ต้อง persuade กันสุด ๆ

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับปลายปากกา
แต่มันเหนื่อยมากเลยครับ
มันคือ extra work ที่มันงอกขึ้นมาที่ P' J ต้องคอยแก้

ที่เห็น "จุดพลุ" กันปัง ๆ ๆ ๆ หนะ งานหลังบ้านมันเยอะมากเลยนะครับ
และหลาย ๆ งานคือ extra work ที่เราไม่เคย charge ลูกค้าเพิ่มแม้แต่บาทเดียวดอล์ลเดียว

อะไร ใด ๆ ทุกอย่างจบลงด้วยดี
วีซ่าน้องผ่าน

กราบขอบคุณที่เลือกใช้บริการของเรา
สินค้าดีใช้แล้วช่วยบอกต่อ

ต่อไปก็ระวังในการคบเพื่อน