Wednesday, October 19, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย วีซ่านักเรียนแบบติดตาม


ถาม: "พี่ครับ/ค่ะ ตอนนี้ยังมีวีซ่านักเรียนแบบติดตามอยู่หรือเปล่าครับ/ค่ะ"
ตอบ: "มีครับ"
...
...
งง กับคำถามนิดหนึง ก็วีซ่านักเรียน มันก็เหมือนๆเดิมนะ มีแฟน มีครอบครัว เขาก็ต้องสามารถมากับเราได้สิ

common sense

เพียงแต่ว่า พวกสูเจ้าทั้งหลาย ชอบมองอะไรเป็นการค้า
มองอะไรเป็น commercial ไปหมด

ที่ผ่านๆมา พวกสูเจ้า ชอบแบบว่า เพื่อนแต่งงานให้เพื่อน
เพื่อนติดตามเพื่อน

หลัง 1 July 2016, คนที่ทำวีซ่าติดตามต้องทำ GTE ด้วยจ๊ะ
GTE คือ Genuine Temporary Entry

ก็คือหมายความว่า you ต้องพิสูจน์ ควักหัวใจออกมา เอาออกมาพิสูจน์ ว่าคนนี้ที่เราทำเรื่องติดตามเนี๊ยะ เป็นคนรักเราจริง ไม่ได้แต่งเพราะเรื่องการค้าหรือธุรกิจ

ดังนั้นทางอิมมิเกรชั่นจึงมองเรื่อง relationship ของคนสมัคร ของคนติดตามด้วยความละเอียดอ่อน

ดังนั้นระยะเวลาในการพิจารณามันก็เลยต้องนานเป็นปกติ

และคนสมัครเองก็ต้องเตรียมเอกสารเยอะเป็นอีกเท่าตัว

ถามว่า ยังทำได้มั๊ย
คำตอบง่ายๆ สั้นๆคือ "ได้"

แต่ทำยากมาก ถึงมากที่สุด


ดังนั้นคนใหนที่ยื่นเรื่องไปแล้ว และกำลังรอเรื่องอยู่ ก็ต้องรอต่อไป เพราะ everything take time.... long long time เลยแหละ

ใจเย็นๆกันนะครับ เดี๋ยวก็คงได้แหละ

Tuesday, October 11, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย NAATI หรือไม่ NAATI

เอกสารขอวีซ่าที่ประเทศออสเตรเลีย ทุกอย่างต้องเป็นภาษาอังกฤษ เพราะ case officer เป็นฝรั่ง อ่านภาษาไทยไม่ได้ ดังนั้นเอกสารก็ต้องมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ

ที่ออสเตรเลีย เอกสารทุกอย่างต้องแปลด้วย NAATI คือผู้ที่ได้รับการรับรองว่ามีความรู้ ความสามารถ สอบผ่าน NAATI certification และทุกคนจะมีหลายเลขของ NAATI

ถ้าใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NAATI ก็เข้าไปที่ website https://naati.com.au นะครับ

คนไทยที่อยู่ที่ออสเตรเลีย เรารู้กันอยู่แล้วว่าเอกสารที่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษนั้น ต้องแปลด้วย NAATI

ที่ออสเตรเลียเองก็มี NAATI เยอะแยะ ที่เขาโฆษณาตามหนังสือพิมพ์ไทยหรือตาม social media ต่างๆ

แต่ปัญหาของคนไทยที่อยู่ที่เมืองไทยก็คือ ไม่ค่อยมี NAATI เท่าไหร่

ไม่ต้อง worries ไม่ต้อง panic นะครับ
เพราะเราไม่ค่อยมี NAATI ที่เมืองไทย ทางอิมมิเกรชั่นเองก็ flexible enough ให้หน่วยงานที่เมืองไทยสามารถแปลเอกสารได้ ไม่ต้องเป็น NAATI  แต่:
  • คนที่แปลหรือบริษัทที่แปล ต้องมีที่อยู่หรือเบอร์โทรที่ทางอิมมิเกรชั่นที่เมืองไทยสามารถติดต่อได้ ถ้าหากทางอิมมิเกรชั่นที่เมืองไทยต้องการสอบถามข้อมูล
เอกสารดังกล่าวสามารถยื่นได้ที่ออสเตรเลียด้วย ถ้าเจ้าหน้าที่หรือ case officer ที่ออสเตรเลียต้องการตรวจสอบอะไร ทางเจ้าหน้าที่หรือ case officer ที่ออสเตรเลียจะติดต่อและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของสถานทูตที่เมืองไทยเอง

ดังนั้นเอกสารทุกอย่างสามารถแปลได้จากเมืองไทยครับ

และที่แน่ๆคือ ไม่ต้องเอาไปรับรองที่กระทรวงต่างประเทศ

เราเห็นหลายคนมากที่เอาเอกสารไปรับรองที่กระทรวงต่างประเทศ จริงๆแล้วไม่จำเป็นนะครับ 

เราคิดว่าคนไทยที่ทำๆกันมา ก็แบบว่าทำตามคนอื่น แนะนำกันมาเรื่อยเปื่อย ปากต่อปาก

แต่ถ้าอะไรที่ไม่จำเป็นที่จะต้องทำ เราก็ไม่แนะนำให้ทำนะครับ

เสียเวลา!!!

แต่ถ้ามีเวลาเยอะ มีเวลามาก ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ก็ทำก็ได้นะ เราไม่ได้ห้าม...

Monday, October 10, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย Partner Visa พยานเซ็นฟอร์ม 888


วีซ่าออสเตรเลีย Partner Visa ข้อมูลของพยานที่เซ็นฟอร์ม 888

เราเคยเขียน blog เกี่ยวกับ หลักการกรอกฟอร์ม 888 เพื่อเป็นหลักฐานในการประกอบการสมัคร 
Partner Visa

พยาน 2 คนที่จะต้องเซ็นฟอร์ม 888 จะต้องเป็น PR หรือ citizen เท่านั้นนะครับ

พยานจะเป็นเพื่อน หรือคนในครอบครัวก็ได้ ขอให้เป็น PR หรือ citizen เท่านั้นพอ ไม่ว่าจะหัวดำหรือหัวทอง ถ้าเป็น PR หรือ citizen ก็สามารถเซ็นฟอร์ม 888 ได้หมด

นอกจากให้เค๊าเซ็นฟอร์มให้เราแล้ว เราก็ต้องขอหลักฐานการเป็น PR หรือ citizen ของเค๊าด้วยนะครับ อาจจะเป็น passport, citizenship certificate, birth certificate (บัตร medicare card ใช้ไม่ได้นะครับ เพราะคนที่ไม่ใช่ PR/Citizen ก็สามารถมีบัตร medicare card ได้, driver licence ก็ใช้ไม่ได้ เพราะคนที่ไม่ใช่ PR/Citizen ก็สามารถมี driver licence ได้เหมือนกัน)

Saturday, October 8, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย ใครว่าอยู่เมืองนอกสบาย


คนที่เมืองไทย วาดฝันเอาไว้แบบเวินเวอร์ ว่าชีวิตที่เมืองนอกต้องเป็นแบบนั้น ต้องเป็นแบบนี้

OK แหละ เราเข้าใจ สำหรับคนไทยที่ไม่เคยมาเมืองนอก ต่างก็วาดฝันเอาไว้ นั่น นี่ โน่น

จริงอยู่ เงิน dollar มีค่ามากกว่าเงินไทยหลายๆเท่า

แต่... แต่... แต่... แต่...

เงินไม่ใช่ทุกสิ่งอย่างในชีวิตนะครับ
หลายๆคนก็อาจจะบอกว่า 
"แหม ใช่หละสิ เธอพูดแบบนั้นได้หนิ"

เอ่อ... ก็แค่อยากจะบอกว่า กว่าเราจะมาถึงจุดนี้ได้ เราผ่านอะไรมาเยอะ
ทั้งคำพูดคำจา และสายตาที่ถากถาง (อาจเป็นเพราะ เด็กกว่า แรงกว่า ขยันกว่า และเป็นคน think outside the box... เอ่อ อันนี้ก็ช่วยไม่ได้นะ)
เราเจอมาหมดแล้ว...
เราให้อภัย!!!

อยู่เมืองนอก หาของกินลำบาก จะกินอะไรแต่ละทีก็ต้องคิดก่อนว่าวันนี้จะกินอะไร 
จะทำธุระแบบรีบๆ ก็ต้องคิด ต้อง plan ว่าจะไปกินที่ใหนดี จะสั่งอะไรจะได้กินแบบไวๆ รีบๆกิน รีบๆไป

ครั้นจะกินพวก junk food มันก็ไม่ healthy

ok... เข้าใจแหละ ว่าหลายๆคนอาจจะคิดว่า เนี๊ยะมันเป็น 1st world problem ในขณะที่ 3rd world ไม่มีอะไรจะกิน

แต่มันก็เป็นแบบนี้จริงๆ!!!

ที่เมืองนอก มันไม่เหมือนเมืองไทย 
ที่เมืองไทย เราขับรถไปตลาด
ไม่ต้องคิด เดี๋ยวเดินๆหา ก็เจออาหาร เจอของกินเอง

อาหารข้างทาง ถ้าไม่กระแดะมาก ที่เมืองไทยของกินเยอะแยะนะครับ
เรากินส้มตำข้างทาง ครกละ 50 บาทเองนะ

ข้าวราดแกงที่สะพานควาย จานละ 30 บาทเองนะ
ใครบอกว่ากรุงเทพของแพง??

ของแพงเพราะเธอไปกินข้าวบนห้างหรือเปล่า

ไม่ต้องขึ้นห้าง ไม่ต้องเวินเวอร์
กินอะไรเข้าไป สุดท้ายแล้ว มันออกมาทางเดียวกันหมด

แล้วทำไม ขวัญกับเรียม ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ขอวีซ่าไปทำงานผ่านพวกเอเจนท์เถื่อน นายหน้าเถื่อน ด้วยหละ

ปล่อยให้เขาหลอก เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเปล่า

แต่หาก ขวัญกับเรียม ใช้ชิวิตที่เรียบง่าย อยู่กันแบบพอเพียง
ไม่กู้หนี้ ยืมสิน ขวัญกับเรียม ก็คงไม่ต้องดิ้นรนมาก

จะสังเกตุว่า ขวัญกับเรียม ที่อยากจะมาเมืองนอก ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะอยากจะหาเงินไปใช้หนี้

คนเราเกิดมา เกิดมาตัวเปล่านะ เราไม่ได้เกิดมาพร้อมกับหนี้
เกิดเป็นคน ทำไม่ต้องสร้างหนี้ด้วย

มีอะไรก็ทำๆไปสิ จำเป็นจะต้องหาภาระ หาหนี้ หาเหามาใส่ตัวด้วยเหรอ

ถ้าเผื่อทำงาน มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท 
มีน้อยใช้น้อย ค่อยบรรจง
คำว่า "หนี้" จะไม่มีอยู่พจนานุกรมของคุณ

"หนี้" มันเป็นแฟชั่นของคนสมัยนี้หรือเปล่านะ
เห็นชอบเป็นกันจัง

ขวัญกับเรียม จะรู้หรือเปล่าว่า มีใครบางคนที่เมืองนอก แอบอิจฉาชีวิตของพวกเขาอยู่นะ

เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญของเรียม...

Saturday, October 1, 2016

วีซ่าออสเตรเลีย คุยกับลูกค้าอยู่บนฟ้าเหรอ J Migration Team ทำมาหมดแล้วนะ


กับการทำงาน กับการเดินทางเหรอ
สมัยนี้ทุกอย่างมันทันสมัยแล้วนะ

นั่งอยู่บนเครื่องบินเหรอ บางสายการบินตอนนี้ก็สามารถต่อ wi-fi ได้แล้วบนเครื่องบิน ดังนั้นการนั่งทำงานอยู่บนที่สูง 30,000 feet จากพื้นดินจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป

J Migration Team เอง ทำก็ทำมาแล้ว เราก็ภูมิใจที่สามารถนั่งตอบคำถาม หรือไขปัญหาของลูกค้าบางคนมาจากที่สูงเลย

คนอื่นเขามีประสบการณ์
30,000 feet wedding proposal
30,000 feet sex (ใครสนใจอยากจะลองทำ  ก็ลองไปทำกันดูละกัน เขาเรียกกันว่า high mile จ๊ะ)

แต่เรามีประสบการณ์ 30,000 feet consulting with customer
อะนะ อันนี้เจ๋งกว่า...

เราก็ดีใจนะ ว่าเราสามารถทำงานและดูแลลูกค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา เพราะเราเข้าใจเสมอว่า เขาคงต้องการคำตอบแหละ เขาถึงติดต่อเรามา เขาถึงมาใช้บริการเรา

ดีใจที่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ถึงที่สุด 

J Migration Team
John Paopeng
MARN: 0851174