วีซ่า subclass 482 TSS; Temporary Skill Shortage Visa คือวีซ่าทำงานโดยที่มีนายจ้างสปอนเซอร์
แต่วีซ่า subclass 482 ก็เป็นอะไรที่มี requirement ที่ค่อนข้างยุ่งยาก (แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากมากจนเกินไปสำหรับหลาย ๆ คน) โดยเฉพาะให้เรื่องของ:
- ประสบการณ์การทำงาน
- skill assessment
- ผลสอบภาษาอังกฤษ
และอะไรอื่น ๆ อีกมากมาย
ก็เอาเป็นว่าแต่ละคนมีคุณสมบัติอะไรหลาย ๆ อย่างไม่เหมือนกัน
บางคนขอวีซ่า subclass 482 ได้ง่าย แต่บางคนขอได้ยาก
แล้วยิ่งวีซ่า subclass 482 ที่หลาย ๆ สาขาอาชีพที่ต้องมี Caveat หรือ special requirement เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ความซับซ้อนมันก็ยุ่งวุ่นวายไปอีก แล้วไหนจะ GTE สำหรับสาขาอาชีพที่อยู่ใน short-term list อีก ดูมันวุ่นวายไปหมด
วีซ่าในหมู่ตระกูลของ subclass 400s มันก็หลายวีซ่าด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็น subclass 482, 407, 408 & 403...etc..etc..
เดี๋ยววันนี้เราขอ focus ไปที่วีซ่า subclass 407; Training Visa ก็แล้วกันนะครับ
วีซ่า subclass 407 เป็นวีซ่าสำหรับการฝึกงาน กับนายจ้างหรือองค์กรที่เขาต้องการจะ train เรา
วีซ่าตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับหลาย ๆ คน เพราะ requirement ของวีซ่าตัวนี้ไม่ได้ยากอะไรมากมาย แต่เราก็อยากจะให้ทุกคนเลือกวีซ่าตัวนี้ด้วยความระมัดระวัง
เพราะวีซ่าตัวนี้ไม่มีกฎหมายบังคับว่านายจ้างต้องจ่ายค่าแรงเราเท่าไหร่ เพราะนี่คือวีซ่าฝึกงานเท่านั้น
มันไม่ใช่วีซ่าทำงาน
ดังนั้นเราอาจจะได้วีซ่า 2 ปีก็จริง แต่ถ้าทำงานหรือฝึกงานโดยที่ไม่ได้ค่าแรงเลย เราจะกลายเป็น modern slaves หรือเปล่า
เราอยากจะให้ทุกคนคิดและไตร่ตรองให้ดี ๆ
ประสบการณ์การทำงานตอนที่ถือวีซ่า subclass 407, ถ้ามีการจ่ายค่าแรงอะไรที่ถูกต้อง และมีการเสียภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมาย เราก็สามารถนำเอาประสบการณ์การทำงานตรงจุดนี้มาต่อยอดในการทำวีซ่าตัวอื่น ๆ ได้ด้วย อย่างเช่น
- subclass 482 TSS
- subclass 186 ENS (PR)
- subclass 494
พวก subclass เหล่านี้เราเคยเขียน blog ไปหมดแล้ว เขียนไปเยอะแล้ว
วีซ่า subclass 407 ไม่ได้จำกัดอายุของคนสมัคร ขอให้อายุ 18 ขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว
และภาษาอังกฤษเองก็ requires แค่ IELTS (general) overall 4.5
หรือถ้าเรียนพวก college หรือ TAFE full-time ที่ประเทศออสเตรเลียเป็นเวลา 1 ปี ก็สามารถเอามาเทียบเท่ากับ IELTS overall 4.5 ได้
ถ้าใครเรียนระดับมัธยมไม่ว่าเป็นที่ประเทศออสเตรเลีย หรือเรียนเป็น internaltional school มาจากประเทศอื่น ก็สามารถนำเอามาเทียบเท่าได้เหมือนกัน แต่ต้องเรียน full-time 5 ปี
แต่ถ้าเป็นมัยธม + ประถม เรียนแค่ 3 ปีก็พอ (สื่อการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ เรียนแบบ face-to-face ตัวเป็น ๆ )
การที่เราจะขอวีซ่า subclass 407 เราก็ต้องมีนายจ้างหรือองค์กรที่ต้องการ sponsor เราก่อน ก็เหมือนการทำ nomination ของพวกวีซ่า subclass 482 TSS ซึ่งนายจ้างเองหรือองค์กรก็ต้องทำเรื่องเข้าไปเพื่อขอเป็นหน่วยงานที่สามารถทำเรื่องสปอนเซอร์คนด้วยวีซ่าตัวนี้
เรื่องการ nominate position เข้าไปก็ไม่แตกต่างอะไรจากพวกวีซ่า subclass 482, 186 & 494
ถ้าหากเราขอวีซ่าอะไรไม่ได้แล้ว คุณสมบัติไม่ครบ หรือว่าเรายังไม่พร้อมอะไรหลาย ๆ อย่าง มีอะไรก็คว้าเอาไว้ก่อน ก็คว้าวีซ่า subclass 407 มาก่อนก็ได้
วีซ่า subclass 407 มันก็ยังสามารถเป็น Pathway ไปทำอะไรอื่นได้อีกเยอะเหมือนกัน เพราะวีซ่าที่ได้มา 2 ปี อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 2 ปีนี้
ถ้าเดินไปข้างหน้า แล้วทางมันตัน
เราก็ลองถอยหลังออกมา 1 ก้าวดูนะครับ
แล้วลองมองหันซ้าย แลขวาดู ชีวิตมันอาจจะมีทางออกหรือทางเลือกอะไรอย่างอื่นด้วย
วีซ่าตัวนี้ก็สามารถทำเรื่องขอมาจากเมืองไทยได้ด้วยนะครับ สำหรับใครที่สนใจอยากจะมาลองทำงานกับนายจ้างก่อน 2 ปี
หรือนายจ้างอยากจะให้เราทดลองทำงานกับเขาก่อน 2 ปีว่า OK มั้ย อยู่ด้วยกันได้มั้ย ทำงานด้วยกันได้มั้ย อะไรประมาณนี้
ก็ลองมองวีซ่า subclass 407 ตัวนี้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
1. เราเลิกทำ Subclass 407 ตั้งแต่ปี 2019 แล้ว เราไม่มีเวลาจริง ๆ ครับในการเขียน training plan ของ Stage 2; Nomination ใครจะทำวีซ่าตัวนี้ เราก็แนะนำให้ติดต่อบริษัทอื่นนะครับ เราไม่มีที่แนะนำ
2. ยื่น Subclass 407 แล้วไม่ผ่าน เราสามารถอุทธรณ์เรื่องเข้าไปที่ศาลอุทธรณ์ได้ (ART) แล้วก็จัดการชีวิตตัวเองให้เสร็จสรรพในระหว่างที่รอ ART; 1.5 - 2 ปี