Partner Visa; สมชาย สมหมาย และ สมหญิง

ความรัก... บางทีมันก็เป็นภาษาของหัวใจ ไม่มีถูก ไม่มีผิด

ก็อาจจะมีบ้างที่ someone แต่งงานกับ someone แล้วก็ทำเรื่องติดตามกัน โดยเฉพาะวีซ่านักเรียน

มีหลาย ๆ คู่ที่เพื่อนแต่งงานกับเพื่อน หรือญาติแต่งงานกันเพื่อลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าเทอม

หรือบางคู่ที่รักจริง ๆ แต่งกันจริง ๆ อันนี้เราก็ขอชมเชย

สมชายกับสมหญิง แต่งงานกัน แล้วยื่นวีซ่านักเรียนมาด้วยกัน

สมชายกับสมหญิง รักกันจริงหรือเปล่าเราไม่รู้ เพราะเราไม่ได้นอนเตียงเดียวกันกับพวกเขา และเราก็ไม่ได้ทำวีซ่านักเรียนมากนัก (ทำแต่ไม่ได้เยอะมาก) และถ้าเราทำ เราก็ทำเฉพาะคู่ที่เขาเป็นแฟนกันจริง ๆ รักกันจริง ๆ อยู่แล้ว 

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใดก็ตามแต่ หากวันหนึ่งสมชาย ผู้ซึ่งแต่งงานหรือจด register of relationship กับสมหญิง และทำวีซ่าติดตามกันมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนอยู่แล้ว หากอยู่มาวันหนึ่งวันหนึ่งสมชายเกิดเปลี่ยนใจไปชอบสมหมายซึ่งเป็นเพศเดียวกัน

ก็หวังว่าทุกคนคงพอจะเดาเพศพรรณ์ได้ถูกจากชื่อ

ถ้าเพื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ก็ไม่เป็นไรจ๊ะ

ชีวิตคนเรา มันเปลี่ยนรสนิยมกันได้

ขอเพียงแค่ ถ้าจะสมชายจะตัดขาดจากสมหญิง สมชายก็ต้องตัดขาดจริง ๆ แล้วมากินอยู่กันเยี่ยงคู่รักเพศเดียวกันกับสมหมาย

Partner Visa เรื่องแบบนี้มีเยอะแยะ ไม่แปลก

ดังนั้นหลาย ๆ คนก็ไม่ต้อง panic ว่าตัวเองเคยทำเรื่องกับแฟนเก่าที่เป็นเพศตรงข้าม แต่ตอนนี้มาทำเรื่องกับแฟนคนใหม่ที่เป็นเพศเดียวกัน

โลกนี้มันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

ทุกอย่าง ขอให้เป็นความจริง (คู่ใหม่ คู่ปัจจุบัน) รักกันจริง เราจัดการให้ได้

ถ้าเป็นเรื่อง Partner Visa, ซับซ้อนเราไม่กลัว กลัวไม่ซับซ้อน

ขอแค่ไ่ม่โกหกเราก็พอ 

แต่เราก็พอจะสัมผัสและรู้สึกได้แหละว่าคู่ไหนจริง หรือไม่จริง (ปรกติเราก็จะตัดไฟตั้งแต่ต้นลมอยู่แล้ว)

ก็เอาเป็นว่าหากวันหนึ่งสมชาย เกิดการเปลี่ยนใจใน lifestyle ก็ไม่เป็นไร

Be true to yourself.

แล้วปล่อยปัญหาของสมชาย ให้เป็นปัญหาของเรา เรื่องแค่นี้เราสามารถอธิบายได้ และก็ผ่านทุก case ที่เราทำมา

สรุป...สมชายที่มาด้วยกันกับสมหญิง สามารถเปลี่ยนใจไปทำเรื่องกับสมหมายได้

ในขณะเดียวกัน สมหญิงก็อาจจะเปลี่ยนใจไปคบและทำเรื่องกับสาวหล่อก็ได้

ได้หมด ถ้าสดชื่น

ที่ผ่านมาไม่นับ

ขอแค่คู่ปัจจุบันรักกันจริง ไม่ได้อิงนิยาย แค่นั้นก็พอ

และถ้าตัดขาดจากคนเก่าไปแล้ว ก็ต้องตัดให้ขาด

ไม่มีแบบพวกความรัก 3 ใบเถา 

แบบนั้นไม่เอา

ไม่เผื่อเลือก 

ไม่หากินข้างทางจ๊ะ 

มีหลายคนได้ แต่ต้องทีละคน

Note: post ทุก post, blog ทุก blog
P' J เขียนเองทุกตัวอักษร

Subclass 190; NSW

Skilled Migrant คือการนับ point เพื่อสมัครวีซ่าและขอ PR ด้วยตัวของเราเอง

1. Subclass 189; Skilled Independent visa คือวีซ่าที่สามารถขอได้ทั้วประเทศ


แต่สาขาอาชีพจะต้องอยู่ใน Medium and Long‑term Strategic Skills List หรือเราเรียกสั้น ๆ ว่า Long-term List

สาขาอาชีพเหล่านั้นสามารถเข้าไปดูได้ที่

https://www.legislation.gov.au/Details/F2019C00855

2. Visa subclass 190; Skilled Nominated Visa คือวีซ่าที่เป็น PR ที่เราเลือกที่จะอยู่ในรัฐ ๆ นั้นเป็นระยะเวลา 2 ปี หลังจากที่ได้ PR

3. Visa subclass 491; Skilled Work Regional Visa เป็น regional visa เป็นแค่ TR ไม่ใช่ PR แต่มันก็มี Pathway ไปเป็น PR คือ subclass 191 (ลอง search หาอ่านใน blog ของเรานะครับ)

Postcode regional area จากวันที่ 16 Nov 2019 มีดังต่อไปนี้

https://www.legislation.gov.au/Details/F2019L01446

subclass 190 คนสมัครจะได้ point เพิ่มจากรัฐบาล 5 points

subclass 491 คนสมัครจะได้ point เพิ่มจากรัฐบาล 15 points

วันนี้เราข้อมูลเรื่อง point ของ subclass 190 ของ NSW ที่ถูก invite ช่วง 16 Nov 2019 - 7 Jan 2020 มาฝากนะครับ

65 Points

Research and Development Manager
Internal Auditor
Welfare Worker
Fitter- Welder
Lift Mechanic

70 Points

Corporate Services Manager
Human Resource Manager
Production Manager (Manufacturing)
Welfare Worker
Automotive Electrician
Metal Fabricator
Carpenter
Electrician General
Program or Project Administrator

75 Points

Human Resource Manager
Occupational Health and Safety Adviser
Welfare Worker
Diesel Motor Mechanic
Electrician General
Airconditioning Refrigeration Mechanic
Cook
Hairdresser
Program or Project Administrator

80 Points

Corporate Services Manager
Research and Development Manager
Engineering Manager
Quality Assurance Manager
Cafe or Restaurant Manager
Hotel or Motel Manage
Statistician
Public Relations Professional
Midwife
Registered Nurse (Community Health)
Developer Programmer
Medical Laboratory Technician
Electrical Engineering Technician
Motor Mechanic General
Diesel Mechanic
Fitter General
Carpenter
Plumber (General)
Electrician (General)
Chef
Project or Program Administrator

หลาย ๆ คนบอกว่าทำไม point สูงจัง

ไม่เลยจ๊ะ แค่นี้ยังไม่ได้สูงเลยจริง ๆ

น้อง ๆ คนไทยหลายคนสามารถทำแต้มได้ถึง 90 points ถ้าเรามีการวางแผนที่ดี เพราะพวก bonus point อะไรต่าง ๆ มันก็ช่วยได้เยอะ

อดใจรอนิด เดี๋ยวจะได้อ่าน blog อ่าน case study น้อง 90 points ในเร็ววันนี้

มันทำได้จ๊ะ
ทุกสิ่งอย่างขึ้นอยู่การวางแผนที่ดี
ทุกสิ่งอย่างขึ้นอยู่กับ mindset

ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ เราก็ทำได้
ถ้าเราคิดว่าเราทำไม่ได้ เราก็ทำไม่ได้

ก็แค่นั้นเองจริง ๆ

คนเรามันก็ต้องมีความพยายาม
ถ้านั่ง ๆ นอน ๆ แล้วหายใจทิ้งไปวัน ๆ
มันก็คงไม่ได้หนะจ๊ะ

ชีวิตนี้เป็นของเรา
เราต้องการแบบไหน ก็เลือกเอาแบบนั้น
กุมบังเหียนชีวิตของตัวเอง

เราขอเอาใจช่วยทุกสิ่งอย่าง

ผู้พลิกผันสถานการณ์ จากที่ต้องกลับไทยภายใน 3 วัน ตอนนี้ได้วีซ่าทำงานโดยที่นายจ้างสปอนเซอร์แล้ว subclass 482 TSS แล้ว

เธอ...เธอ... ใครอยู่แถว Castlereagh St, Sydney วันนี้รอรับดอกไม้ด้วยนะจ๊ะ

จาก someone ที่แฟนเป็นอะไรไม่รู้ P' J จำไม่ได้ รู้แต่ว่าแฟนถือ Bridging Visa A และจะต้องกลับเมืองไทยภายใน 35 วัน

น้องก็อาจจะติดต่อและหาทางออกไปหายที่
กว่าจะมาถึงเรา วีซ่าของแฟนน้องก็จวนเจียนจะหมดแล้ว เหลืออีกประมาณ 2 อาทิตย์ อะไรประมาณนี้ แต่วีซ่าของน้องตัว main applicant หนะมีเหลือเยอะอยู่ ก็มีแต่ของแฟนน้องนี่แหละ ที่มีปัญหา

น้องติดต่อมา โทรมา consult นั่น นี่ โน่น (คนที่สามารถติดต่อเราได้ก็มีจ๊ะ ถ้ารู้ช่องทาง) น้องมีเวลาประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนที่วีซ่าของแฟนน้องจะหมด

น้องบอกว่าทางร้านมีทนายของร้านอยู่แล้ว เดี๋ยวเจ้านายจะจัดการให้

ผ่านไปสักพัก น้องติดต่อมาวันเสาร์ และวีซ่าของแฟนน้องจะหมดแล้ววันอังคาร

อ้าว... ทำไมติดต่อมา last minutes

น้องบอกว่าทนายของทางร้านติด นั่น นี่ โน่น เรื่องเยอะ เลยจะให้เราทำเรื่องให้แทน

ได้หมดถ้าสดชื่น
เงินมา งานไป

แต่... 

huh... อะไรนะ วีซ่าจะหมดแล้ว 3 วัน
และวันที่ติดต่อมาก็เป็นวันเสาร์ด้วย วันรุ่งขึ้น วันอาทิตย์เราก็อยากจะพักผ่อน และเสาร์อาทิตย์เราก็ติดต่อ accountant ของทางร้านเพื่อเอาเอกสารไม่ได้ด้วย 

เรารับปากว่าจะรับ case ให้

เพราะรักจึงยอมทุกอย่าง

แต่เราบอกว่า วันจันทร์ที่ accountant ของทางร้านทำงาน เราขออะไรไป เขาจะต้องมีให้เลยทันทีนะ น้องก็รับปากว่าเจ้านายจะช่วยเต็มที่ เพราะเจ้านายมีร้านหลายร้าน ต้องการคนช่วยดูแล

จริง ๆ จ๊ะ เจ้านายน้องช่วยเต็มที่จริง ๆ 
ขออะไรไป มีให้หมด ทางทีมงานเรารู้สึก appreciate มาก
น่ารักที่สุด

สุดท้ายเราก็ยื่นเรื่องกันทันจ๊ะ
ยื่นกันวันอังคารบ่าย ๆ ก่อนที่วีซ่าจะหมด น้อง ๆ ก็หายใจไม่ทั่วท้องกัน

รวดรัดตัดตอน จากแฟนของน้องที่จะต้องเดินทางออกนอกประเทศภายใน 3 วัน น้องก็ไม่ต้องเดินทางออก เพราะวีซ่า subclass 482 (186 & 187) คนที่สมัครสามารถถือ Bridging Visa A, B or C ได้จ๊ะ (knowledge is KING)

วันนี้เป็นวันดี 26 Feb 2020; วีซ่าของน้องทั้ง 2 ผ่านแล้วจ๊ะ

เราและทีมงานขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ

สินค้าดีใช้แล้วช่วยบอกต่อ

Note: น้องบอกว่าเพื่อน ๆ ของน้องหลาย ๆ คนพยายามโทรหา P' J ติดต่อ P' J ไม่ได้.... อันนี้ก็ปล่อยให้เป็นปัญหาของเพื่อนน้องละกัน ขอ P' J แก้ปัญหาให้หนูก่อนเป็นพอ ทำเป็นเรื่อง ๆ ไปจ๊ะ ถ้าศีลเราเสมอ เดี๋ยวเขาก็ติดต่อได้เองแหละ ถ้ารู้ช่องทาง

Subclass 482; เมื่อนายจ้างเรียกเงิน $50,000 ในการขอ PR

hmmm... subclass 482 เมื่อนายจ้างเรียกร้องเงิน $50,000 ในการที่เขาจะทำเรื่องสปอนเซอร์ให้เราตอนยื่น PR (subclass 186)

ทำไมเราจะต้องจ่ายเงินให้กับนายจ้างด้วยหละ มันไม่ make sense

เราก็ทำงานให้เขาแล้วหนิ

เขาก็ต้องจ้างเราและจ่ายค่าแรงเราตาม contract of employment ป๊ะ

มี holiday pay, sick pay...etc...etc...

แล้วทำไมไม่คิดว่า

ถ้านายจ้างไม่มีพนักงาน นายจ้างก็ต้องทำเองหมดทุกอย่างหนะจ๊ะ

ถ้านายจ้างไม่ต้องการที่จะทำเรื่องต่อให้กับพนักงาน ก็แค่บอกดี ๆ ว่าจะไม่ทำเรื่องให้ ก็แค่นั้นเอง พนักงานจะได้ move on แล้วไปทำงานที่อื่นที่นายจ้าง willing ที่จะทำเรื่อง sponsor ให้

ปีนี้ปี 2020 แล้วนะเธอ

no more modern slavery นะครับ

โลกมันไปถึงไหนต่อไหนแล้วเธอ

เขาจะใช้ 5G กันแล้ว อย่ามามัวทำตัวเป็นคุณป้า 2G อยู่เลย

Elon Musk กำลังจะไปดาวอังคาร

พวกเราเลิกขี่เกวียนกันดีว่ามั้ย

ดูแลเขา แล้วเขาจะได้ดูแลเราจะดีกว่าหรือเปล่านะ

น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่าจะดีกว่าหรือเปล่านะ

ถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบนี้

เราก็แนะนำว่าให้เดินออกมาสวย ๆ เพราะพวกเขาไม่คู่ควรกับเรา

ยังมีนายจ้างอีกหลายคนที่เขาต้องการพนักงานจริง ๆ และ willing ที่จะทำเรื่องสปอนเซอร์ทุกสิ่งอย่างให้

ก็ลองหาดูที่ใหม่นะครับ

ที่ที่มัน "ศีลเสมอ"

หรือถ้าใครอยากจะอยู่ต่อ จะด้วยเหตุผลส่วนตัวอะไรก็ตามแต่

เราก็ไม่ว่ากัน เราไม่ judge ใครทั้งสิ้น

เพราะนั่นมันคือเงินของเธอ ไม่ใช่เงินของฉัน

เหรียญมี 3 ด้าน เลือกมองในมุมที่เราอยากจะมองก็แล้วกัน

ก็แค่ my worth 2 cents ก็แค่นั้นเอง

เหนื่อยได้

ท้อได้

พักได้

แต่อย่าหยุด

...รัก...

Bridging Visa A & B

Bridging Visa A holder ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น 

ไม่ว่าจะมีเรื่อง emergency ที่เราจะต้องเดินทางออกนอกประเทศยังไง  หรือบางคนอาจจะแค่บินออกไปเที่ยว ไป holiday

เราจะต้องทำเรื่องขอ Bridging Visa B ก่อนเสมอ 

เพราะทันทีที่เรา scan passport ผ่าน gate ที่สนามบิน นั่นหมายความวา่ Bridging Visa A ของเราได้ถูก cancel ไปแล้ว

การที่เราจะกลับเข้ามาในประเทศออสเตรเลียได้ เราต้องขอ Bridging Visa B; $157

Bridging Visa B สามารถทำ online ได้ ถ้าเรามียัง case ที่กำลัง active อยู่กับอิมมิเกรชั่น เราก็ทำผ่าน ImmiAccount ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน

แต่ถ้าเรื่องเราอยู่ที่ AAT, เราก็ต้องยื่นเป็น paper-based application form อาจจะจต้องใช้เวลา 1-2 weeks ดังนั้นเราก็ต้องเผื่อเวลาเอาไว้ด้วย

แต่ถ้าหากมี family emergency รอไม่ได้ เราต้องเดินทางเลยทันที

อันนี้ก็ no choice แหละจ๊ะ

เราก็คงไม่มีวีซ่ากลับเข้ามาในประเทศออสเตรเลีย

ถ้าจะกลับเข้ามาอีก ก็คงต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวเข้ามา แต่สำหรับคนที่ยื่นเรื่องอยู่ที่ศาลอุทธรณ์ AAT โอกาสที่จะขอวีซ่าท่องเที่ยวกลับเข้ามานั้น แทบจะไม่มีเลยจ๊ะ ก็ลองขอดูได้ เพราะค่าสมัครมันก็แค่ $145 เอง ไม่ได้แพงมาก แต่เราก็ต้องคิดด้วยว่าการที่เรามี case อยู่ที่ AAT นั่นคือวีซ่าเราถูกปฏิเสธมา ถ้าเราจะขอวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อบอกว่าจะกลับมารอเรื่อง AAT อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย มันก็คงไม่ได้แหละจ๊ะ เพราะวีซ่าท่องเที่ยว ชื่อมันก็บอก มันเอาไว้สำหรับ "ท่องเที่ยว" ไม่ใช่มารอเรื่องที่ AAT 

แต่บางทีเรื่องของ family เรื่องของครอบครัว มันก็เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อน เราไม่ว่ากัน

ครอบครัวมาก่อนเสมอ

ถ้าหากมันเกิดอะไรขึ้นแล้ว 

เราได้เดินทางออกไปแล้ว โดยที่ไม่มี Bridging Visa B

ก็ไม่เป็นไรนะ เราก็ค่อย ๆ แก้ปัญหากันไปทีละเปราะ

ปัญหามีเอาไว้แก้จ๊ะ

ค่อย ๆ แก้กันไป

เราจัดให้ได้

No panic.

We are here to help....

Partner Visa วีซ่าคู่รัก; ประวัติอาชญากรรมของคนสปอนเซอร์

คำถามแรกที่หลาย ๆ คนเข้ามา 99.99% ของคำถามจะถามว่า "ค่าบริการเท่าไหร่" เราตอบให้ยังไม่ได้ เพราะมันมีหลายปัจจัยมากในการทำเรื่องของ Partner Visa

1. คนสปอนเซอร์เป็น PR หรือ citizen หรือเปล่า ถ้าเป็น citizen คนสปอนเซอร์เกิดที่นี่มั้ย หรือได้ citizen มาด้วย PR subclass อะไร

2. คนสปอนเซอร์เคยสปอนเซอร์ใครมาก่อนหรือเปล่า (คนสปอนเซอร์สามารถสปอนเซอร์คนที่ 3-4-5-6 ได้ ทุกอย่างมีข้อยกเว้นเสมอ อย่าอ่านพวก guru ตาม webboard หรือป้า ๆ หมอผีตาม facebook group ให้มาก)

3. คนสมัครกับคนสปอนเซอร์เคยมีประวัติอาชญกรรมอะไรหรือเปล่า นี่แหละสำคัญ ตัวแปรของราคาและค่าบริการ มีหลายครั้งมากที่เราสอบถามไปว่าคนสปอนเซอร์มีประวัติอาชญกรรมหรือเปล่า คำตอบที่ได้คือ "ไม่มี" แต่พอทำ Australian police check ออกมา ประวัติอะไรต่าง ๆ มันออกมาหมดเลย 2 หน้ากระดาษ A4, case แบบนี้ไม่ง่าย ประวัติอาชญกรรมเกี่ยวกับการอนาจารเด็ก, domestic violence ความรุนแรงภายในครอบครัว, ประวัติเกี่ยวกับสิ่งเสพติด...etc...etc... และอื่น ๆ อีกเยอะแยะมากมาย

4. คนสมัครมีโรคประจำตัวหรือโรคติดต่อหรือเปล่า; HIV, โรคปอด หรือโรคเลือด

5. ขอดู Australian police check ของคนสปอนเซอร์ด้วย สามารถขอได้ที่ 

https://afpnationalpolicechecks.converga.com.au/

6. ขอดู Visa grant ของคนสมัครด้วย ว่าติด condition อะไรหรือเปล่า; 8503, 8534 เป็นต้น

ดังนั้นแต่ละ case เราไม่สามารถ quote ราคาได้เลยทันที มันมีปัจจัยเยอะแยะมากมายจ๊ะ

มี Australian police check ของคนสปอนเซอร์เมื่อไหร่ แล้วค่อยคุยกัน

Visa subclass 482; วีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์

สอบถามกันเข้ามาเยอะ ในเรื่องของวีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็นนายจ้างที่ประเทศออสเตรเลีย ที่ต้องการจะจ้างหรือช่วยเหลือใครบางคน

หรือหลาย ๆ คนจากเมืองไทยที่คิดจะมาทำงานที่นี่อย่างถูกต้อง (ไม่ต้องมาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่ต้องไปหลบหนีทำงานตามฟาร์ม)

นี่คือสาขาอาชีพที่สามารถขอวีซ่าทำงานได้ subclass 482

https://www.legislation.gov.au/Details/F2019C00265

คนสมัครจะต้องมีประสบการณ์ในการทำงาน 2 ปี; part-time ก็ได้ full-time ก็ได้ แต่จะต้องมี payslip มีการเสียภาษีถูกต้อง

ประสบการณ์สามารถเป็นประสบการณ์ก่อนเรียน ในระหว่างเรียน หรือหลังเรียนจบก็ได้

ถ้าเป็นสาขาที่อยู่ใน long-term list คนสมัครก็ต้องมี IELTS (general) 5 each band

ถ้าเป็นสาขาที่อยูใน short-term list คนสมัครก็ต้องมี IELTS (general) 5, each band 4.5

ถ้าไม่อยากสอบ IELTS ก็สามารถสอบ PTE Academic หรืออื่น ๆ ได้ (ลองไล่อ่าน blog เก่า ๆ ของเราดู)

Note: visa subclass 482 สามารถใช้ผลการเรียน 5 ปีแทนผลสอบภาษาอังกฤษได้