"น้องชฎา" กับ "น้องยืนกิน" เป็นคู่รักกัน จด register of relationship
ทั้งคู่ถือวีซ่านักเรียน subclass 500 โดยที่น้องชฎาเป็นตัว main applicant
และน้องยืนกินเป็นคนติดตาม
น้องชฎาเรียน Cert IV Commercial Cookery + Diploma of Hospitality Management และจะทำวีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ Subclass 482 TSS; Temporary Skill Shortage Visa
Note: ไม่ต้องลงเรียน Advanced Diploma ให้เสียตังค์
ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะง่าย
แต่น้องยืนกินเจ้ากรรมก็ดันมีหุ้นส่วนอยู่ในร้านอาหารนั้น
รายชื่อก็อยู่ใน ASIC record ซึ่งเราจะต้อง submit ด้วยหนะสิ
น้องยืนกินเป็น share holder ไม่ได้เป็น 1 ใน directors แต่เวลา submit ASIC record, มันก็มีชื่อน้องยืนกินอยู่ดี ซึ่งมันก็จะมีปัญหาตอนยื่น stage 2 Nomination ของ subclass 482 ได้
สมาชิกในครอบครัวของคนสมัครสามารถเป็น director หรือ shareholder ได้ แต่มันก็ต้องมานั่งอธิบายเหตุและผลอีกต่าง ๆ นานา ซึ่งก็มีความเสี่ยง
ทำไมเราจะต้องเสี่ยงด้วยหละ ถ้าเราสามารถหลีกเลี่ยงหรือลดความเสี่ยงได้ เราก็ควรจะทำ
เนื่องด้วยร้านอาหารก็อยู่ใน critical sector ที่เราสามารถยื่น Subclass 408; COVID Stream ได้ อย่างน้อยก็ได้มา 1 ปี เพราะวีซ่า subclass 408 ของ COVID Stream, case officer ไม่ค่อยเช็คอะไรเยอะ ที่ผ่านมาเราก็ยื่นผ่านหมดทุก case
เราก็เลยต้องจับน้อง 2 คนให้ยื่นวีซ่าคนละ subclass กัน
1. น้องชฎา ยื่นวีซ่า subclass 482 แต่เพียงผู้เดียว ไม่ต้องมีผู้ติดตาม
2. น้องยืนกิน ยื่นวีซ่า subclass 408 แต่เพียงผู้เดียว แยกกันยื่น
วีซ่าของน้องทั้ง 2 คนผ่านครับ
น้องชฎาได้วีซ่า subclass 482 มา 4 ปี
น้องยืนกินได้วีซ่า subclass 408 มา 1 ปี
แล้วเราค่อยมาทำเรื่องให้น้องยืนกินมาทำเรื่องติดตามน้องชฎาทีหลัง
เป็นไง เก๋มั้ย
ต๊าชชชชชชชมั๊ย
สูตรไขว้ยิ่งกว่าการฉีดวัคซีนอีก
ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้
ปัญหามีเอาไว้แก้
แก้กันไปทีละเปราะ
ศึกษารู้เท่าทัน
ทุกอย่างมีทางออก
ต้องคิดต่าง
คิดจะทำเรื่องวีซ่าออสเตรเลีย โปรดใช้ทนายความ Legal Practitioner หรืออิมมิเกรชั่นเอเจนท์ที่มี MARN เท่านั้น
ขอบคุณที่เลือกใช้บริการของเรา
สินค้าดีใช้แล้วช่วยบอกต่อ
No comments:
Post a Comment