Saturday, July 20, 2019

Partner Visa เลิกกันหลังได้ PR


สุดท้าย… เรื่องเราจบลงทุกอย่าง
ไม่ขัดไม่ขวาง ในเมื่อเธอจะไป
มีแค่เพียงสิ่งเดียว ยังติดค้างในใจ
อยากรู้ เรื่องใครอีกคน

เขาห่วงใย ใส่ใจ เธอรึเปล่า

เมื่อยามเธอทุกข์ทน
อยากรู้เขาทำอย่างไร

ทำให้เธออุ่นใจ ได้รึเปล่า
เมื่อยามเธอหนาวสั่น บอกฉันสักคำก่อนไป

เมื่อเธอล้ม ไม่มีเรี่ยวแรงและกำลังใจ
คนนั้น อยู่เคียงข้างเธอรึเปล่า

ยามที่เธอเจ็บช้ำ เมื่อเธอเงียบเหงาซึมเซา
เขาอยู่ไหน

หากว่าใคร คนนั้น เป็นคนดีและรักเธอ
อยู่กับเธอ ทำเพื่อเธอ ได้ทุกอย่าง

และถ้าใคร คนนั้น ทำได้อย่างที่ฉันทำ
ฉันก็คงอุ่นใจ ไม่ห่วงอีกแล้ว

และพร้อมจะลาไปอย่างเต็มใจ


P’ J คะ, P’ J ครับ

ผม/หนู เลิกกับแฟน อย่างนี้จะมีผลกับ PR (Partner Visa) ของหนู/ผม หรือเปล่าครับ

P’ J: “ไม่มีผลครับ เพราะเราได้ PR แล้ว จบก็คือจบ ก็คิดว่าศีลเขากับเราคงไม่เสมอกัน”

ก็คิดว่าซะว่าหนู 2 คนทำบุญร่วมกันมาแค่นี้
P’ J ก็เป็นกำลังใจให้ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายเขาและฝ่ายเรา
แก้วที่มันร้าว ไม่นานก็คงจะแตก
ใจที่มันร้าว ไม่นานก็คงจะแหลก

ก็ให้ทั้ง 2 ฝ่ายคิดซะว่า “You need me more than I need you” ก็แล้วกัน

ก็คิดซะว่าทั้ง 2 ฝ่ายก็อาจจะเจอใครที่ดีกว่า ที่เหมาะสมกันกว่านี้ก็ได้
หรือชีวิตมันอาจจะมีลมพัดหวนก็ได้

ทุกสิ่งอย่างในชีวิต “ดี” เสมอ “ได้” เสมอ
ไม่ได้ดังสมหวัง ก็ “ได้” เรียนรู้
"ได้" ประสบการณ์
"ได้" ความเข้มแข็งในชีวิต


ตายละ P’ J กลายเป็น “ศิราณี” ไปแล้วใช่มั้ย

ได้หมดถ้าสดชื่น 
ขอแค่เวลาทะเลากัน ไม่ต้องโทรมาตอนตี 5, 5am แล้ว 7am บอกว่าดีกันแล้ว จุ จุ๊บปากกันเหมือนเดิมแล้ว นะหนู


P’ J ไม่ใช่ 7-Eleven จ๊ะ

แต่ถึงยังไง P’ J ก็ยังรักและห่วงใยทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเราอยู่ดูแลกันมานาน จนจบ case

หลาย ๆ คนก็เหมือนกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครับ “ครอบครับ J Migration” ไปแล้ว

เราเอาใจช่วยทุกฝ่าย ทุกคู่เสมอ

ชีวิตฉัน เป็นเช่นดั่งละคร… ของจริง

No comments:

Post a Comment