Skill Migrant ปี 2008-09 ไม่โดนลดโควต้า

หลังจากที่น้องๆนักเรียนหลายคนหวั่นๆกันว่า ออสเตรเลียอาจมีการลดโควต้าของ Skill Migrant เนื่องมาจากพิษเศรษฐกิจโลก ตอนนี้ก็สบายใจกันได้แล้วนะครับ เพราะอาทิตย์นี้รัฐมนตรีจากกระทรวง Department of Immigration and Citizenship ก็ได้ออกมาประกาศว่าปี 2008-09 จะไม่มีการลดโควต้าของ Skill Migration ซึ่งตอนนี้โควต้าก็อยู่ที่ 133,500 คน

สาเหตุที่ทางรัฐบาลออสเตรเลียไม่มีการลดโควต้าของ Skill Migrant ก็เพราะว่าบริษัทและหน่วยงานและผู้ประกอยการทางธุระกิจ ยังมีความจำเป็นที่ต้องนำเข้าบุคคลากรอยู่ ณ ตอนนี้

แต่ตอนนี้การ process visa application ก็มีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย คือแต่ก่อนนั้นใครยื่นใบสมัครก่อน ก็จะได้ process ก่อน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วครับ ทาง Department of Immigration and Citizenship จะ process ใบสมัครของผู้มีที่ความสามารถ และอยู่ในสาขาที่ขาดแคลนก่อน สาขาที่ขาดแคลนน้อย มีความสำคัญไม่ค่อยมาก ก็จะโดน push ให้ไป process ช้านิดหนึ่ง

สาขาอาชีพที่จะได้ process ใบสมัครเร็วก็จะอยู่ในแวดวงของ สาขาการแพทย์ สาขา IT สาขาวิศวกรรม สาขาการก่อสร้าง อะไรประมาณนี้

จอห์น
J The Migration Team

ขอ PR โดยไม่ต้องสอบ IELTS

ปัญหาหนักใจของคนไทยที่จะขอ PR หนึ่งในปัญหานั้นก็คือการสอบภาษาอังกฤษ

อยากจะบอกว่า วีซ่าทำงาน Temporary Business (Long Stay) subclass 457 ที่คนไทยหลายๆคนได้ก่อนวันที่ 1 July 2008 ซึ่งได้มาโดยที่ไม่ได้สอบ IELTS และคนไทยหลายคนที่ทำงานในร้านอาหารเป็น Chef ซึ่งก็ใช้ภาษาไทยตลอด ตอนนี้ทุกคนก็พากันวิตกกันไปใหญ่โตว่า จะทำเรื่องขอ PR ไม่ได้ เพราะภาษาอังกฤษไม่ดีพอ อะไรต่างๆนาๆ

ไม่ต้องตกใจครับ การยื่นขอ PR โดยให้นายจ้างเป็น sponsor นั้น เราสามารถยื่นเรื่องเข้าไป แล้วเขียนทำเรื่องยกเว้นการสอบภาษาอังกฤษได้ แต่ค่าใช้จ่ายจะเยอะกว่าปกติ ก็เท่านั้นเอง

อยากทำเรื่องขอ PR แต่ภาษาอังกฤษคะแนนไม่ถึง "J The Migration Team" เราช่วยคุณได้ ขอเพียงนัดเข้ามาคุยก่อนแค่นั้นเอง เรามีทางออก และทางเลือกอีกเยอะแยะ :)

จอห์น
J The Migration Team / Migration Agent ของคนไทย เจ้าแรกใน Wollongong
0412-470969

วีซ่าท่องเที่ยวจะหมด แต่มีเหตุฉุกเฉินต้องอยู่ต่อ

ช่วงนี้สถานการณ์ทางการเมืองที่เมืองไทยยังไม่ค่อยมั่นคง และสนามบินก็โดนปิด คงมีหลายๆคนที่ประสบกับปัญหานี้ เพราะเดินทางกลับเมืองไทยไม่ได้ หรือทางสายการบินงดบินไปเมืองไทยชั่วคราว หรือบางคนก็เป็นห่วงความปลอดภัยของตนเอง วีซ่าท่องเที่ยวที่ได้มาก็ใกล้จะหมดอายุ จะทำไงดี

ไม่ต้องตกใจนะครับ ปัญหาทุกอย่างแก้ได้ ห้าถากวีซ่าท่องเที่ยวที่ได้มา (subclass 676) และไม่ติด condition 8503 - No Further Stay หละก็ ทำเรื่องขอยืดเวลาอยู่ต่อได้ เนื่องด้วยสถานการณ์บางอย่างที่เราควบคุมไม่ได้ ขอเพียงแต่ใช้ฟอร์มให้ถูกแค่นั้นเอง ฟอร์มที่ใช้ในกรณีที่ขอยืดวีซ่านะครับ ให้ใช้ฟอร์ม 601 ค่าทำวีซ่าอยู่ต่อก็ $240

ไม่ยากนะครับ ทำได้ง่ายๆ ใครอยากได้ฟอร์มก็โทรเข้ามาได้นะครับ หรือจะดาวน์โหลดจากเวปไซท์ของอิมมิเกรชั่นโดยตรงเลยก็ได้

มีคนสูงอายุป่วยอยู่ที่นี่ อยากได้คนมาดูแล

หลายคนที่อยู่ที่นี่มานาน และคุณพ่อคุณแม่ก็ได้ย้ายตามมาอยู่ด้วยจนได้เป็น PR หรือได้สัญชาติของออสเตรเลีย แล้วเผอิญว่าคุณแม่ป่วย อยากได้ญาติมาอยู่ด้วยเพื่อดูแลคุณแม่ เพราะตัวเองและครอบครัวก็ทำงาน full-time กันทุกคน แถมมีลูกที่ต้องอยู่ในความดูแลด้วย อยากทราบว่าสามารถ sponsor ญาติมาอยู่ด้วยเพื่อดูแลคุณแม่ได้มั๊ย

คำถามนี้ก็ขอตอบตรงนี้เลย เพราะอาจโดนใจหลายๆคนที่ตอนนี้ก็กำลังเจอปัญหาคล้ายๆกัน คำตอบก็คือ สามารถ sponsor ได้ครับ ได้มาอยู่ถาวร เป็น PR เลยนะ ขอให้คนที่มานั้นเป็นญาติจริงๆ และคนที่ sponsor ก็สามารถ support เรื่องที่อยู่อาศัย และการเงินเป็นระยะเวลา 2 ปี

ส่วนคุณแม่ก็ต้องมีใบรับรองจากแพทย์ว่าป่วยจริง และไม่สามารถหาใครที่มีมาดูแลได้

ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ติดต่อมาได้นะครับที่ J The Migration Team

จอห์น

เรียนคอร์สแค่ 1 ปีครึ่ง จะขอ PR ได้มั๊ยเนี๊ยะ

ตอนนี้ก็มีน้องๆหลายคนหนักอกหนักใจ กลุ้ม และกลัวว่าเรียนจบแล้ว จะทำเรื่องขอ PR ไม่ได้เพราะคอร์สที่ลงเรียนนั้น เป็นคอร์สเรียนแค่ 1 ปีครึ่งเอง

ไม่ต้องตกใจ หรือกลุ้มใจนะครับ ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ ขอให้แก้ตอนที่สมองปลอดโปร่งก็เป็นพอ พยายามแก้ปัญหาตอนเครียดๆเนี๊ยะ ก็ยากเอาการอยู่นะ :)

วิธีแก้ไขปัญหาก็คือ น้องต้องหาคอร์สเรียนเพิ่มให้ครบเป็น 2 ปี จะเรียนเป็น Degree, Diploma หรือ Certificate ก็ตามแต่ ขอให้คอร์สที่เรียนนั้น เรียนใน Australia, เรียน full-time และใช้ภาษาอังกฤษในการเรียน คอร์สที่เรียนนั้นต้องมีความเกี่ยวข้องกับคอร์สที่ลงเรียนไป 1ปีครึ่งนั้น แต่คอร์สภาษาอังกฤษ (พวกเตรียมตัวสอบ IELTS หรือเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม อะไรทำนองนี้)จะเอามานับรวมเวลาให้ครบ 2 ปีไม่ได้นะครับ

น้องๆคนใหนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อพี่จอห์นได้นะ ที่ 0412-470969

John/J The Migration Team

ลูกที่เกิดระหว่างรอผลวีซ่า

เอ๊ะ!!! วันนี้มาแปลก มาเขียนเรื่อง "ลูกที่เกิดระหว่างรอผลวีซ่า" ก็ไม่รู้มีแรงบัลดาลใจอะไรนะ ให้วันนี้มานั่งเขียนเรื่องนี้ได้ อาจเป็นเพราะช่วงนี้เจอน้องบางคน อุ้มลูกไปอุ้มลูกมาให้เราเห็น ก็เลยฉุกคิดเรื่องนี้มาก็ได้ แต่ชั่งเถอะ นั่นไม่สำคัญ เอาเป็นว่าเรามาเข้าเรื่องของเราดีกว่า

ถ้าคุณแม่คนใหนที่อยู่ในช่วงระหว่างการรอผลวีซ่า และลูกคลอดก่อนที่จะรู้ผลวีซ่า ทางอิมมิเกรชั่นก็จะถือว่าลูกที่คลอดออกมานั้น ก็รวมเข้าไปใน application ของคุณแม่ได้เลย โดยที่ไม่ต้องกรอกฟอร์มใหม่ อาจจะกรอกก็แค่ข้อมูลเพิ่มเติมของคุณลุกที่เพิ่งจะลืมตาออกมาดูโลกนั่นแหละ :)

คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องแจ้งไปที่อิมมิเกรชั่นนะครับ เวลาได้สมาชิกใหม่เพิ่ม อย่านิ่งดูดาย :)

ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างก็มักจะมากับข้อยกเว้นนั้นยกเว้นนี้กันเป็นประจำ ในกรณีนี้ก็เช่นกัน ถ้าลูกที่เกิดมาจากคุณแม่ที่ ณ ตอนนั้นถือวีซ่า Provisional/Temporary Partner Visa คุณแม่ไม่สามารถรวมเอาลูกเข้าไปใน application ได้ ในกรณีนี้ ลูกที่เกิดมาใหม่ คุณแม่ก็ต้องสปอนเซอร์ Dependent Child Visa (Subclass 445) ให้ลูก

ก็หวังว่า ท่านผู้อ่านทั้งหลาย คงพอหายข้อข้องใจกันไปได้บ้างเล็กน้อยนะครับ อยากทราบอะไรเพิ่มเติม ก็ติดต่อเรามาได้ที่ 0412-470969

จอห์น
"J The Migration Team"

วีซ่านักเรียน สามารถเปลี่ยนที่เรียนได้

จริงๆการเปลี่ยนแปลงนี้ ก็มีมานานแล้ว แต่ก็มีน้องๆอีกหลายๆคนที่ไม่ทราบการเปลี่ยงแปลงเกี่ยวกับวีซ่านักเรียน ที่ติด condition 8206 ห้ามเปลี่ยนสถานบันการเรียน เป็นระยะเวลา 12 เดือน ก็อยากจะบอกกับน้องๆนักเรียนทุกคนว่า อิมมิเกรชั่นเค๊ามีการเปลี่ยนกฏตั้งแต่ปีที่แล้ว แล้วหละ ส่วนวีซ่าใครที่เป็นสติกเกอร์อันเก่า แล้วเห็น condition นี้ติดอยู่ ก็เอาเป็นว่า มันไม่มีผลอะไรแล้วหละ

ตอนนี้ใครอยากจะเปลี่ยนสถาบันการเรียนก็สามารถทำได้ ถ้าเป็นสาขาที่อยู่ในระดับเดียวกัน ก็ไม่ต้องขอวีซ่าใหม่ เพียงแต่ยื่น COE ตัวใหม่ไปให้อิมมิเกรชั่นก็พอ ก็เอาเป็นว่าใครอยากย้ายสถาบันการเรียน ก็ทำได้ โดยไปติดต่อที่สถาบันเรียนใหม่ได้เลย แต่ตั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องลงทะเบียนเรียนที่สถาบันเก่า อย่างต่ำเป็นเวลา 6 เดือนก่อนนะ

แต่ถ้าใครจะเปลี่ยนระดับการเรียนให่สูงขึ้น หรือต่ำลง กรณีนี้ก็ต้องยื่นเรื่องขอวีซ่าตัวใหม่นะครับ

ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ติดต่อเข้ามาได้นะครับ

พี่จอห์น
J The Migration Team

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขึ้นค่าบริการเช็คประวัติอาชญากรรม

ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนนี้เป็นต้นไป ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการขึ้นค่าให้บริการเช็คประวัติอาชญากรรม หรือที่คนไทยเราเรียกกันทับศัพท์สั้นๆว่า criminal record ซึ่งถ้าเป็นเช็คชื่ออย่างเดียว ก็ $43 สำหรับบุคคลทั่วไป ถ้าเป็นประเภทประกอบการธุระกิจ หรือ commercial ก็ $49

ส่วนถ้าต้องมีการตรวจลายนิ้วมือด้วย ก็จะแพงขึ้นมาอีก $145 ถ้าต้องพิมพ์ลายนิ้วมือให้เรา และ $105 ถ้าเรามีลายนิ้วมืออยู่แล้ว แล้วส่งไปให้ทางสำนักงานตำรวจ

สภาวะทางเศรษฐกิจมีผลต่อโควต้า อิมมิเกรชั่น

เนื่องด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียช่วงนี้อยู่ในช่วงการชะลอตัว นี่ก็ไม่ใช่แค่ออสเตรเลียประเทศเดียว ช่วงนี้แทบทุกประเทศก็มีผลกระทบจากการสั่นคลอนทางสถาบันการเงินจากประเทศอเมริกา พอประเทศอเมริกามีปัญหา แทบทุกประเทศทั่วโลกก็มีผลกระทบกันเกือบหมด ช่วงนี้คนก็รัดเข็มขัดกันน่าดู

รัฐบาลของประเทศออสเตรเลียก็เหมือนกัน อาจจะมีการลดจำนวนโควต้าของผู้อพยพเข้ามาอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียก็อาจเป็นได้ เนื่องด้วยธุระกิจหลักของออสเตรเลียซึ่งคือธุระกิจเหมืองแร่ ได้มีการชะลอตัว โดยเพฉาะที่ Western Australia และ Queensland ได้มีการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด

จากการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี Kevin Rudd เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา แนวโน้มการลดจำนวนของ อิมมิเกรชั่นก็ดูชัดเจนขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ต้องรอดูว่าทางสำนักงานอิมมิเกรชั่นจะออกมาแถลงข่าวอีกทีเมื่อไหร่

ทาง "J The Migration Team" ก็อยากจะแนะนำว่า ถ้าใครที่เตรียมตัวจะสมัครเพื่อขออยู่ที่นี่ถาวร (PR) ก็ขอให้รีบจัดการให้ไวนะครับ เพราะปีหน้าจำนวนโควต้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง "J The Migration Team" ก็สามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอิมมิเกรชั่น และวีซ่าได้ทุกประเภท ขอเพียงนัดกันเข้ามาก่อนเท่านั้นเอง

จอห์น
0412-470969

eVisa อี-วีซ่า คืออะไร

หลายคนก็สงสัยว่า อี-วีซ่าคืออะไร เพราะ อี-วีซ่าเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับคนไทย อี-วีซ่า ก็คือ electronic visa (อิเล็คโทรนิควีซ่า) ที่ผู้สมัครสามารถสมัครผ่านอินเตอร์เน็ท และเวลาได้วีซ่า ก็จะไม่มีการติดสติกเกอร์ที่ตัว passport เพราะข้อมูลของวีซ่าได้ถูกเก็บในระบบฐานข้อมูลแล้ว หรือภาษาง่ายๆก็คือ ข้อมูลของวีซ่าได้ถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์แล้ว

บางประเทศที่มีความสัมพันธ์กับออสเตรเลียเป็นอย่างดี เค๊าก็ได้รับอนุญาติให้สมัคร อี-วีซ่า มานานแล้ว ส่วนประเทศไทยเราก็ยังใหม่อยู่กับ อี-วีซ่า ตอนนี้คนไทยสามารถสมัคร วีซ่านักเรียน ผ่านระบบของ อี-วีซ่าได้แล้วครับ พี่ๆน้องๆนักเรียนหลายคนใน Wollongong ก็เคยได้สมัคร อี-วีซ่ากันมาบ้างแล้ว

แต่ก็อยากจะบอกกับทุกคนว่า อี-วีซ่า ไม่ได้ครอบคลุมวีซ่าทุกประเภท และก็ไม่ใช่ว่าทุกประเทศสามารถสมัครวีซ่าผ่านระบบของ อี-วีซ่า ได้ทุกประเทศ โดยเฉพาะ พี่ๆน้องๆนักเรียนทั้งหลายที่เคยสมัครวีซ่านักเรียน ผ่านระบบของ อี-วีซ่า ก็อย่าเหมาเอาว่าสามารถสมัครวีซ่าประเภทอื่นผ่านระบบของ อี-วีซ่า ได้ไปสะหมด อย่างเช่น วีซ่านักท่องเที่ยว ณ ตอนนี้ที่ผมนั่งเขียน blog อยู่นี้ คนไทยยังไม่สามารถสมัครวีซ่านักท่องเที่ยวผ่านระบบของ อี-วีซ่า ได้นะครับ ก็ยังคงต้องกรอกแบบฟอร์มเหมือนเดิม

นี่ก็เป็นเกล็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ อี-วีซ่า ที่ทาง "J The Migration Team" ได้นำมาเสนอต่อทุกๆคน ก็หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย เดี๋ยว blog ต่อไปก็คงจะหาอะไรมาเขียนเล่าสู่กันอ่านอีก ใครมีปัญหาอะไรหรืออยากรู้เรื่องอะไรเป็นพิเศษก็ขอให้บอกให้ครับ จะได้นำมาเขียนให้อ่านเป็นความรู้กัน

โปสเตอร์โฆษณา

J The Migration Team
イミグレーション　アドバイザー
MARN: 0851174

Mon-Sat: 10am-3pm 　月―土: 午前１０－午後３
Ph: 0412-470969 　　　携帯
Email: jpp168.immi@yahoo.com 　メール
By Appointment Only 予約制


- Migration Agent คนไทยเจ้าแรกใน Wollongong ให้คำปรึกษาทางด้านอิมมิเกรชั่นทุกอย่าง และรับทำเรื่องวีซ่าให้ได้ทุกประเภท

- คิดค่าบริการให้คำปรึกษาเฉพาะครั้งแรก ครั้งต่อๆไปไม่คิดค่าบริการให้คำปรึกษา ค่ารับทำเรื่องวีซ่าคิดแยกอีกต่างหาก แต่รับรองค่าบริการถูกกว่าเอเยนต์ในเมืองแน่นอน

- โทรนัดเวลาได้ที่ 0412-470969 หรือ email มานัดเวลาล่วงหน้าได้ที่ jpp168.immi@yahoo.com รับให้คำปรึกษาเฉพาะผู้ที่นัดหมายไว้ล่วงหน้าเท่านั้น ถ้าโทรมาแล้วเรารับสายไม่ได้ เดี๋ยวเราโทรกลับเบอร์ missed call

- เปิดทำการ 6 วัน จันทร์ถึงเสาร์ 10โมงเช้า ถึงบ่าย 3โมง เราสามารถเดินทางไปให้คำปรึกษาได้ถึงบ้านท่าน โดยไม่คิดค่าบริการเพิ่ม

จอห์น
First Thai Migration Agent in Wollongong

ได้ licence แล้วครับ

หลังจากที่เรียนจบ Immigration Law จาก ANU ก็ใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน กว่าจะได้ใบอนุญาติทำอิมมิเกรชั่นเอเยนต์ เพราะปีนี้มีอะไรที่ต้องทำเยอะแยะเลย ปลีกตัวและแบ่งเวลากันวุ่นวายไปหมดเลย แต่สุดท้ายก็ได้ใบอนุญาติแล้วนะครับ สำหรับพี่ๆน้องๆที่วูลลองกองที่ได้สอบถามกันอยู่ตลอดเวลา ว่าเมื่อไหร่จะสามารถให้คำปรึกษาได้ ตอนนี้ก็สามารถให้คำปรึกษาได้แล้วนะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยากให้ทุกคนโทรมานัดก่อนที่จะขอคำปรึกษา เพราะว่าจะได้จัดเวลาให้ได้ถูกต้อง

ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อยากจะบอกทุกคนว่า ผมรับทำเรื่องเกี่ยวกับอิมมิเกรชั่นเท่านั้นนะครับ ไม่ได้เป็น Education Agent ที่หาที่เรียนให้นักเรียนอย่างที่เอเยนต์ส่วนใหญ่ในซิดนีย์ทำกัน จริงๆก็มาสามรถช่วยหาที่เรียนให้กับนักเรียนได้นะครับ เพียงแต่ว่าจากจะเน้นเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับอิมมิเกรชั่นโดยตรงก่อน แต่ถ้าคนใหนต้องการความช่วยเหลือตรงนั้น เราก็คงจะช่วยได้ แต่คงรับทำเป็น caseๆ ไป

ส่วน บล็อค (Blog) นี้ หรือเวปไซท์นี้ ก็จะเน้นภาษาไทย เพราะว่ากลุ่มลูกค้า เราก็คงจะเน้นที่คนไทยก่อน เราก็คงจะพยายามใช้ภาษาไทยที่เวปไซทืนี้ให้มากที่สุด เพราะว่าพี่ๆคนใหนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษมากนัก ก็สามารถเข้ามาอ่านข่าวสาร อะไรต่างๆเกี่ยวกับอิมมิเกรชั่นที่ผมจะเอาลงมาเขียนที่นี่ ก็แวะมาอ่านกันได้เรื่อยๆนะครับ จะพยายามบังคับตัวเองให้เขียนเนื้อหาต่างๆลงที่เวปไซท์นี้ทุกๆ 2 อาทิตย์ แต่ถ้าช่วงใหนขยันก็คงจะเขียนเพิ่ม

ต่อไปใครมีปัญหาอะไร ต้องการความช่วยเหลือ ก็คงไม่ต้องเดินทางไปซิดนีย์แล้วนะครับ ตอนนี้ที่วูลลองกองเราก็มีอิมมิเกรชั่นเอเยนต์คนไทยแล้ว

เวลาที่ให้คำปรึกษา ก็ 10 โมงเช้า ถึง บ่าย 3 โมง ของวันจันทร์ ถึง วันเสาร์ ถ้าจะโทรมานัด ก็สามารถโทรมาได้นะครับที่ 0412-470969 โทรมาดึกๆ หรือวันอาทิตย์ คงรับสายให้ไม่ได้นะครับ (นอกจากว่าด่วนจริงๆ ค่าปรึกษาก็คงจะอีกอัตราหนึ่ง) ถ้าใครไม่สะดวกเรื่องการเดินทางเข้ามาในวูลลองกอง เราสามารถไปให้คำปรึกษาที่บ้านท่านนะครับ ขอเพียงโทรมานัดก่อนล่วงหน้าเท่านั้น

จอห์น