แต่ยื่นในสาขาอาชีพที่เปลี่ยนมาอยู่ใน short-term list
- cook
- restaurant manager
- massage therapist
ยื่นก่อนหรือภายในวันที่ 18 Apr 2017 วันที่กฎเปลี่ยน
ยังขอ PR ได้
แต่ปัญหาคือ วีซ่าออกหลังวันที่ 18 Apr 2017 ซึ่งก็จะได้วีซ่ามาแค่ 2 ปีเอง
และเราก็ต้องทำงานให้กับนายจ้างนี้เป็นเวลา 2 ปี (กฎเก่า) แล้วถึงจะขอ PR ได้
ตายละ ทำไงดี
ได้วีซ่ามา 2 ปี
ต้องทำงานให้ครบ 2 ปี
แล้วจะขอ PR ได้ไง
ถ้ายื่นก่อนวีซ่าหมด เราก็คงจะทำงานด้วยวีซ่า subclass 457 ไม่ครบถึง 2 ปี
อ๋อ
มันก็พอมีวิธีทำครับ:
1. ยื่นวีซ่าหลัง 5pm ของวันนั้น เพราะถือว่าเราทำงานครบ 2 ปีแล้ว แต่ก็ต้องรีบยื่น submit online ก่อนเที่ยงคืน ก่อนที่วีซ่าเราจะหมด มีทนายฝรั่งพุงยื่นบางคนทำแบบนี้ แต่ที่ J Migration Team เราคงไม่ทำแบบนี้จ๊ะ เพราะจาก 5pm - 12 midnight, ถ้าช่วงเวลานั้น ทางอิมมิเกรชั่นมีการ shutdown ระบบเพื่อซ่อมแซมหละ เราก็คงยื่นไม่ทัน
เราจะทำแบบที่ 2 จ๊ะ
2. เราจะยื่น Tourist Visa เข้าไป หรือวีซ่าอะไรก็ได้
ยื่นก่อนวีซ่าหมด 1-2 วัน เพื่อให้ได้มี Bridging Visa A มาเป็น back up เอาไว้ พอทำงานครบ 2 ปี วีซ่าหมด, Bridging Visa A ของเราก็จะ take effect ทันที แล้วในช่วงที่ถือ Bridging Visa A นั้น เราก็สามาถขอ PR ได้จ๊ะ เพราะวีซ่า subclass 186 ENS หรือ subclass 187 RSMS, คนที่ถือ Bridging Visa A, B หรือ C สามารถขอวีซ่า subclass 186/187 ได้จ๊ะ
พอยื่น subclass 186/187 เข้าไป เราก็ถอนเรื่อง Tourist Visa ออกมา
เห็นม๊ะ มันก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร
ไม่ต้องคิดนอกกรอบจ๊ะ เพราะเด็กรุ่นใหม่ พุงไม่ยื่นอย่างเรา ไม่มีกรอบอะไรทั้งสิ้น use imagination และ creativity ภายใต้กฎเกณฑ์ของกฎหมาย มันก็ทำได้
สาเหตุที่เราเลือกยื่นวีซ่าท่องเที่ยว เพราะว่าค่าสมัครมันถูกดีหนะ $355
แต่ solution นี้ก็ไม่จำเป็นที่ต้องใช้กับทุกคนนะครับ
ถ้า... ถ้า...
ใครบางคนได้วีซ่ามา 22 Jun 2017 หละ
แล้ววีซ่าหมดวันที่ 22 Jun 2019 ซึ่งเป็นวันเสาร์หละ
ถ้าคนถือวีซ่าทำงานเป็นแบบ roster และ contract of employment บอกว่าทำงาน full-time; 38 หรือ 40 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ ถ้าทางร้านจัด roster ตารางการทำงานของอาทิตย์นั้นให้ครบ 38 หรือ 40 ชั่วโมงภายในวันศุกร์ ซึ่งก็คือ 21 Jun 2019
พอเราทำงานเสร็จวันที่ 21 Jun 2019 เราก็ถือว่าเราทำงานครบ 2 ปีแล้ว เพราะวันที่ 22 Jun 2019 มันเป็นวันหยุด เราก็สามารถยื่นเรื่องได้เลยวันศุกร์ หลังเลิกงาน 5pm อะไรก็ว่าไป
ปัญหาทุกอย่างมีทางออกนะครับ
ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้กันไปทีละเปราะ ทางมันก็ไม่ได้ตันไปหมดซะเลยทีเดียว
ลองหาที่ปรึกษาที่ดี ที่ไว้ใจได้ดูละกัน
เราก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะครับ เดินไปตามหาฝันของตัวเองให้เจอนะครับ
มีเป้าหมายในชีวิตที่แน่นอน
ถ้าเรามีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน เส้นทางในการเดินทางมันจะปรากฎขึ้นมาเอง
No comments:
Post a Comment