ให้คำปรึกษาและบริการทางด้านกฎหมายอิมมิเกรชั่น และวีซ่าออสเตรเลีย
Facebook page: J Migration Team วีซ่าออสเตรเลีย
John Paopeng จอห์น เผ่าเพ็ง
Registered Migration Agent (MARN: 0851174)
Wollongong, Sydney, Melbourne, Brisbane, Gold Coast, Adelaide, Canberra.
email: jpp168.immi@outlook.com
PO Box 5399, Wollongong, NSW 2520
Tuesday, January 31, 2023
Bridging Visa E
Monday, January 30, 2023
วีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์
วีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์แบบถูกกฎหมายมีแค่ 3 ประเภท หรือ 3 subclasses นะครับ นั่นคือ:
- subclass 482; TSS (Temporary Skill Shortage Visa)- subclass 494; Skilled Employer Sponsored Regional
- subclass 186; ENS (Employer Nomination Scheme)
วีซ่าท่องเที่ยว; subclass 600 ทำงานไม่ได้
วีซ่านักเรียน; subcass 500 คือมาเรียนครับ ตามชื่อที่บอก และทำงานได้ตาม condition
วีซ่า Work and Holiday (WAH); ไม่ใช่วีซ่าทำงานครับ มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นวีซ่าทำงานโดยตรง จุดประสงค์จริง ๆ ของรัฐบาลคือให้คนหนุ่มสาวมาเที่ยว มันถึงมีคำว่า "Holiday" อยู่ด้วยไง มาเที่ยวเพื่อ boost economy แต่เนื่องด้วยคนหนุ่มสาวอาจจะมี budget ไม่เยอะ ทางรัฐบาลก็เลยอนุญาตให้ทำงานได้ มันถึงมีคำว่า "Work" อยู่ด้วยไง
ทุก subclass มันมีที่มาและที่ไป
มันมีเหตุและผลของมัน
แต่วีซ่าทำงานที่ถูกกฎหมายจริง ๆ มีแค่ 3 subclasses ครับคือ;
- subclass 482
- subclass 494 และ
- subclass 186
และทั้ง 3 subclassess นี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับกรมแรงงานที่เมืองไทยทั้งนั้น
ขอย้ำ และย้ำแล้วย้ำอีกว่า "ไม่ส่วนเกี่ยวข้องกับกรมแรงงานที่เมืองไทย" ดังนั้นใครที่โดนหลอกมา หรือกำลังจะโดนหลอก ทำการบ้านกันนิสต์นึงนะครับ
อยากมาทำงานที่ประเทศออสเตรเลียอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
สิ่งที่ต้องรู้หรือต้องศึกษาคือ;
1. สาขาอาชีพที่น้องจะมาทำงานนั้น อยู่ในสาขาอาชีพ long-term list, short-term list หรือ ROL (Regional Occupation List) หรือเปล่า
มันจะมีแค่ 3 lists นี้เท่านั้นครับ
2. ตัวเราเองมีวุฒิการศึกษาที่ตรงกับสาขาอาชีพนั้นหรือเปล่า ถ้ามีวุฒิการศึกษาไม่ตรง เราสามารถทำ RPL ได้มั้ย (RPL คืออะไร เคย post ไปแล้ว)
3. เรามีประสบการณ์ในตำแหน่งนั้น ๆ 2 ปีหรือเปล่า (subclass 482) ประสบการณ์เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นประสบการณ์หลังเรียนจบ หรือ 3 ปี full-time ถ้าเป็น subclass 494 หรือ subclass 186; Direct Entry
4. เรามีผลสอบภาษาอังกฤษหรือเปล่า
Subclass 482:
- short-term list: IELTS (general) overall 5, each band 4.5; พูด อ่าน เขียน ฟัง
- long-term list: IELTS (general) 5 each band; พูด อ่าน เขียน ฟัง
Subclass 494:
- IELTS geneal 6 each band; พูด อ่าน เขียน ฟัง
Subclass 186:
- IELTS geneal 6 each band; พูด อ่าน เขียน ฟัง
5. เราต้องมีนายจ้างสปอนเซอร์
นี่คือคุณสมบัติคร่าว ๆ ครับ
หากเรามีไม่ครบ ก็เก็บซุ่มตัวหาข้อมูลและทำ profile ตัวเองให้ดี ๆ ให้คุณสมบัติครบนะครับ
"ความอยาก" อย่างเดียวไม่พอ
เราต้องศึกษาข้อมูลด้วย
Sunday, January 29, 2023
Partner Visa ยังไม่หย่ากับแฟนเก่า; เหมยหลิง หยางปิงปิง กับอุ้ยเสี่ยวป้อ รักเราไม่เก่าเลย
อุ้ยเสี่ยวป้อ หนุ่มหล่อเฟี้ยว เป็น PR/Citizen แต่งงานกับเหมยหลิง แต่รักไม่ลงรอย ทั้งสองแยกกันอยู่ ต่างฝ่ายต่างไปมีชีวิตใหม่ แยกย้ายกันไป แต่ยังไม่ได้หย่ากัน
อาจจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่
อาจจะด้วยยังไม่มีเวลาทำเรื่องหย่า
อาจจะด้วยแบ่งทรัพย์สินกันยังไม่ลงตัว
หรืออะไร เรามิอาจทราบได้
แต่ทั้งสองก็แยกย้ายกันไปมีชีวิตใหม่
ต่างคนต่างอยู่ต่างรัฐ ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว
อุ้ยเสี่ยวป้อเองก็เจอรักใหม่ สาวน้อยจิ้มลิ้มคู่ใจ น้องหยางปิงปิง
เนื่องด้วยตัวอุ้ยเสี่ยวป้อเองยังไม่ได้หย่าอย่างเป็นทางการกับเหมยหลิง สถานะสมรสเป็น "Separated" ไม่ใช่ "Divorced" ดังนั้น:
- อุ้ยเสี่ยวป้อไม่สามารถแต่งงานกับน้องหยางปิงปิงได้
- อุ้ยเสี่ยวป้อไม่สามารถจด register of relationship (จด de facto) กับหยางปิงปิงได้... เฮ้อ... ชีวิตเศร้า
แต่เนื่องด้วยอุ้ยเสี่ยวป้อก็เริ่มอยู่กินกับน้องหยางปิงปิงมาแล้ว 12 เดือน
เปิดบัญชีร่วมกันแล้ว 12 เดือน
มีบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ชื่อร่วมกันแล้ว 12 เดือน
ดังนั้นอุ้ยเสี่ยวป้อสามารถทำเรื่อง Partner Visa (onshore); subclass 820 & subclass 801 ให้กับน้องหยางปิงปิงสุดที่ love ได้
ทุกอย่างก็น่าจะราบรื่นไม่มีอะไร
แต่สิ่งที่ keep น้องหยางปิงปิง awake at night ก็คือ น้องหยางปิงปิงเกรงว่าเหมยหลิงจะสามารถมายกเลิกหรือสร้างความวุ่นวายในการยื่นวีซ่าของเธอหรือเปล่า
คำตอบง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ "เหมยหลิงไม่สามารถมาทำอะไรเรื่องวีซ่าของน้องหยางปิงปิงกับอุ้ยเสี่ยวป้อ" เพราะ:
- เหมยหลิงกับอุ้ยเสี่ยวป้อ โดยพฤตินัย ไม่ได้เป็นใช้ชีวิตเยี่ยงคู่สามีภรรยากันแล้ว ถึงแม้จะยังไม่ได้หย่าก็เถอะ แต่ทั้ง 2 ก็แยกกันอยู่แล้ว ต่างฝ่ายต่างไปมีชีวิตใหม่
- อุ้ยเสี่ยวป้อกับน้องหยางปิงปิง โดยพฤตินัยแล้วก็ใช้ชีวิตคู่เยี่ยงสู่สามีภรรยาทั่ว ๆ ไป มีเอกสารร่วมกัน 12 เดือนขึ้นไป ถึงแม้จะแต่งงานกันไม่ได้ก็ตาม เพราะอุ้ยเสี่ยวป้อยังไม่ได้หย่าอย่างเป็นทางการ
- หยางปิงปิงไม่ใช่บ้านที่ 2-3-4-5 ของอุ้ยเสี่ยวป้อ ทุกคนโปรดทำความเข้าใจใหม่ เพราะโดยพฤตินัยแล้ว เหมยหลิงกับอุ้ยเสี่ยวป้อไม่ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันนานแล้ว หมดแซ่บกันไปนานแล้ว ต่างฝ่ายต่างไปหาที่แซ่บกันที่อื่น
ดังนั้นน้องหยางปิงปิง can sleep well at night นะครับ เรื่อง Partner Visa ไม่มีปัญหาแน่นอน
เรื่องราวซับซ้อน ถ้าทำกันแบบ DIY ก็อาจโดนปฏิเสธได้ ปรึกษาคนที่ทำงานด้านนี้โดยตรงนะครับ คนที่มี MARN เท่านั้น
ระวังจะกลายเป็น "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย" นะครับ
Copyright: แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น, ไม่อนุญาตให้ copy & paste, ไม่อนุญาตให้ screen capure
เขียนเองทุกตัวอักษร
Friday, January 27, 2023
ก้าวที่กล้า
8503
Wednesday, January 18, 2023
PR: 15 ปี 5 เดือน 23 วัน
FIFO (Fly-In Fly-Out)
เก็บเอาไว้ในความทรงจำ
Video call ไม่ต้องพูดถึง ทำงานมา 14 ปี ทำ case มาไม่รู้กี่พัน ๆ case เราน่าจะเคย video call ไปแจ้งข่าวลูกค้าไม่ถึง 5 cases เผอิญว่าเป็นคนเย็นชาและไร้หัวใจหนะจ๊ะ ทำไงได้
แต่กับใครบางคน เขามีบุญคุญกับเรามาก
เขาแนะนำลูกค้ามาให้เราเยอะมาก หากไม่มีเขา ก็อาจจะไม่มีเราในวันนี้ก็ได้
องค์กรของเขาแต่ก่อนมีทนายฝรั่งดูแลเรื่องงานเอกสารของวีซ่าทั้งหมดอยู่แล้ว น้อยองค์กรมากที่อยากจะเปลี่ยนคนดูแล เพราะเขาทำงานด้วยกันมา 10-20 ปีแล้ว ทนายฝรั่งมีเอกสารของทางองค์กรทุกสิ่งอย่าง
การที่องค์กร ๆ หนึ่ง หรือใครคนใดคนหนึ่งจะเปลี่ยนคนดูแลมาเป็นใครก็ไม่รู้ คนไทย หัวดำ no name บริษัทเล็ก ๆ ที่ Wollongong มันยากนะ
จากวันที่เรานั่งคุยกันวันนั้น face-to-face consultation ที่ office แห่งนั้น เรายังจำได้ดี ถึงแม้จะนานหลายปีแล้ว ภาพยังคงตราตึงอยู่ในความทรงจำไม่เคยลืม
เราได้มีโอกาสเข้ามาดูแล case ในองค์กรนั้น งานเราไม่เคยขาดมือ พนักงานในองค์กรน่ารักทุกคน บางคนต้องเดินทาง นั่งรถไฟเข้ามาในเมืองเวลาเราไปทำ face-to-face consultation ที่รัฐนั้น เขาก็เดินทางกันมา น่ารักมาก
เอาจริง ๆ นะครับ แค่เราดูแลองค์กรใหญ่ ๆ ซักแค่ 3-4 องค์กรเท่านั้น บริษัทเราก็อยู่ได้ครับ เพราะเราจะมี case มาจากองค์กรเหล่านั้นไม่ขาดสาย
กับ case บาง case มันท้าทายมาก
คนรอบข้างจะบอกว่า "แน่ใจแล้วเหรอที่จะย้ายมาทำกับ J Migration Team"
"case นี้ยากนะ ทำไม่ได้หรอก" "ความหวังริบหรี่"
case ทุก casee สำคัญหมดแหละ แต่บาง case เดิมพันมันสูงมาก
โอกาสดี ๆ ไม่ได้มีอยู่เสมอไป กฎมันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
บางคนเมื่อเขาทำงานในตำแหน่งสูง เขาก็ต้องดูแลคนในองค์กร ปล่อยให้น้อง ๆ ให้คนนั้น คนนี้ทำเรื่องก่อน บางทีก็ลืมดูแลตัวเอง จนกฎเปลี่ยนนั่น นี่ โน่น
บางทีที่กฎหมายมันเปลี่ยน มันเปลี่ยนแบบสายฟ้าแลบเลยนะ หลายคนก็เก็บเสื้อผ้ากลับบ้านก็เพราะแบบนี้ก็มี
เราได้ case นี้มา เป็น case ที่ท้าทายที่สุด มีปัจจัยหลายอย่าง
เราลุ้นมาก เราเดิมพันกับ case นี้มาก เพราะเขามีบุญคุญกับเรามาก ตัวเขาเองวีซ่ายังไม่ผ่านเลย แต่ทุกครั้งที่คนมองหาคนทำเรื่องวีซ่าให้ 110% เขาจะแนะนำเราตลอด เราคุยกันหลังไมค์กันบ่อยมาก และทุกสิ่งอย่างที่เรา ไม่ว่าจะเป็นสินค้า "เจย์ ดอกจิก" หรืออะไร เขาจะคอยอุดหนุนและ support เราตลอด
คำว่า "ครอบครัว J" กับใครบางคน มันก็เหมือนครอบครัวจริง ๆ นะ
กับใครบางคน
กับคนพิเศษ มันก็ต้อง video call แจ้งข่าวดีเลยครับ
ขับรถอยู่ก็ต้องจดรถตั้งสติ รับฟังข่าวดี
บันทึกเอาไว้ในความทรงจำ เหตุการณ์เมื่อวาน 17 Jan 2023
รักที่สุด สุดที่รัก
Monday, January 16, 2023
Bridging Visa E อยากจะเรียนหนังสือ
Bridging Visa E อยากจะเรียนหนังสือก็สามารถลงเรียนได้เลยครับ
แต่ไม่สามารถขอวีซ่านักเรียนได้ เพราะคนที่จะขอวีซ่านักเรียนได้จะต้องเป็นคนที่มี substantive visa เท่านั้น (วีซ่าทุกอย่างที่ไม่ใช่ Bridging Visa) หรือ 28 วันหลังจากวีซ่า substantive visa เก่าหมดอายุ
คนที่ถือ Bridging Visa E "ส่วนมาก" แล้วจะ:
- ติด section 48 bar เพราะโดนวีซ่าปฏิเสธหรือโดนยกเลิกวีซ่า
- วีซ่าขาดมาก่อน
อันนี้คือ "ส่วนมาก" นะครับ ไม่ใช่ทุกคน
ดังนั้นคนที่ถือ Bridging Visa E ถ้าอยากจะเรียนก็สามารถทำได้ครับ เผื่อใครอยากจะต่อยอดชีวิต รักดีหามจั่ว
ถ้าอยากจะเรียนก็สามารถติดต่อ college หรือโรงเรียนได้เลย
ลงทะเบียน จ่ายเงิน แล้วเข้าเรียนได้เลย
ไม่ต้องขอ CoE (Certificate of Enrolment) เพราะเราไม่ได้จะขอวีซ่านักเรียน
วีซ่าออสเตรเลีย ปรีกษาจากคนที่มี MARN นะครับ
ไม่ใช่ปรีกษา Tutor สอนภาษาอังกฤษหรือ YouTuber ทั้งหลาย (ไม่หมดทุกคน บางคนที่น่ารักก็มี แต่มีน้อย!!!)
วีซ่านักเรียนกับการเป็นเจ้าของธุรกิจ
แต่จะสามารถเอาธุรกิจนั้นมาทำเรื่องขอวีซ่าหรือขอ PR ได้หรือเปล่านั้นหนะอีกเรื่องหนึ่ง
ระวังโดนหลอกขายร้าน
ศึกษาหาข้อมูลให้ดี ๆ
กฎหมายอิมมิเกรชั่นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ
ที่เอาร้านตัวเองสปอนเซอร์ตัวเองเหมือนสมัยก่อนหนะ ทำไม่ได้แล้วนะครับ
เข้าใจว่าบางคนต้นทุนหนา แต่ก็ไม่อยากให้ตำพริกละลายแม่น้ำกัน
บางคนก็ตาลุกวาว แต่กฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ นะครับ
ถ้าคิดจะใช้ธุรกิจในการทำเรื่องหรือขอ PR ให้กับตัวเองให้ดู Business Visa; subclass 188 และ subclass 888 ซึ่ง detail ค่อนข้างแตกต่างจากซื้อร้านแล้วสปอนเซอร์ตัวเองเหมือนสมัยก่อน
เงินอยู่ในกระเป๋าเรา กอดไว้ให้แน่น ๆ ครับ
จิ้งจอกเยอะ สมัยนี้ มีมาในทุกรูปแบบ
ยิ่งเขาเห็นเรา desperate เล่ห์กลเขายิ่งเยอะ
ผียังไม่น่ากลัวเท่ากับคนหลอกคนนะครับ
Friday, January 13, 2023
5-year study English language exemption
หลาย ๆ คนที่ต้องการขอวีซ่า subclass 482 แล้ว email มาถามว่า "พี่ครับ/คะ หนู/ผม สามารถใช้ผลการเรียน 5 ปีแทนผลสอบภาษาอังกฤษได้มั้ย"
เอาจริง ๆ นะครับ
ทุกคนสามารถทำตารางแบบนี้แล้วก็นับเองได้เลย
คณิตคิดง่าย ๆ
1+ 1 = 2
2 + 2 = 4
ลองทำดูก่อนนะครับ มันไม่ได้นับยากอะไรเลย
Note: ตารางที่เราทำ เราทำใช้ในการนับของ subclass 482 นะครับ ถ้า subclass 187 เราจะไม่นับพวก general English ส่วนใครจะนับแบบไหนก็เรื่องของเขา ของเรา "สะดวกแบบนี้"
Family Lawyer
ผัวเลิกกับเมีย
เมียเลิกกับผัว
Thursday, January 12, 2023
หวังว่าซักวันเหงื่อคงหวาน
ช่วงนี้น้อง ๆ "ครอบครัว J" หลาย ๆ คนออกมาทำธุรกิจเองครับ
P' J ยินด้วยกับก้าวแรก ก้าวออกมาจาก comfort zone ของน้อง ๆ หลาย ๆ คน
ก้าวออกมาจากจุด ๆ เดิม เพื่อผลลัพธ์ที่แตกต่าง
คนเราถ้าทำอะไรเดิม ๆ ผลลัพธ์ก็จะออกมาเดิม ๆ นะครับ
อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม
จะล้ม จะลุก อย่างน้อยก็ได้ทำ
เด็ก ๆ สมัยนี้เก่งครับ คิดนอกกรอบกันเยอะ
แตกต่างจากสมัยที่ P' J เรียนอยู่ที่ UOW
สมัย P' J ยังละอ่อน เรียนอยู่ที่ UOW, เราไม่เคยมีความคิดในการออกมาทำธุรกิจอะไรของตัวเองเลย รู้แค่ว่าต้องเรียนให้จบ หางานทำ ไต่ corporate ladder มีเงินเยอะ ๆ มีบ้านหลังซักหลัง และรถซักคัน แล้วก็ retire
ตอนที่เรียนที่ UOW เราคิดแค่นี้จริง ๆ เหมือนเส้นชีวิตมันขีดเอาไว้แล้ว ว่าจบมหาลัย ก็ต้องหางานทำ เป็นลูกจ้างเขา ความคิดตอนเป็นเด็กหนะนะ ไม่ได้คิดอะไรไปไกล เอาแค่เรียนให้จบก่อนตอนนั้น
แต่สมัยนี้ โลกมันเปลี่ยนไปแล้วครับ
ข่าวสารข้อมูลอะไรต่าง ๆ อยู่แค่ปลายนิ้วมือ
เด็ก ๆ ออกมาทำธุรกิจกันเยอะ ซึ่งถือว่าดีมาก ๆ
ความคิดของ P' J เปลี่ยน เมื่อ P' J ได้มีโอากาสอ่านหนังสือของ Robert Koyosaki (Retire Young, Retire Rich) นั่นคือหนังสือเล่มที่จุดประกายทำให้ P' J ออกมาทำอะไรเอง จับผลัดจับผลูจนกลายมาเป็น "J Migration Team" ในทุกวันนี้
จาก "J Migration Team" วันนั้น 2008 มาถึงวันนี้ ชีวิตไม่ง่ายครับ
บริษัทเล็ก ๆ ที่เมืองเล็ก ๆ Wollongong
สมัยก่อน คนที่ Wollongong จะทำวีซ่าที ก็ต้องเดินทางเข้า Sydney ครับ ไอ้เราก็แค่มดตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง เพิ่งเริ่มเตาะแตะออกมาทำอะไรเองตอนนั้น; 2008
แต่ก่อน มี case ทำ 1 caseต่อ 1 เดือน ก็ดีใจตายห่าแล้วครับ แต่เราก็ทำธุรกิจอย่างอื่นด้วยครับ และปี 2010 P' J ก็รับราชการด้วย ควบคู่กับการเป็น "J Migration Team" ไปด้วย ก่อนที่จะเปลี่ยนงานจาก A ไป B เราต้องมีแผนสำรองก่อนเสมอนะครับ P' J ไม่ได้ jump ship จาก A ไป B เลย และงานหลาย ๆ งานเราก็ต้องไปเรียนเพิ่มเติม ค่า HECS นี่พุ่งกระฉุดมาก เพิ่งจ่าย HECS เสร็จเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้วเอง.... ขุ่นพระ!!! (HECS ก็คล้าย ๆ กยศ เมืองไทย)
ทำงาน 3 jobs เราก็ทำมาแล้วครับ
เรียน 2 มหาลัยควบ เราก็ทำมาแล้วครับ
ชีวิตต้องสู้
เงินทองไม่ได้หล่นลงมาจากฟากฟ้า เราไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง และจบ ป.ตรี แล้วก็ไม่มีสิทธิ์แบมือขอเงินจากทางบ้าน ทุกอย่างต้องทำเองจากสมองและสองมือที่มี เก็บเล็กผสมน้อย เก็บหอมรอมริบกันไป
ช่วงปี 2008-2010 ช่วงแรก ๆ ของการทำ "J Migration Team" ปีหนึ่งขอแค่มีเงินจ่ายค่า registration ของ MARN แค่นั้นพอ (บวกค่าประกันนั่น นี่ โน่น ก็ "ประมาณ" $4,500) เพราะเราก็มีงานอย่างอื่นทำด้วย ชีวิตก็พออยู่ได้ ไม่รวย แต่ไม่เป็นหนี้
หัวใจเราพองโตเสมอเมื่อน้อง ๆ หลาย ๆ คนบอกว่าเขาจะออกมาทำธุรกิจเอง บางคนที่เราสนิทหน่อย เราก็จะช่วยดันช่วย promote ใน facebook ส่วนตัวเราและใน page ส่วนตัวเรา แล้วคนก็ชอบมโนว่า P' J ต้องเป็นหุ้นส่วนแน่นอนเลย
P' J ไม่ต้องเป็นไปเป็นหุ้นส่วนอะไรกับใครครับ ชีวิตทุกวันนี้สบายดี ไม่ต้องหาเหาใส่หัว
ที่ promote อะไรต่าง ๆ นานาในสื่อส่วนตัวของ P' J ก็ทำไปเพราะ "รัก" แค่นั้นเอง
จงเป็นผู้ให้ ก่อนที่จะเป็นผู้รับ
ก็แค่นั้นเอง เราไม่ได้หวังผลอะไร เพราะชีวิตทุกวันนี้ "สบายดี"
การออกมาทำธุรกิจของเราเองเป็นการเริ่มต้นของการมี financial freedom, financial independent และต่าง ๆ นานา
ลองศึกษา cashflow quadrant ของ Robert Kiysaki ดูนะครับ แล้วจะรู้ว่าเราพูดถึงเรื่องอะไร
Cashflow quadrant:
- Employee คืออะไร
- Self-Employed คืออะไร
- Business Owner คืออะไร
- Investor คืออะไร
ESBI, เมื่อเราเดินทางมาถึง "I" Investor ชีวิตเราก็จะสบาย และตอนนี้ P' J ก็อยู่ที่ I นานแล้วครับ
เรื่องพวกนี้เราเขียนเอาไว้ที่ page ส่วนตัวค่อนข้างเยอะ ลองไปส่องกันดูได้; https://www.facebook.com/because.jpp
ล้ม ลุก เรียนรู้
หากเราตั้งใจจริง เราต้องทำได้แน่นอน P' J เอาใจช่วย และจะรอดูความสำเร็จของพี่ ๆ น้อง ๆ "ครอบครัว J" หลาย ๆ คน
การอออกมาทำธุรกิจอะไรของเราเอง แรก ๆ มันก็หนักหน่อยนะครับ แต่พี่รู้ว่าน้อง ๆ ทำได้
แรก ๆ มันก็ต้องทำอะไรเองหมดแหละ อันไหนซ่อมเองได้ก็ซ่อมเองก๊อก ๆ แก๊ก ๆ กันไป อันไหนต้องเรียกช่างก็ต้องเรียกช่าง
ทำความสะอาดร้านเอย เก็บกวาดร้านเอย ติดต่อ suppliers เอย อะไรต่าง ๆ นานา เตรียมตัวเปิดประตูต้อนรับลูกค้า
ร้านที่ต้อง set up ใหม่ "ส่วนมาก" landlord ก็จะให้ 1-month free rent เราก็ใช้เวลาที่เราได้ free rent มานี้จัดการอะไรทุกอย่างให้เสร็จสรรพ
ร้านที่ต้อง set up ใหม่
จะแตกต่างจากการซื้อธุรกิจแบบ walk-in walk-out นะครับ
ทุกคนที่จะทำธุรกิจ จะซื้อขายธุรกิจ จะเช่าร้านเพื่อทำธุรกิจ ทุกคนต้องมีทนายความส่วนตัวนะครับ Business Lawyer ต้องมี ลูกค้าของเรา เราก็แนะนำและส่งต่อ Andrew Lee แหละ (ทนายความส่วนตัวของ P' J ลองอ่านจากโพสต์ก่อนดู) ของดี ใช้แล้วเราก็บอกต่อจ๊ะ ไม่ได้ค่าโฆษณาหรือคอมมิชชิั่นอะไรใด ๆ (ไม่จำเป็น เพราะเราได้บริการที่ดีจาก Andrew Lee มากถึงมากที่สุดอยู่แล้ว)
Anyway... วกกลับมาที่เรื่องของการทำธุรกิจใหม่ ๆ ของน้อง ๆ "ครอบครัว J" ลูกค้าเราทั้งหลาย ถ้าใครคิดออกมาทำธุรกิจอะไรนะครับ ออกมาทำเลย ออกมาจาก comfort zone เราเชียร์เต็มที่ เพราะตัวเราเองก็เริ่มจากการทำงานเป็นลูกจ้างที่บริษัท แล้ววันหนึ่งออกมาทำธุรกิจเอง มันเป็นการตัวสินใจที่ถูกต้องที่สุด (สำหรับตัวเรานะ)
ล้ม เราอาจจะได้แผล
แต่ถ้าเรายอมแพ้ เราอาจจะไม่ได้อะไรเลย
สำหรับน้อง ๆ "ครอบครัว J" ที่ออกมาทำอะไรเองนะครับ
เราเป็นกำลังใจให้
สมัยนี้ข้อมูลอะไรต่าง ๆ นานามันก็เยอะ ไม่ต้องงมเข็มในมหาสมุทรเหมือนที่ P' J ออกมาทำธุรกิจใหม่ ๆ
แรก ๆ อาจจะหนักหน่อย ต้องทำอะไรหลาย ๆ อย่างเอง
แต่พอทุกอย่างเริ่มลงตัว เริ่มมีทีมงาน ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
ทำงานเป็นเจ้าของธุรกิจ อย่าลืมให้ค่าแรงตัวเองด้วยนะครับ ตอนที่ P' J ออกมาทำธุรกิจเองใหม่ๆ ไม่มีใครบอก ไม่มีใครแนะนำ ไม่ได้หักเงินค่าแรงตัวเอง บัญชีทุกอย่างมั่วมากตอนนั้น ตอนนั้นอ่อนต่อโลกจริง ๆ โลกของการทำธุรกิจ ทุกวันนี้ทุกอย่างเป็นระบบมาก มี bookkeeper มี accountant คอยดูแล และทำบัญชีกันรายเดือน ไม่ได้ทำแบบไตรมาส 3 เดือนครั้ง
P' J เองก็ค่อย ๆ ขยับตัวเองจาก E -> S -> B -> I
And never looked back
น้อง ๆ เด็กใหม่ไฟแรง มีแรงก็ทำไปเถอะ
อย่าคิดเยอะ
อย่าคิดนาน
คิดแล้ว ทำ
ทำทันที
ดูอย่าง P' J นึกอยากจะทำสินค้า "เจย์ ดอกจิก" P' J ก็ทำเลย ไม่คิดนาน คิดแล้วทำ ทำทันที เวลาและสายน้ำไม่เคยคอยใคร
อย่าให้ใครมาดับฝันเราได้
มีแค่เราเท่านั้นที่จะดับฝันเราได้
กุมบังเหียนชีวิตของเราให้ดี ๆ รู้ว่าจุดหมายปลายทางเราอยู่ที่ไหน
From Zero To Hero จากสมองและสองมือที่ดี น้อง ๆ ทำได้แน่นอน
...หวังว่าซักวัน เหงื่อคงหวาน...
อีกไม่นานครับ อีกไม่นาน
P' J เป็นกำลังใจให้ และจะรอดูความสำเร็จของน้อง ๆ "ครอบครัว J" ทุกคน
...นี่แหละ ความสุขของชีวิตเรือจ้าง...
Note: เราอาจจะเขียนอะไรวกวนไปบ้าง ออกนอกเรื่องบ้าง นึกอะไรได้ก็เขียน เพราะหลาย ๆ อย่างมันก็เชื่อมโยงกัน แต่ที่แน่ ๆ เราเขียนเองทุกตัวอักษรครับ ตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน เพราะหยักเรามากพอ :)
Wednesday, January 11, 2023
Oct/Sep 2016; จากวันนั้นถึงวันนี้
Oct/Sep 2016; จากวันนั้นถึงวันนี้ น้องทั้ง 2 คนเดินทางกันมาไกลนัก
6-7 ปี roadmap มันเกิดขึ้นได้ ถ้าวางแผนดี ๆ
จากวันนั้นที่พวกเราเจอกันครั้งแรกที่ Wollongong, P' J ยังจำวันนั้นได้ดี
วันที่น้องผู้หญิงร้องไห้ พอจะเห็นทางออกของชีวิต
ทุกวันนี้มันไม่ใช่แค่ทางออกครับ มันคืออนาคต
น้องทั้ง 2 กำลังจะตั้งรกรากกันที่นี่
จากแต่ก่อนที่เป็นพนักงาน เป็นลูกจ้างเค๊า ทำงานดูแลร้านให้กับเจ้าของร้านทุกสิ่งอย่าง วันนี้มันคงถึงเวลาของน้องทั้ง 2 แล้วสินะ กำลังจะมี cafe เป็นของตัวเอง
เป็นเจ้าของธุรกิจ
เหนื่อยแน่นอนครับ แต่คุ้มมากถึงมากที่สุด
P' J ผ่านจุดนั้นมาก่อน
P' J ผ่านจุดที่ต้องรูดบัตร credit หมุนเงินในธุรกิจไปมา
ถ้าเราล้ม เราอาจจะได้แผล
แต่ถ้าเรายอมแพ้ เราอาจจะไม่ได้อะไรเลย
ในวันที่เราสู้ สู้แบบ burn the bridge behind แล้ว ทุบหม้อข้าวหม้อแกงแล้ว ต้องชนะอย่างเดียว
ต้องสู้
ต้องสู้ จึงจะชนะ
0.001 ลิขิตฟ้า
99.999 คือต้องฝ่าฝัน
P' J รู้ว่าน้อง ๆ ทำได้
เป็นกำลังใจให้เสมอ
โยกย้าย ไม่ใช่เรื่องยากครับ ถ้าวางแผนดี ๆ มีที่ปรึกษาดี ๆ
ขอบคุณที่ให้ P' J และทีมงานเราเป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ ในความสำเร็จของน้อง ๆ ทั้งสองในครั้งนี้
ขอบคุณที่ให้เราเป็นเรือจ้าง....
Tuesday, January 10, 2023
Subclass 482; ไม่มีประสบการณ์การทำงานในออสเตรเลีย
"สมสวย" ถือวีซ่านักเรียน subclass 500
สมสวยก็เรียนอะไรสะเปะสะปะไปเรื่อย เรียนบริหารเอย การจัดการเอย การตลาดเอย เป็นไม้หลักปักเลนอยู่หลายปี
สมสวยก็ทำงานอะไรต่าง ๆ นานาไปเรื่อย ทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียน ซึ่งงก็ไม่แปลกสำหรับชีวิตนักเรียนต่างประเทศ ขอให้ได้เงิน
สมสวยอยู่ที่รัฐ NSW
สมสวยจับพลัดจับผลูอะไรยังไงไม่รู้ ช่วงออสเตรเลียขาดแคลนแรงงาน งานอะไรก็ค่อนข้างหาง่าย
สมสวยได้งานที่ Gold Coast, QLD
ตำแหน่ง "xyz"
แต่สมสวยไม่เคยทำงานในตำแหน่งนี้เลยที่ประเทศออสเตรเลีย
และสมสวยเองก็ไม่เคยทำงานกับนายจ้างคนนี้ที่จะทำเรื่องสปอนเซอร์สมสวย เพราะสมสวยเองก็อยู่ที่ NSW และนายจ้างอยู่ที่ QLD
ช่วงขาดแคลนแรงงาน อะไรก็เกิดขึ้นได้
โชคดีสมสวยมีประสบการณ์ในการทำงานในตำแหน่ง "xyz" ที่ไทยเป็นเวลา 2 ปี full-time
สมสวยมีจดหมายผ่านงานจากนายจ้างที่ไทย (เป็น template ของ J Migration Team ที่เราส่งให้ลูกค้าทุกคน)
สมสวยมี payslip จากเมืองไทย (ใช้ MS-Word ทำกันขึ้นมาแล้วกด save as "PDF" แหละดูออก แต่ก็ no judgemental จ๊ะ)
เมื่อสมสวยมีเอกสารครบ มีคุณสมบัติครบ สมสวยก็ทำเรื่องขอวีซ่าทำงานโดยที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ ทั้ง ๆ ที่สมสวยเองไม่เคยทำงานกับนายจ้างคนนี้มาก่อน และก็ไม่เคยทำงานในตำแหน่งนี้ประเทศออสเตรเลีย
คุณสมบัติของสมสวยคร่าว ๆ:
- เรียนที่ประเทศออสเตรเลียเกิน 5 ปี ไม่ต้องสอบภาษาอังกฤษ สำหรับคนที่จะขอ subclass 482
- วุฒิการศึกษาตรงกับตำแหน่งที่จะขอวีซ่า
- มีประสบการณ์มาจากเมืองไทย 2 ปี full-time, มีจดหมายผ่านงาน (work reference) มี payslip
subclass 482, ประสบการณ์จากที่ไหนก็ได้ครับ
subclass 482, เราไม่จำเป็นต้องเคยทำงานกับนายจ้างที่จะทำเรื่องสปอนเซอร์ให้เรา
หวังว่า case นี้จะตอบคำถามที่อยู่ในใจของใครหลาย ๆ
ขอบคุณน้องสมสวยที่เลือกใช้บริการของเรา
สินค้าดีใช้แล้วช่วยบอกต่อ
Note: "J Migratin Team" ไม่ใช่บริษัทจัดหางาน ไม่จับแพะชนแกะ และคุณสมบัติต่าง ๆ ของคนสมัครวีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ เราเคยเขียนไปแล้ว ลองไล่อ่านดูที่ http://jpp168immi.blogspot.com
Monday, January 2, 2023
ได้ PR จากแฟนคนเก่าด้วย subclass 186/187/189/190 แล้วจะทำเรื่องให้แฟนใหม่
ได้ PR จากแฟนคนเก่าด้วย subclass 186/187/189/190 แล้วจะทำเรื่องให้แฟนใหม่ เราสามารถทำอะไรได้บ้าง
1. ถ้าเราแต่งงานกับแฟนคนเก่า เราก็ต้องหย่ากับแฟนคนเก่าก่อน แต่ถ้าไม่ได้แต่งงานกับแฟนคนเก่า ทุกอย่างก็ง่าย หรือถ้าจด register of relationship กับแฟนคนเก่า เราก็ต้องไป revoke relationship กับแฟนคนเก่าก่อน
2. เรากับแฟนใหม่ไปจด register of relationship จดได้ทุกรัฐ ยกเว้น WA และ NT สำหรับคนที่อยู่ที่ WA หรือ NT ก็สามารถแต่งงานกันก็ได้ ถ้าแฟนใหม่อยู่ไทย ก็กลับไปแต่งงานกันที่ไทยได้
3. เมื่อได้ทำการจด register of relationship หรือจดทะเบียนสมรสที่ WA/NT เราก็สามารถทำเรื่อง Partner Visa Subclass 820 หรือ Subclass 309 ให้กับแฟนเราได้
4. เอกสารความสัมพันธ์ของเรากับแฟนใหม่จะต้องเกิดขึ้นหลังจากที่เราได้ PR จาก Subclass 186/187/189/190 เท่านั้น เอกสารความสัมพันธ์กับแฟนใหม่ก่อนที่เราจะได้ PR ไม่สามารถนำเอามาใช้ได้ เพราะตอนนั้นเรายังต้องคงความสัมพันธ์กับแฟนเก่าอยู่ เพื่อทำให้ตัวเราได้ PR
จบ
สร้างความร้าวฉาน คืองานของ P' J หรือเปล่า??
Copyright: แชร์จากต้นโพสต์เท่านั้น, ไม่อนุญาตให้ copy & paste, ไม่อนุญาตให้ screen capture