วีซ่า subclass 457 ได้การเปลี่ยนแปลงแบบฟอร์ม online ของ stage 1, Standard Business Sponsor (SBS) ซึ่งตอนนี้มีการสอบถามรายละเอียดด้วยว่าใครเป็นเป็น director ของบริษัท ซึ่งก่อน 21 November 2015 จะไม่มีการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ director ของบริษัท
พอมีการสอบถามรายละเอียดโครงสร้างของบริษัท มันก็จะมีผลต่อเนื่องมาที่ Stage 2 ของวีซ่า Subclass 457 เพราะ Stage 2 คือ Nomination ซึ่งทางธุรกิจต้องมีการแจ้งความจำนงว่า ธุรกิจเองมีต้องการที่จะจ้างพนักงานหรือสปอนเซอร์พนักงานต่างชาติคนนี้ยังไง ทางธุรกิจเองมีความจำเป็นยังไง แล้วทำไมถึงไม่สามารถหาพนักงานที่เป็น local ที่เป็น PR หรือ citizen ไม่ได้
อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ทักษะการเขียน persuasive writing ของคนที่ทำเรื่องนะครับว่าจะอธิบายเข้าไปยังไง จะเขียนบอก "ก็ฉันต้องการจ้างคนๆนี้หนะ" มันก็คงไม่ได้
โดยปกติแล้วการทำ Nomination ธุรกิจก็ต้องโชว์ว่าตำแหน่งงานที่มีการสปอนเซอร์นี้เป็นตำแหน่งจริงๆที่มีอยู่ในธุรกิจ เจ้าของธุรกิจไม่ได้สร้างตำแหน่งงานขึ้นมาเพื่อหวังผลทางวีซ่า จุดนี้แหละที่ธุรกิจหลายๆเจ้าจะมีปัญหากัน คือไม่สามารถอธิบายหรือแจกแจงเหตุผลให้กับอิมมิเกรชั่นได้อย่างชัดเจนว่าธุรกิจเรานั้นมีความจำเป็นที่จะต้องมีพนักงานในตำแหน่งนี้อย่างไร ธุรกิจเองไม่ได้สร้างตำแหน่งงานขึ้นมาเพื่อหวังผลทางอิมมิเกรชั่น
แล้วยิ่งถ้าเราเป็นพวก self-sponsored ด้วยแล้ว คือพวกที่เปิดบริษัทเอง แล้วทำเรื่องสปอนเซอร์ตัวเอง หรือคนในครอบครัว ดังนั้นคนที่นามสกุลเดียวกัน 99.99% จะถูกถามว่าเป็นอะไรกันกับ director ของบริษัท ดังนั้นคนที่เป็น self-sponsor หรือคนในครอบครัวที่ถูก nominate ตำแหน่งขึ้นมา ก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมพร้อมในการตอบคำถามเกี่ยวกับ genuine position
ปกติแล้ว หลักในการตอบคำถาม genuine position มันก็มีความยากอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว ตอนนี้มาเจอข้อมูลของโครงสร้างของบริษัทและ director แล้ว มันยิ่งเป็นการเพิ่ม degree ของความยากเข้าไปอีก แต่ถ้าใครอยากจะมองว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายก็ไม่เป็นไร
ก็เข้าใจนะครับว่าวีซ่า subclass 457 มีการ scrutinize กันเยอะ และมีการ submit recommendation กันบ่อยมาก
การ submit recommendation ก็คือกระทรวงอิมมิเกรชั่นจะมีการเปิดโอกาสให้กับกลุ่มทนายและอิมมิเกรชั่นเอเจนท์ หรือกลุ่มนักวิชาการที่เกี่ยวข้องได้ยื่นข้อเสนอแนะแนวทางการเปลี่ยนแปลงวีซ่า subclass 457 เพื่อให้วีซ่า subclass 457 ได้ทำหน้าที่ของวีซ่าที่ถูกออกแบบ คือจัดสรรค์หาพนักงานให้กับธุรกิจเพื่อเป็นการส่งเสริมธุรกิจและสร้างงาน ส่งเสริมเศรษฐกิจให้กับประเทศ
การ submit recommendation ก็คือกระทรวงอิมมิเกรชั่นจะมีการเปิดโอกาสให้กับกลุ่มทนายและอิมมิเกรชั่นเอเจนท์ หรือกลุ่มนักวิชาการที่เกี่ยวข้องได้ยื่นข้อเสนอแนะแนวทางการเปลี่ยนแปลงวีซ่า subclass 457 เพื่อให้วีซ่า subclass 457 ได้ทำหน้าที่ของวีซ่าที่ถูกออกแบบ คือจัดสรรค์หาพนักงานให้กับธุรกิจเพื่อเป็นการส่งเสริมธุรกิจและสร้างงาน ส่งเสริมเศรษฐกิจให้กับประเทศ
ดังนั้นหลังจาก 21 November 2015 เป็นต้นมา หลายๆคนที่คาดหวังกันเอาไว้ว่า จะใช้หลักการ self-sponsor ในการทำวีซ่าก็ต้องมีการเตรียมตัวกันให้ดีๆ เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องโดนคำถามเกี่ยวกับ genuine position
Self-sponsor ยังสามารถทำวีซ่า subclass 457 ได้เหมือนเดิม เพราะว่ากฏหมายเองได้มีการอนุญาตให้ทำได้ เพียงแต่อิมมิเกรชั่นมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือ policy ในเรื่องของ self-sponsor ก็เท่านั้นเอง ตราบใดที่เราสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับ self-sponsor กับ genuine position ได้ วีซ่า subclass 457 ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะยังไงเสีย policy ก็คือ policy ไม่ใช่กฏหมาย
ถ้าคนที่ไม่ได้ทำงานทางด้านกฏหมายอิมมิเกรชั่นก็อาจจะไม่รู้ความแตกต่างระหว่า policy กับกฏหมาย ก็ไม่เป็นไร ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนายหรืออิมมิเกรชั่นเอเจนท์ก็แล้วกัน
มันก็อาจจะมีบ้างที่บางที case officer มือใหม่อาจจะไม่ approve stage 2 Nomination ของเรา แต่ปกติแล้ว self-sponsor ก็สามารถชนะได้ตอนที่ยื่นอุทรณ์ ขอให้เรามีความรู้เรื่องความแตกต่างระหว่าง policy กับกฏหมายก็เป็นพอ และทนายหรืออิมมิเกรชั่นเอเจนท์สามารถนำเอากฏหมายจาก section ใหน section ใหน มาอ้างอิงในการยื่นอุทรณ์
No comments:
Post a Comment