Thursday, September 8, 2022

มีทุกวันนี้ได้เพราะอยู่ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่เอื้ออำนวย


“มีทุกวันนี้ได้เพราะอยู่ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่เอื้ออำนวย”

เอ่อ… ประโยคด้านบน ไม่จริงเสมอไป

มันเป็นแค่ 1 factor เท่านั้นครับ

คนมีความสามารถ อยู่ที่ไหนก็ประสบความสำเร็จได้ครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นประเทศออสเตรเลีย

ก็เรียนในสาขาที่มันที่เป็นต้องการของโลกใบนี้สิ ไม่ใช่ไปเรียนอะไรสะเปะสะปะ

 

แล้วทำไมเรียนสะเปะสะปะ

อ๋อ คะแนน ATAR ไม่ถึง เข้าเรียนในคณะนั้น ๆ ไม่ได้

 

แล้วทำไมคะแนน ATAR ไม่ถึง

อ๋อ ตอนเรียน high school ไม่ได้ตั้งใจเรียน... และอื่น ๆ อีกมากมาย ต่าง ๆ นานา ข้ออ้างสารพัด

.

.

ก่อนที่จะไปโทษสิ่งแวดล้อมหรือปัจจัยภายนอกที่เรา control ไม่ได้

จริง ๆ แล้ว ปัญหาทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเราหรือเปล่า

 

ถ้าตั้งใจเรียนตอนอยู่ high school

ได้คะแนน ATAR ดี

ได้เข้าเรียนในคณะที่เราชอบ และเป็นที่ต้องการของโลกใบนี้

เราจะไม่ได้เป็นแค่ที่ต้องการของออสเตรเลียครับ เราเป็นที่ต้องการของโลกใบนี้ จะไปทำงานที่ไหนก็ได้

ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่อสสเตรเลียเท่านั้น 


คนไทยจบวิศวะ ทำงานที่ NASA ก็มี

คนไทยเป็นอาจารย์สอนที่มหาลัยในต่างประเทศมีเยอะแยะ

คนไทยเป็นอาจารย์สอน high school สอนเด็กฝรั่งก็มี

 

เมื่อเราเป็นฝ่าย “เลือก” ไม่ใช่ “ถูกเลือก”

ทุกอย่างก็สบาย

 

เพื่อนเราที่เรียน Computer Science จาก UOW ตอนนี้ก็ทำงานกระจายอยู่ทั่วโลก บางคนรับราชการ บางคนเป็นอาจารย์สอนมหาลัย (ตอนนั่งเรียนด้วยกัน เค๊าก็ไม่ได้เก่งอะไรมาก oops!!!)

 

อันนี้แหละ Global Citizen อย่างแท้ทรู

มีความลื่นไหลทางสัญชาติ

จะอยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นออสเตรเลีย

ทำงานที่ไหนก็ได้ที่เงินดี แค่นี้เลยจริง ๆ 

เราไม่ยึดติดครับว่าต้องทำงานที่ประเทศไหน ขอแค่เงินดีเป็นพอ

 

ก่อนที่จะโทษระบบโครงสร้าง ซึ่งเรา control ไม่ได้

อย่าลืมหลับตาลง แล้วมองย้อนไปสมัยที่เราเป็นเด็ก high school ว่าตัวเองตั้งใจเรียนหรือเปล่า 

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ผลของการกระทำของตัวเราเองในวันนั้น มันส่งผลมาถึงการเป็นตัวตนของเราในวันนี้หรือเปล่า

 

ก่อนที่จะโทษระบบโครงสร้าง

ตัวเองพยายามมากพอหรือยัง

 

P’ J เรียน ป.1  เข้าเรียนก่อนอายุ

ตอนนั้นอ่านหนังสือเรียนภาษาไทย “มานี มานะ” ที่บ้านบอกว่าต้องอ่านออกเสียง

เราอ่านออกเสียง เสียงดังไปถึงบ้านข้าง ๆ

ที่บ้านไม่มีไฟฟ้า เราใช้ตะเกียงน้ำมันในการอ่าน!!!


สมัยนั้นยังไม่มีพิมรี่พายคอยติด solar cells


นี่ไงหละ ความพยายาม

 

ก่อนที่จะโทษระบบโครงสร้าง

อย่าลืมโทษตัวเราเอง

เมื่อเราเลิกโกหกตัวเราเอง

เมื่อนั้นเราก็พบความสุขในชีวิต

 

P’ J จบ high school (year 10-11-12) ภายใน 1 ปี 

ก็อ่านหนังสือ 7 วัน 7 คืนหนะจ๊ะ อยู่ year 10, ก็อ่านคณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ของ year 12 จบหมดแล้ว (เกลียดชีวะที่สุด เกือบตก)


หากเรามีความตั้งใจจริง มีความมุ่งมั่น

ทุกอย่างเราสร้างเองได้ จากสมองและสองมือที่มี


ใช้ความสามารถของตัวเองล้วน ๆ


เมื่อเราไม่ได้เกิดมาบนเงินกองทอง ปากก็ต้องกัด ตีนก็ถีบ


จากเด็กที่อ่านออกเสียง หนังสือ “มานี มานะ” ภายใต้ตะเกียงน้ำมัน ตอน ป.1

ถ้า P’ J ทำได้

คนอื่นก็ทำได้


เหนื่อยได้

ท้อได้

พักได้

แต่อย่าหยุด


และก็เลิกโทษสิ่งแวดล้อมรอบข้าง

หัดโทษตัวเองบ้างก็ดี!!! 


โทษทุกสิ่งอย่างรอบข้าง

ยกเว้นโทษตัวเอง

=


Note: เราเขียนในพื้นที่ของเรา ไม่ชอบให้เลื่อนผ่าน 


Copyright: แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น ไม่อนุญาตให้ copy & paste, ไม่อนุญาตให้ screen capture


No comments:

Post a Comment