Bridging Visa B; ไม่ซื้อตั๋วก่อน ไม่เดินทางออกก่อน

"สมสวย" ตอนนี้ถือ Bridging Visa A แล้วต้องการขอ Bridging Visa B เพื่อเดินทางออกนอกประเทศ

1. "สมสวย" ต้องไม่ซื้อตั๋วก่อน Bridging Visa B จะออก ต่อให้ตั๋วราคาถูก มีโปรโมชั่นอะไรต่าง ๆ นานาก็ตาม เพราะถ้า Bridging Visa B ออกไม่ทันวันที่ซื้อตั๋ว ก็จะกลายเป็น "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย"

2. เราขอ Bridging Visa B เราไม่เคยแนบตั๋วการเดินทางครับ ก็ทำแบบนี้มา 16 ปีแล้ว

3. Bridging Visa B ไม่สามารถ grant ตอนนี้ที่ตัวเราเป็น ๆ อยู่นอกประเทศได้ ดังนั้น อย่าเดินทางออกนอกประเทศก่อนที่ Bridging Visa B จะ grant เป็นอันขาด ไม่ว่าจะเกิดขึ้นก็ตาม ที่บ้านมีคนเสียชีวิต หรือมีคนป่วยหนัก ก็ no choice ครับ ต้องรอ!!! อย่างมากเราก็ email ไปตามเรื่องให้บอกว่า urgent ต้องไปร่วมงานศพ นั่น นี่ โน่น 

4. ถือ Bridging Visa A แล้วเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่มี Bridging Vsia B, Bridging Visa A ของเราจะโดน cancel เลยทันทีที่เรารูด passport ที่สนามบิน (โดนตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเครื่องแล้วจร้าาาาา)

อะไร ใด ๆ Bridging Visa B ในส่วนของ Partner Visa กับ Subclass 482 หรือ Subclass 186/187 ก็ grant ค่อนข้างไว 1 วันได้เลย (ถ้าไม่ตกหล่น อันไหนตกหล่นก็ email หา case officer ได้เลย เขาจัดการให้ค่อนข้างไว ที่ผ่านมายังไม่เคยมีปัญหา)

ชีวิตเมืองนอกไม่ง่าย

มันคือ "ละคร"

Tax Cut; 01 July 2024

ภาษีรายได้ส่วนบุคคล ปัจจุบัน:

- $18,000 หรือ น้อยกว่า: $0%

- $18,201 - $45,000: 19%

- $45,001 - $135,000: $32.5%

- $135,001 - $190,000: $37%

- $190,001 ขึ้นไป: 45%

ภาษีรายได้ส่วนบุคคลใหม่ เริ่ม 01 July 2024:

- $18,000 หรือ น้อยกว่า: $0%

- $18,201 - $45,000: 16%

- $45,001 - $135,000: $30%

- $135,001 - $190,000: $37%

- $190,001 ขึ้นไป: 45%

อยู่ประเทศเขา อย่านิ่งดูดาย ไม่ต้องปั้นวัวปั้นควายให้ลูกเขาเล่น

แต่ต้องเสียภาษีจ๊ะ...

ออสเตรเลียการละคร

ตอนนี้ถือ Subclass 482; ทำอะไรได้บ้าง

"สมสวย" ตอนนี้ถือวีซ่า Subclass 482 อยู่กับบริษัท A.

1. สมสวยสามารถขอ PR ด้วย Subclass 186; Direct Entry กับบริษัท B ได้ (บริษัทใหม่)

2. สมสวยสามารถขอ PR ด้วย Subclass 186; Direct Entry กับบริษัท A ได้ (บริษัทเดิม)

3. สมสวยสามารถขอ PR ด้วย Subclass 186; Transitional Stream (TRT) กับบริษัท A ได้ หลังจากทำงานให้กับบริษัท A ภายใต้วีซ่า Subclass 482 เป็นระยะเวลา 2 ปี

Note1: Subclass 186 (ENS); Direct Entry สามารถขอได้เฉพาะสาขาอาชีพที่อยู่ใน long-term list เท่านั้น

Note2: Subclass 186 (ENS); Transition Stream (TRT) สามารถขอได้ทุกสาขาอาชีพที่อยู่ใน Subclass 482 ไม่ว่าสาขาอาชีพนั้นจะอยู่ใน long-term list หรือ short-term list

Copyright: ถ้าจะแชร์ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น, ไม่ copy & paste, ไม่ screencapture.

สิ่งที่นายจ้างต้องตอบคำถาม

ก่อนที่นายจ้างจะทำเรื่องสปอนเซอร์ใคร ไม่ว่าจะ subclass 482, subclass 494, subclass 186, subclass 187

สิ่งที่นายจ้างต้องตอบคำถามคือ

1. บริษัทมีหนี้สินอะไรหรือเปล่า

2. บริษัทมีประวัติแจ้งล้มละลายหรือไม่

3. บริษัทเคยถูก ATO audit หรือเปล่า

4. บริษัทเคยถูก FairWork audit หรือเปล่า

ถ้าตอบ "Yes" ข้อใดข้อหนึ่ง
คนสมัครเองก็ต้อง "ทำใจ" ว่าเรื่องจะช้า

เรื่องผ่านหรือไม่ผ่าน หนะอีกเรื่องหนึ่ง
แต่ที่แน่ ๆ "ช้า" แน่นอนครับ เพราะประวัติและข้อมูลของบริษัท

ทุกอย่าง... มีที่มาและที่ไป

Student Visa Refusal; บักจ่อย #2

บักจ่อย has declared he has been studying in Australia since xyz. The fact that he now wishes to undertake further studies that will extend his length of stay in Australia until xyz123 raises concerns that he may be using the student visa program to prolong his stay in the country. 

The length of time spent in Australia brings into question his intention to return to his home country to apply his knowledge and skills there.

When considering this in conjunction with other aspects set out in this decision record, the case officer is not satisfied that บักจ่อย will return to his home country at the end of his proposed stay in Australia. 

The case officer acknowledges the GTE statement บักจ่อย has provided in support of his application. While the case officer accepts individuals can choose to re-educate themselves, บักจ่อย has not sufficiently demonstrated this is their motivation for seeking to undertake the proposed course. 

The case officer is not satisfied บักจ่อย has demonstrated that the proposed qualificationห would be of more significant benefit to him than the qualifications he already holds. 

เราเลิกยื่นวีซ่านักเรียนนานแล้ว

แต่ถ้าใครโดนปฏิเสธมา ก็มาตามใจกับเรากับได้ครับ อุทธรณ์ไปที่ศาล AAT; Administrative Appeals Tribunal

Student Visa Refusal; บักจ่อย #1

I find this change of study intention and course regression raises concerns about บักจ่อย genuine intention to stay in Australia temporarily.

The fact that บักจ่อย wishes to regress his course of study and undertake further studies in a series of courses in a new field raises concerns that he may be using the student visa program for purposes other than academic progress.


เราเลิกยื่นวีซ่านักเรียนนานแล้ว
แต่ถ้าใครโดนปฏิเสธมา ก็มาตามใจกับเรากับได้ครับ อุทธรณ์ไปที่ศาล AAT; Administrative Appeals Tribunal

Subclass 408 (COVID Visa Stream) ใกล้หมด อยู่รอยื่น PR

"สมสวย" กับ "สมหล่อ" ตอนนี้ถือวีซ่า Subclass 408; COVID Visa Stream ซึ่งก็ต่อไม่ได้แล้ว หลังจาก 31 January 2024

สมหล่อ มีวุฒิการศึกษาในสาขาอาชีพที่อยู่ใน long-term list; Medium and Long‑term Strategic Skills List ซึ่งเป็นสาขาอาชีพที่ทางรัฐบาลต้องการ

สมหล่อยื่น EOI; Express of Interest ของ Skilled Migrant Visas ไปแล้ว; Subclass 189, Subclass 190, Subclass 491

ตอนนี้สมหล่อก็ได้แค่รอทางอิมมิเกรชั่นเรียก invitation ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร มันแล้วแต่คิว มันแล้วแต่การแข่งขัน มันแล้วแต่โควต้าของปีนั้น ๆ 

Skilled Migrant Visa มันเป็นแบบนี้แหละ

EOI จะเก็บข้อมูลเราเอาไว้สูงสุด 2 ปี ถ้าไม่ถูกเรียก ก็ยื่น EOI ใหม่ได้

ในขณะเดียวกัน สมหล่อก็ทำงานในตำแหน่งและสายงานที่ยื่นขอ Skilled Migrant Visa ด้วย ทำงานอยู่ในสาขาอาชีพที่อยู่ใน long-term list ดังนั้นสมหล่อก็สามารถขอ PR ด้วยวีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ได้; Subclass 186 (ENS); Direct Entry

อันนี้คือ PR เลย

แต่ต้องมีนายจ้างสปอนเซอร์

บางทีบริษัทเอง เขาก็มีคิวก่อนหลังของเขา เราก็ต้องรอ

บางทีบริษัทเอง เขาก็ไม่อยากปวดหัว ไม่อยากทำเรื่องสปอนเซอร์ ซึ่งก็ไม่ผิด บางทีเราอาจต้องส่ง resume ไปตามเมืองกันดารที่ไม่มีใครไป ไม่มีคู่แข่ง ประมาณว่านายจ้างคุกเข่าอยากให้เราไปทำงานด้วย อะไรประมาณนี้ :)

อะไร ใด ๆ วีซ่าของน้องสมสวย กับน้องสมหล่อใกล้หมดแล้ว

ที่ผ่านมาน้องสมหล่อก็ถือวีซ่านักเรียน แล้วต่อด้วย Subclass 485; Graduate Visa แล้วต่อด้วย Subclass 408; COVID Visa Stream

เมื่อวีซ่า Subclass 408 ใกล้หมด สิ่งที่น้องทั้งสองต้องทำคือหาวีซ่าอะไรอยู่ต่อ เพื่อรอ EOI เรียก และเพื่อรอทำ Subclass 186 (ENS); Direct Entry ด้วย

อันไหนมาก่อน เอาอันนั้น

ดูจากสถานการณ์แล้ว คราวนี้น้องสมสวยน่าจะต้องเป็นฝ่ายที่จะต้องขอวีซ่านักเรียน แล้วน้องสมหล่อติดตาม แล้วก็รอ EOI ไป แล้วก็รอทำเรื่อง Subclass 186 ไป

1. น้องสมสวยยื่นวีซ่านักเรียน น้องสมหล่อติดตาม ถ้าวีซ่านักเรียนผ่านก็ OK แต่น้องสมหล่อซึ่งเป็นผู้ติดตาม ก็คงต้องทำงานได้แค่ part-time เพราะเป็นวีซ่านักเรียนติดตาม (VET course, ถ้าเรียน ป.โท ก็อีกเรื่องหนึ่ง)

2. ถ้าวีซ่านักเรียนไม่ผ่าน ก็ไม่ต้องกังวลครับ ยื่นอุทธรณ์ได้

- AAT: $3,374 รอเรื่องประมาณ 1.5 - 2 ปี

- ศาลสูง (เตรียมไว้เลยประมาณ $6,000): รอเรื่องประมาณ 2 ปี อันนี้คิวค่อนข้างยาว

AAT + ศาลสูง = 3.5 ถึง 4 ปี; P' J คิดว่าน้อง ๆ คงจัดการชีวิตตัวเองได้แล้วแหละ ไม่ Skilled Migrant Visa; Subclass 189, 190, 491 ก็ Subclass 186

ไม่อยากให้เครียดกัน

แต่วางแผน Step-by-step; plan A และ plan B ก็แค่นั้นเอง

ชีวิตมี "ค่า" นะครับ

"ค่า" วีซ่า

"ค่า" AAT

"ค่า" ศาลสูง

"ค่า" อะไรอีก ๆ ต่าง ๆ นานา

เตรียมเรื่องการเงินเอาไว้ให้ดีๆ  ก็แค่นั้นเอง

อะไร ใด ๆ ทุกอย่างมีทางออก แค่ต้องใช้เวลา!!!

Copyright: ถ้าจะแชร์ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น, ไม่ copy & paste, ไม่ screen capture

ติด AAT อยากยื่น Subclass 482; วีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์

"น้องคำแพง" โดนวีซ่าปฏิเสธ (ไม่เกี่ยวว่าจะวีซ่าอะไร) แล้วยื่นอุทธรณ์ไปที่ศาล เรื่องตอนนี้อยู่ที่ AAT; Administrative Appeals Tribunal
น้องถือ Bridgng Visa A

น้องต้องการยื่นวีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ น้องสามารถทำอะไรได้บ้าง

1. ยื่น Stage 1; Standard Business Sponsor (SBS) ในระหว่างที่น้องอยู่ onshore อยู่ภายในประเทศออสเตรเลียได้

2. ยื่น Stage 2; Nomination ในระหว่างที่น้องอยู่ onshore อยู่ภายในประเทศออสเตรเลียได้

3. "น้องคำแพง" ขอ Bridging Visa B; $180 แล้วบินออกไปนอกประเทศสัก 1 อาทิตย์ แล้วยื่น Stage 3; Visa Application นอกประเทศ (offshore)  แล้วก็บินกลับเข้ามารอเรื่องภายในประเทศออสเตรเลีย

หลาย ๆ คนกลัวว่าจะกลับเข้าประเทศออสเตรเลียไม่ได้

- กลับเข้ามาได้ครับ เพราะน้องมี Bridging Visa B อยู่แล้ว

- รอเรื่องอยู่ภายในประเทศออสเตรเลียได้ครับ เพราะน้องยังมีเรื่องติดอยู่ที่ศาลอุทธรณ์ AAT

- เมื่อ Subclass 482 ผ่านแล้ว น้องก็ถอนเรื่องออกจาก AAT ได้

- น้องต้องออกไปยื่นเรื่องประเทศ เพราะน้องโดนวีซ่าปฏิเสธมา น้องจะติด section 48; คือห้ามยื่นเรื่องภายในประเทศ (ยกเว้นได้แค่บาง subclass)

- ที่น้องบินออกไปยื่นเรื่องนอกประเทศได้ เพราะน้องถือ Bridging Visa A, case 

- แบบนี้ไม่สามารถทำได้กับคนที่ถือ Bridging Visa C หรือ Bridging Visa E

- นอกจากวีซ่า Subclass 482 แล้ว ถ้าน้องจะบินออกไปนอกประเทศเพื่อยื่นวีซ่า Subclass อื่น ๆ ก็ใช้ strategy เดียวกันนี้

AAT บางทีมันก็เป็นแค่ steping stone เฉย ๆ นะครับ

วาง strategy ดี ๆ

ปรึกษาคนที่มี MARN เท่านั้น

คนที่รับทำเรื่องวีซ่าภายในประเทศออสเตรเลีย จะต้องมี MARN เท่านั้น และต้องโชว์หมายเลข MARN ทุกครั้งที่โพสต์อะไรออกสื่อ จะบอกแค่ว่ามี "ทีม" ดูแลไม่ได้ มันคือ Code of Conduct จาก OMARA

Copyright: ถ้าจะแชร์ แชร์จากต้นโพสต์, ไม่ copy & paste, ไม่ screen capture

Subclass 482; Stage 2: Nomination

Subclass 482 ไม่ได้ยื่น Stage 2; Nomination กับเรา

เราไม่ก้าวก่าย

แต่บางทีก็แอบคิดในใจว่าทำไมไม่ยื่น Nomiation x 4 ปีไปเลย

ค่า SAF มันก็ต่างกันแค่ $1,200 AUD ต่อปีเองนะ

อยากจะประหยัดตังค์ $1,200 เราไม่ว่า

แต่เผื่อใจ เผื่อเวลาถ้าสอบ IELTS ไม่ทัน แล้วต้องการเวลาในการสอบเอาไว้ด้วยนะครับ

ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่มีเวลาสอบ ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ไม่มีเวลาเตรียมตัว

3 ปี ผ่านไปไวมาก

ถ้าต้องยื่น Subclass 482 อีกรอบ

คราวนี้ก็คงได้เสียเยอะกว่า $1,200 แน่นอน

มองอะไรให้มันรอบด้าน

เพราะคิดต่าง จึงสำเร็จ :)

AAT; Administrative Appeals Tribunal

AAT; Administrative Appeals Tribunal หรือศาลอุทธรณ์

ข้อดีของ AAT คือเราสามารถ submit documents หรือ evidence ได้จนวินาทีสุดท้าย

- ไม่ว่าจะก่อนที่ hearing จะเริ่มขึ้น

- หรือในระหว่าง hearing

ดังนั้นการทำงานหนัก หามรุ่งหามค่ำ เพื่อ submit documents เข้าไปเป็นเรื่องสำคัญมาก

เราสู้จนวินาทีสุดท้าย เช้าวัน hearing ก็ยังนั่ง submit the last document อยู่ก็มี

หรือบาง case; 10pm - 11pm ก็ยังนั่ง submit the last document อยู่ก็มี

ใครไม่ได้ทำ ไม่มีทางได้รู้

แต่ผลลัพธ์ออกมามันดีมากเลยครับ

มันหายเหนื่อย

บาง case; ผ่านภายใน 39 นาที

บาง case; ผ่านภายใน 45 นาที

กับราคาที่ charge ไป บอกว่าเลย "คุ้มมาก" เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับมา

Partner Visa; Domestic Violence

Partner Visa; สำหรับใครที่จะ claim Family Violence Provision นะครับ

ทุกสิ่งอย่างที่เรากล่าวอ้างไป เราต้องมีหลักฐานมา support ด้วย

1. ที่บอกว่าทำร้ายร่างกาย มีรอบฟกช้ำดำเขียว มีการถ่ายรูปไว้หรือเปล่า

2. ที่บอกว่ามีการ verbally abused หรือข่มขู่ ได้อัดเสียงไว้หรือเปล่า

3. ได้ไปหาหมอไหม

4. ได้ไปแจ้งความไหม

5. ได้ไปหาจิตแพทย์หรือเปล่า

และอื่น ๆ อีก

เอกสารพวกนี้ อย่างน้อยต้องมี 2 อย่างขึ้นไปนะครับ

เอกสารทุกอย่างต้องเป็นความจริง ถ้าใช้เอกสารเท็จในการยื่น ระวังโดน PIC4020 โดนแบน 3 ปี

ก่อนที่จะสร้างครอบครัวมีลูกมีเต้าในประเทศออสเตรเลีย

น้องหนูทั้งหลาย ก่อนที่จะสร้างครอบครัวมีลูกมีเต้า

1. อย่าลืมดู visa condition ของตัวเองนะครับว่าทำงานได้กี่ชั่วโมง หรือว่าทำได้ไม่จำกัด รายได้เราจะพอเลี้ยงดูลูกน้อยหรือเปล่า

2. หากยังไม่พร้อม มันมีบางสิ่งบางอย่างที่เรียกว่า "condom" นะหนูนะ

3. ในมหาลัยมีให้หยอดเหรียญซื้อในห้องน้ำ (ผู้มีประสบการณ์)

4. การไปนั่งฟัง lecture ในมหาลัยแล้วมี "condom" อยู่ในกระเป๋าตังค์ก็ไม่ผิด (P' J ทำมาหมดแล้ว) หรือผู้หญิงมี condom ในกระเป๋าก็ไม่แปลก พี่ไม่ต้อง น้องเตรียมให้เอง

...อ๊ะ... เดี๋ยว P' J ใส่ให้ดู...

มีลูกเมื่อพร้อมนะครับทุกค๊นนนนน
ค่าครองชีพที่ออสเตรเลียแพงม๊วกกกกก

Subclass 482, Subclass 494; รายได้ของคนสมัครก่อนยื่นเรือง

เข้าใจว่าหลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้ plan ที่จะทำวีซ่าอยู่ต่อ

ไม่ได้ทำ payroll เยอะ อะไร นั่น นี่ โน่น

อะไร ใด ๆ ถ้าใครคิดจะทำวีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์นะครับ; Subclass 482, Subclass 494 

รายได้อย่าให้ขี้เหล่มาก

1. ถ้าทำ part-time, เราขอรายได้ before tax; $500/week อย่างต่ำ หรือ $25,000 ต่อปี

2. ถ้าทำ full-time, เราขอรายได้ before tax; $1,000/week อย่างต่ำ หรือ $52,000 ต่อปี

อันนี้คือรายได้ก่อนที่จะทำเรื่องนะครับ

ก่อนที่จะยื่นเรื่อง

และอันนี้ก็ตัวเลขคร่าว ๆ กลม ๆ 

Boyfriend girlfriend หรือ de facto partner

Partner Visa; จีบกันไป จีบกันมา เราเรียกว่า "dating" นะครับ

เป็น boyfriend girlfriend

ไม่ใช่ de facto partner 

1. เป็น boyfriend girlfriend เฉย ๆ ไม่ใช่ de facto partner ไม่สามารถยื่น Partner Visa ได้; Subclass 820/Subclass 801 หรือ Subclass 309/Subclass 100

2. De facto partner เอกสารและความสัมพันธ์ต้องมากกว่าการเป็น boyfriend girlfriend

- joint bank account เอย

- บิลค่าน้ำ ค่าไฟ ร่วมกันเอย

- และอีกอื่น ๆ ต่าง ๆ นานา

คลอดลูกที่นี่ พ่อเด็กเป็นคนออสซี่

"คลอดลูกที่นี่ พ่อเด็กเป็นคนออสซี่ และเด็กอายุ 10 ปี แม่จะได้เป็น citizen ที่นี่ไหม"

1. คลอดลูกที่นี่ พ่อเด็กเป็นคนออสซี่ ลูกก็ได้เป็น citizen เลยครับ ตั้งแต่วันแรกที่เกิด ไม่เกี่ยวกับ 10 ปีหรือเปล่า อันนั้นในกรณีที่ทั้งพ่อและแม่ไม่ใช่คนที่นี่ (PR/Citizen)

2. แม่ไม่ได้อะไรครับ ถ้าพ่อกับแม่ยังรักกันอยู่ ยังอยู่ด้วยกัน พ่อของเด็กก็สามารถทำเรื่องเรื่องขอ PR ให้แม่ของเด็กได้ครับ ด้วย Partner Visa; Subclass 820/Subclass 801 หรือ Subclass 309/Subclass 100

3. ถ้าพ่อกับแม่ของเด็กเลิกกันแล้ว ไม่ได้รักกันแล้ว ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ลูกก็สามารถทำเรื่องให้คุณแม่ได้ด้วย ด้วย Parent Visa (Contributory); Subclass 143 ซึ่งเป็๋น PR

ข้อมูลพวกนี้อยู่ที่ blog เราหมดแล้ว

การไล่อ่าน blog เก่า ๆ เป็นการลับคมสมองดีนักแล

jpp168immi.blogspot.com

เรื่องบางเรื่องปรึกษาคนที่มี MARN นะครับ

ศึกษา รู้เท่าทัน

Subclass 482; Caveat ร้านอาหาร

ร้านอาหาร หรือ cafe ถ้าไม่มั่นใจว่าทางร้านจะทำเรื่องสปอนเซอร์พนักงานได้หรือเปล่า

จะผ่าน caveat (special requirement) หรือเปล่า

เป็น limited-service หรือเปล่า

เป็นอาหารที่ involves limited cooking หรือเปล่า อย่างเข่น breakfast, brunch, Modern Australian, Cafe Salads, Pasta, Burgers, Bakery and Modern French

ถ้าอยากจะรู้ว่าจะผ่าน Caveat หรือเปล่า ก็ยื่นแค่ Stage 1 Standard Business Sponsor (SBS) และ Stage 2; Nomination ก่อนนะครับ

อย่าเพิ่งยื่น Stage 3 (สำหรับคนที่วีซ่ายังเหลือเยอะ)

ผ่าน Stage 2 ก่อนแล้วค่อยยื่น Stage 3

อันนี้เฉพาะร้านที่มีความเสี่ยงในเรื่องของ caveat นะครับ

ถ้าร้าน table-service ทั่ว ๆ ไป

ร้าน cook to order ทั่ว ๆ ไป ก็ยื่น Stage 1-2-3 ได้เลยพร้อมกัน

อะไร ใด ๆ อย่าลืม plan B 

มองหาร้านอื่นไว้ด้วยก็ดี

ไม่ไหวอย่าฝืน

ค่าสมัครของอิมมิเกรชั่น:

Stage 1: $420.00

Stage 2: $5,130.00 (SAF x 4 years, turnover less than $10M AUD)

ชีวิตมี "ค่า" นะครับ

- ค่าวีซ่า

- ค่ากิน

- ค่าอยู่

- ค่า นั่น นี่ โน่น

Chef; Skill Assessment offshore ไม่เคยมาออสเตรเลีย ไม่เคยทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย

"สมหล่อ" ไม่เคยมาออสเตรเลียเลย ไม่เคยทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย

"สมหล่อ" เป็น Sushi Chef ที่มีความสามารถ ทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่นมาโดยตลอด ทั้งที่ประเทศไทย และที่ต่างประเทศ

"สมหล่อ" ไม่เคยจบอะไรทางด้านการทำอาหารมาเลยที่เป็น formal education ก็มีไปลงเรียน course อะไรสั้น ๆ บ้าง ก็แค่นั้นเอง

ที่ไทย สมหล่อก็จบ ป.ตรี สายบริหาร

แต่ด้วยประสบการณ์ในครัวค่อนข้างเยอะ ทำงานมานาน ค่อย ๆ ไต่ ladder ขึ้นไปเป็น Sushi Chef 

ประสบการณ์ที่เป็น Chef ก็ 3 ปีกว่า ๆ full-time ทั้งหมด

และสมหล่อก็ทำงานในบริษัทที่มีการออก payslip อะไรถูกต้อง

ที่เมืองไทยมีนะครับ ร้านอาหารหลาย ๆ ที่ที่ออกเอกสารอะไรทุกอย่างถูกต้อง เอาทุกอย่างเข้าระบบ

สมหล่อมีประสบการณ์ในการทำงานเป็น Chef 3 ปีกว่า ๆ  full-time ทั้งหมด ดังนั้นสมหล่อสามารถทำ Skill Assessement กับ VETASSESS ได้

เอกสารที่สมหล่อใช้คือ:

1. จดหมายผ่านงาน (work reference) ซึ่งทางทีมงานเรามีให้

2. payslip ทุก ๆ เดือน ตลอดระยะเวลา 3 ปีกว่า ๆ

3. หลักฐานการโอนเงินค่าแรงเข้าบัญชี ตลอดระยะเวลา 3 ปี ทุก ๆ เดือน

มีเอกสารครบ

เราทุกอย่างเข้าระบบ มันดีอย่างนี้นี่เอง

เนื่องด้วยสมหล่อไม่ได้วุฒิการศึกษาจากประเทศออสเตรเลีย (Cert IV Commercial Cookery)

เราจึงต้อง:

- ทำ RPL (Recognition of Prior Learning) ให้น้อง

- เมื่อมี RPL เราก็สามารถทำ Skill Assessment; pathway 2 ได้ ไม่ต้องไปทำอาหารให้เขาดู แค่นั่งสัมภาษณ์ technical interview พอ

Skill Assessment Stage 1: Evidence Documentary คือการตรวจเอกสารเฉย ๆ ว่ามีประสบการณ์ครบ 3 ปี full-time จริงหรือเปล่า เอกสารก็ตามข้างบนเลย 1-2-3

Skill Assessment Stage 2: Technical Interview ก็เป็นนั่งสัมภาษณ์ ถามนั่น นี่ โน่น เรื่องการเป็น Chef เรื่องการทำงานในครับ คนที่เป็น chef จริง ๆ ทำงานในครัวจริง ๆ ต้องตอบได้อยู่แล้ว

- เรื่องความสะอาดในครัว

- เรื่อง zero waste

- เรื่องเมนูอาหาร ตาม resume ที่เราส่งเข้าไป

น้องอยู่นอกประเทศออสเตรเลีย

การสัมภาษณ์ก็ทำผ่าน Video conference

ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี

พอน้องได้ Skill Assessment แล้ว ก็แล้วแต่น้องว่า น้องจะไปต่อยอดด้วยวีซ่า subclass อะไร ขึ้นอยู่กับผลการสอบ IELTS ของน้อง :)

- ถ้าได้ 5 each band; พูด อ่าน เขียน ฟัง ก็ทำได้ Subclass 482

- ถ้าได้ 6 each band; พูด อ่าน เขียน ฟัง ก็ทำได้ Subclass 186; Direct Entry อันนี้คือ PR เลย

วางแผนให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

กราบขอบคุณที่เลือกใช้บริการของเรา

สินค้าดี ใช้แล้วช่วยบอกต่อ

เรื่องวีซ่า ปรึกษาคนที่มี MARN นะครับ

Copyright: ถ้าจะแชร์ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น, ไม่ copy & paste, ไม่ screen capture

...เขียนเองทุกตัวอักษร...

Limited-service restaurant #2

An open-source search was conducted, and it suggests that it is a limited service, in the sense that it appears to be mainly food that involves preparation and limited cooking, such as breakfast, brunch, Modern Australian, Cafe Salads, Pasta, Burgers, Bakery and Modern French.

จดทะเบียนสมรส vs จด register of relationship

1. จดทะเบียนสมรสไม่ได้ทำให้เอกสารหรือความสัมพันธ์หนักแน่นกว่าการจด register of relationship นะครับ (WA & NT ทำไม่ได้) มันมีค่าเท่ากันแหละ

2. เผื่อใจในวันที่หย่าด้วยนะครับ ยุ่งยาก วุ่นวาย

3. จด register of relationship เวลาเลิกกันก็แค่ทำเรื่อง revoke relationship, เก็บข้าวของเดินออกจากบ้านชิล ๆ แล้วก็ไปจดกับคนใหม่ได้

สร้างความร้าวฉานคืองานของ J หรือเปล่า :)

มองมากกว่าที่ตาเห็น

ฟังมากกว่าที่เคยได้ยินนะครับ

PR Pathways

1. วีซ่าที่ต้องใช้นายจ้างสปอนเซอร์

- Subclass 482 แล้วตามด้วย Subclass 186 (ENS); Transitional Stream

- Subclass 457/482 แล้วตามด้วย Subclass 187 (RSMS); Transitional Stream อันนี้เฉพาะกฎเก่า grandfathering rule

- Sublcass 186 (ENS); Direct Entry

- Subclass 494 แล้วตามด้วย Subclass 191 (PR)

2. วีซ่าที่สามารถขอได้ด้วยตัวเอง; Skilled Migrant Visas แบบนับแต้ม 65 แต้ม

- Subclass 189; ทั่วประเทศออสเตรเลีย

- Subclass 190; แยกเป็นรัฐ ๆ (+5 bonus point)

- Subclass 491; แยกเป็นรัฐ ๆ เมือง regional (+15 bonus point) แล้วตามด้วย Subclass 191

ชนะศาลอุทธรณ์ (AAT: Administrative Appeals Tribunal) ไม่ต้องไปขึ้นศาล

กับการชนะการอุทธรณ์ที่ AAT (Administrative Appeals Tribunal) แบบไม่ต้องไปขึ้นศาล มันคือที่สุดครับ

มันทำให้เรารู้ว่า hard work paid off

มันทำให้เรารู้ว่าเอกสารและ submission ต่าง ๆ ที่เราส่งเข้าไป

ที่เรา argue เข้าไป

นั้นมันได้ผล

การทำ AAT เราไม่ได้บอกว่าใครถูกใครผิด

เราแค่บางทีก็ต้อง present ข้อมูล from different angle ก็แค่นั้นเอง

แม่น้ำทั้ง 5-6-7-8-9 ยกมาให้หมด

email ที่ส่งเข้าไป AAT ช่วงเสาร์ - อาทิตย์ คือเรื่องปรกติ

บอกได้เลยว่า AAT cases ของเราหลาย ๆ cases "ไม่คุ้ม $$$" เพราะเวลาที่เรา spend ในการทำเรื่องนั้นเยอะมาก ต่อ 1 case

คนไม่ทำ จะไม่รู้

งานหลังบ้านเยอะมาก

เอกสารเยอะมาก 

การเขียน submission เยอะมาก โดยเฉพาะ persuasive writing

มันไม่ใช่แค่ "ชนะ AAT แล้ว ยินดีด้วยนะครับ"

ก่อนที่จะชนะ มันก็ต้องมีการเตรียมตัว นั่น นี่ โน่น เยอะมากถึงมากที่สุด

ใครไม่รู้

เรารู้

ทีมงานรู้ (BCC กันรัว ๆ )

แค่นี้พอ :)

กราบขอบคุณหลาย ๆ ท่านที่เลือกใช้บริการของเรา

สินค้าดี ใช้แล้วช่วยบอกต่อ

Note: สำหรับ case ต่างรัฐ ถ้าต้องขึ้นศาล เราก็บินไปต่างรัฐไปขึ้นศาลด้วย มีการ coaching การตอบคำถามก่อนขึ้นศาล และไม่เคยคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มแม้แต่ดอลล์เดียว

จดหมายผ่านงาน; work reference

ถ้าคิดจะทำวีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์; Subclass 482, Subclass 494,  Subclass 186

หรือแม้แต่วีซ่า Skilled Migrant Visas; Subclass 189, Subclass 190, Subclass 491

เราต้องมีจดหมายผ่านงานนะครับ; work reference

ทุกครั้งที่จะก้าวขาลาออกจากการทำงานนั้น ๆ เราต้องขอจดหมายผ่านงานนั้นเลยครับ จะได้ไม่ต้องกลับไปขออีก 

1. จดหมายผ่านงานไม่มีวันหมดอายุ

2. ต่อให้นายจ้าง goes bust หรือปิดกิจการไป ก็ไม่เกี่ยวกับเราแล้วครับ มันคือปัญหาของเขา ไม่ใช่ปัญหาของเรา จดหมายผ่านงาน ก็คือจดหมายผ่านงาน ไม่เกี่ยวว่าธุรกิจนั้นยังต้อง operates หรือเปล่า

Subclass 482, 494, 186, 187หย่าแล้ว อยากทำเรื่องพ่วง

"Subclass 482, Subclass 494, Subclass 186, Subclass 187: หย่าแล้วอยากทำเรื่องพ่วง"

1. หย่าแล้ว เลิกกันแล้ว ไม่ควรทำเรื่องให้กัน ต่อให้อีกฝ่ายเต็มใจทำเรื่องให้ (อาจจะรู้เทาไม่ถึงการ คิดง่าย ๆ ว่าอยากช่วย แต่ผลตามมามันวุ่นวายมาก)

2. ถ้าอยากจะช่วยจริง ๆ คือทำเรื่องร่วมกัน พ่วงกัน จนได้ PR แล้วค่อยเลิก แล้วค่อยหย่า

เผื่อใจไว้ทำเรื่องให้แฟนคนปัจจุบัน หรือทำเรื่องให้แฟนจริง ๆ ในอนาคตด้วยนะครับ

ทุกอย่างมี step ของมัน

คิดหน้า คิดหลังให้ดี ๆ ก่อนที่จะทำอะไร

ทุกการกระทำของเรา จะมีผลตามมาเสมอ

- ระวัง timeline ทับซ้อน

- ระวัง PIC4020 ถ้าโกหกหรือตั้งใจให้ข้อมูลผิดพลาด

- PIC4020 โดแบน 3 ปี ไม่คุ้มหรอกครับ

กางเกงในขาด ใส่แล้วทิ้ง เราไม่กลับเอามาใช้ใหม่

Copyright: ถ้าจะแชร์ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น, ไม่ copy & paste, ไม่ screen capture.

PR Pathway; Chef ไปทางไหนดี

"สมหล่อ" 

1. จบปริญญาตรีบริหารธุรกิจสาขาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหารที่วิทยาลัยดุสิตธานี

2. ทำงานในครัวตำแหน่ง Commis Chef II ที่โรงแรม JPP168 Thialand Hotel เป็นระยะเวลา 3 ปี มีหลักฐานการจ่ายค่าแรง มีการโอนเงินค่าแรงเข้าบัญชี มี payslip เพราะทำงานในโรงแรม 7 ดาวแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย มีการเสียภาษีถูกต้อง มีการจ่ายค่าประกันสังคม

3. ตอนนี้สมหล่อ อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เรียน

- Cert IV Kitchen Management 

- Diploma of Hospitality Management

4. สมหล่อทำงานเป็น chef ที่ประเทศออสเตรเลียด้วย แต่เอาจริง ๆ นะครับ ประสบการณ์การทำงานของสมหล่อจากเมืองไทย นั้นมากพอในการขอ PR; Permanent Resident แล้ว

สมหล่ออยากรู้ว่าเขาจะสามารถขอ PR ไปแบบไหนบ้าง

Option 1:

- ขอ Subclass 482; 4 ปี

- ถือ Subclass 482; 2 ปี

- ขอ PR ด้วย Subclass 186 (ENS); Transitional Stream

สมหล่อไม่ต้องทำ Skill Assessment เพราะสมหล่อจบ Cert IV Kitchen Management ที่ประเทศออสเตรเลีย (เคยเขียนเรื่องนี้ไปแล้ว ลองไล่อ่านดู)

- Subclass 482; สมหล่อต้องสอบ IELTS ให้ได้ 5 each band พูด อ่าน เขียน ฟัง หรือใช้ผลการเรียน 5 ปีก็ได้ (เคยเขียนเรื่องนี้ไปแล้ว ลองไล่อ่านดู)

- Subclass 186; สมหล่อต้องสอบ IELTS ให้ได้ 6 each band พูด อ่าน เขียน ฟัง ใช้ผลการเรียน 5 ปีไม่ได้ (เคยเขียนเรื่องนี้ไปแล้ว ลองไล่อ่านดู)

Option 2:

- ถ้าสมหล่อมีประสบการณ์ครบ 3 ปี full-time สมหล่อก็สามารถขอ PR ได้เลย ด้วยวีซ่า Subclass 186 (ENS); Direct Entry

- Subclass 186 (ENS); Direct Entry จะต้องทำ Skill Assessment กับ VETASSESS และผลสอบภาษาอังกฤษก็ต้อง IELTS (general) 6 each band; พูด อ่าน เขียน ฟัง

Option 3:

- เนื่องด้วย Chef อยู่ในสาขาอาชีพ long-term list (Medium and Long‑term Strategic Skills List) ซึ่งเป็นสาขาอาชีพที่ทางรัฐบาลต้องการ อยู่ใน high demand list ดังนั้นสมหล่อก็สามารถขอ PR ได้ด้วยตัวเอง ได้ด้วย Skilled Migrant Visas; Subclass 189, Subclass 190 และ Subclass 491 (Subclass 191)

อย่าลืมว่า hospitality industry คืออุตสาหกรรมหลัก ๆ รายได้หลัก ๆ ของประเทศออสเตรเลีย ยังไง ๆ สาขานี้ก็จะอยู่ใน long-term list อีกนานเท่านาน

- Skilled Migrant Visas, สมหล่อจะต้อง

* อายุต่ำกว่า 45 ปี

* มีผลสอบภาษาอังกฤษอย่างต่ำ IELTS (general) 6 each band; พูด อ่าน เขียน ฟัง

* มี Skill Assessment แต่ของ Skilled Migrant Visa, Skill Assessment จะต้องเป็นของ JRP (Job Ready Program) จาก TRA (Trade Recognition Australia)

* นับแต้มให้ได้ 65 แต้มอย่างต่ำ แต่ถ้าอยากให้ชัวร์ สำหรับ Subclass 189 ก็ควรมี 95 - 110 แต้ม เพราะคนสมัครเยอะ แต่ Subclass 190 และ Subclass 491 แต้มก็จะไม่โหดมาก

เราเคยเขียนวิธีการนับแต้มไปแล้วใน blog, ลองไล่อ่านดู

PR Pathway ไม่ว่าจะจบจากไทย หรือจบจากที่ประเทศออสเตรเลีย ทุกอย่างมี pathway ของมันครับ ก็แค่ปรึกษากับคนที่มี MARN เท่านั้น

ระวังข้อมูลที่แชร์กันตาม webboard ต่าง ๆ 

เราไม่รู้ qualification ของคนโพสต์เลย เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ระวังกันหน่อยก็ดี

"ชอบ" กด like

"ใช่" กดแชร์

Copyright: ถ้าจะแชร์ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น, ไม่ copy & pate, ไม่ screen capture

เขียนเองทุกตัวอักษร

Family Visa; Parent Visa + Subclass 835; Remaining Relative Visa

"น้องส้มต่อน" มีพี่สาวซึ่งเป็น PR/Citizen อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย

- คุณพ่อของน้องส้มต่อนเสียชีวิตนานแล้ว

- น้องส้มต่อนโสด

เรามาดูกันว่าครอบครัวนี้จะมี strategy ในการโยกย้ายแบบไหน

1. พี่สาวของน้องส้มต่อนทำเรื่อง Parent Visa (Contributory); Subclass 143 ใหักับคุณแม่ ถ้าคุณแม่อายุ 66.5 ปีขึ้นไปก็ทำเป็น Subclass 864 นะครับ

2. คุณแม่ได้ PR แล้วโยกย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย

3. น้องส้มต่อนก็จะกลายเป็น "สมาชิกคนสุดท้ายของครอบครัว" ทันที เข้าสูตรของ Subclass 835; Remaining Relative Visa ที่เราโพสต์ไปเมื่อไม่กี่วันมานี้พอดี

ทุกอย่างมีหนทาง

ทุกอย่างมีทางออก

แค่วาง strategy ให้ดี ๆ แค่นั้นพอ

ออ... และก็เงินในกระเป๋าจ๊ะ

เพราะ Contributory Parent Visa ก็ $43,600 AUD เอง :)

Copyright: ถ้าจะแชร์ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น, ไม่อนุญาตให้ copy & paste, ไมอนุญาตให้ screen capture

Painting Trades Worker

Painting Trades Worker หรือช่างทาสี เป็นสาขาอาชีพที่อยู่ใน long-term list (Medium and Long‑term Strategic Skills List) ถ้านายจ้างไม่ทำเรื่องให้ เราก็สามารถขอ PR ด้วยตัวเราเองครับ เป็น Skilled Migrant; Subclass 189, Subclass 190 หรือ Subclass 491 (Subclass 191)

Skilled Migrant Visas ทั้ง 3  subclasses นี้ คุณสมบัติหลัก ๆ ของคนสมัครคือ:

- อายุต่ำกว่า 45 ปี (เฉพาะ main applicant)

- มี Skill Assessment

- ผลสอบภาษาอังกฤษ IELTS (general) อย่างต่ำ 6 each band; พูด อ่าน เขียน ฟัง

- มีแต้มอย่างต่ำ 65 แต้ม

Note1: เคยโพสต์เรื่องการนับแต้มไปแล้วนะครับ ลองไล่ดูใน blog

Note2: Subclass 189 เราแนะนำให้ทำแต้มให้ได้ประมาณ 95 - 110, แต่ถ้า Subclass 190 หรือ Subclass 491 ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่

Copyright: ถ้าจะแชร์ให้แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น, ไม่ copy & paste, ไม่ screen capture

Restaurant Manager

"เพื่อนบอกว่าอิมมิเกรชั่นถอด restaurant manager ออกไปจาก list แล้ว"

1. อยากให้น้องไล่อ่านดูโพสต์เก่า เรื่องกฎใหม่ ณ วันที่ 25 November 2023 นะครับ

2. "เพื่อนบอกว่า" = "ตาบอดคลำช้าง"

...ไม่พูดเยอะ...

เรียนอะไรดีระหว่าง Aged Care กับ Cookery

คำถามยอดฮิต "เรียนอะไรดีระหว่าง Aged Care กับ Cookery"

อ๋อ แน่นอนจ๊ะ
มันก็ต้อง Cookery อยู่แล้ว
Cert IV Commercial Cookery หรือตอนนี้เปลี่ยนชื่อมาเป็น Cert IV Kitchen Management

เพราะ:

1. Cert IV Kitchen Management หรือ Commercial Cookery คือวุฒิการศึกษาของสาขาอาชีพ Chef ครับ ซึ่งอยู่ใน long-term list หรือชื่อเต็ม Medium and Long‑term Strategic Skills List ซึ่งก็หมายความว่าเป็นสาขาอาชีพที่อยู่ใน demand list เป็นสาขาอาชีพที่ทางรัฐบาลต้องการ

2. เมื่อ Chef อยู่ในสาขาอาชีพที่เป็น long-term list มันก็มี pathway ไปเป็น PR เยอะมากถึงมากที่สุด

- Skilled Migrant Visas: Subclass 189, Subclass 190, Subclass 491 (Subclass 191) คือการขอ PR ด้วยตัวเอง

- วีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ และต่อยอดด้วย PR; Subclass 482, Subclass 494 (Subclass 191), Subclass 186

3. ตรงกันข้าม Aged Care Worker ไม่ได้อยู่ใน list อะไรเลย

Long-term list ก็ไม่อยู่

Short-term list ก็ไม่อยู่

ลูกเมียน้อย

4. Aged Care Worker อยู่ใน Labour Agreement (Subclass 482 และ Subclass 186) ปัญหาคือมันมีไม่กี่บริษัทที่อยู่ใน Labour Agreement 

มันมีไม่กี่บริษัทที่อยากจะสปอนเซอร์พนักงาน

ทำงานไปเถอะ แบก ยก หาม คนแก่ แต่นายจ้างจะ appreciate กับสิ่งที่เราทำหรือเปล่านั้น อีกเรื่องหนึ่ง

ทำงานไปเถอะ เช็ดอึ เช็ดปัสสะวะ คนแก่ แต่นายจ้างจะ appreciate กับสิ่งที่เราทำหรือเปล่านั้น อีกเรื่องหนึ่ง

หรือเขามองเห็นเราเป็นแค่ "มดงาน"

ทำงานดูแลคนแก่ หรือทุก ๆ อาชีพ เป็นงานที่มีเกียรติครับ เราชื่นชม

แต่นายจ้างจะสปอนเซอร์หรือเปล่านั้น อีกเรื่องหนึ่ง

ลาออก เดี๋ยวนายจ้างก็หาพนักงานใหม่ ชิล ๆ

เพราะคนเรียนเยอะมาก ค่าเรียนถูก

จบ Cert II หรือ Cert III ก็ทำงานได้แล้ว (Skill Level 4)

course เรียน "ถูกและดี" ไม่มีอยู่จริง

มันแค่ "การตลาด"

ใครจะเรียน course อะไร เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่แล้ว

แค่คนถามมา เราก็ตอบไปก็แค่นั้นเอง

มองมากกว่าที่ตาเห็น

ฟังมากกว่าที่เคยได้ยิน

Child Visa; Subclass 101, Subclass 802

Child Visa; Subclass 101, Subclass 802

ถ้าคุณลูกอายุ 18 ปีขึ้นไป

คุณลูกจะต้อง:
- เรียน full-time
- โสด
- ไม่ทำงาน ยังขอเงินคุณพ่อ คุณแม่ใช้อยู่

ถ้าอยากจะ consult

เราขอดูประวัติการศึกษาของคุณลูกตั้งแต่ ม.3 - ปัจจุบันด้วยนะครับ
หรือตั้งแต่ ปวช - ปัจจุบันด้วยนะครับ

เขียนมาแบบนี้นะครับ:

dd/mm/yyyy - dd/mm/yyyy: เรียนอะไร
dd/mm/yyyy - dd/mm/yyyy: เรียนอะไร
dd/mm/yyyy - dd/mm/yyyy: เรียนอะไร
dd/mm/yyyy - dd/mm/yyyy: เรียนอะไร

เขียนมาแบบนี้นะครับ เราจะได้ assess case ง่าย ๆ
จะได้ไม่ต้องเสียเวลาซึ่งกันและกัน
วันหนึ่งมี 24 hr

Subclass 835; Remaining Relative Visa

Subclass 835; Remaining Relative Visa คือ PR สำหรับสมาชิกคนสุดท้ายในครอบครัวนะครับ

เราจะต้องไม่เหลือใครแล้วที่เมืองไทยนะครับ

จะต้องเป็นสมาชิกคนสุดท้ายของครอบครัวจริง ๆ

ระยะเวลาในการรอ 32 ปี

ใช่ครับ อ่านไม่ผิด "32 ปี"

1. ก็เข้ามายื่นที่ออสเตรเลียสิ ยื่น onshore ก็จะได้ Bridging Visa A

 
2. ช่วงที่ถือ Bridging Visa A; 32 ปี ก็ทำงานหานายจ้างไปสิ แล้วเปลี่ยนไปทำ Subclass 482, Subclass 494, Subclass 191, Subclass 189, Subclass 190, Subclass 491

 
หนทางขอ PR มีเยอะแยะ

3. หรือช่วงที่ถือ Bridging Visa A; 32 ปี ก็อาจจะคนรัก ก็ทำเรื่อง Partner Visa ไปสิครับ Subclass 309, Subclass 100

 
หนทางขอ PR มีเยอะแยะ

เรื่องบางเรื่องไม่ใช่เรื่องยาก

แค่วาง strategy ดี ๆ

ปรึกษาถูกที่ มี PR ในกำมือแล้วครึ่งใบ

Subclass 482; ผลการเรียน 5 ปี ไม่ต้องสอบภาษาอังกฤษ

จุดพลุปัง ๆ Melbourne

Subclass 482; วีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์

น้องใช้ทนายฝรั่งที่เมือง "xyz" ทำเรื่อง Stage 1 & 2 ให้

ทนายฝรั่งปฎิเสธที่จะทำ Stage 3 ให้น้อง

บอกให้น้องไปสอบ IELTS มาให้ได้ 5 each band; พูด อ่าน เขียน ฟัง

เพื่อนของน้องเคยทำเรื่องกับ P' J แล้ว

เพื่อนของน้องใช้ผลการเรียน 5 ปีในการยกเว้นการสอบภาษาอังกฤษ

เพื่อนของน้องก็ผลการเรียนช่วงที่เรียนภาษาอังกฤษด้วย (General English)

ที่หลาย ๆ คนบอกว่าทำไม่ได้นั่นแหละ

น้องก็เลยมาทำ Stage 3 กับเรา

ก็แล้วแต่ใครจะพูดอะไร ยังไงนะครับ 

P' J ไม่มีเวลาไปโต้เถียง

เอาเวลามานั่งทำ case ดีกว่า ได้ตังค์

ทำให้เขาเห็นไปเลย ว่ามันทำได้

ที่เขาบอกว่า "ทำไม่ได้" มันคือปัญหาของเขา

ไม่ใช่ปัญหาของเรา :)

ทำแล้ว

ทำอยู่

ทำต่อไป