ช่วงนี้น้อง ๆ "ครอบครัว J" หลาย ๆ คนออกมาทำธุรกิจเองครับ
P' J ยินด้วยกับก้าวแรก ก้าวออกมาจาก comfort zone ของน้อง ๆ หลาย ๆ คน
ก้าวออกมาจากจุด ๆ เดิม เพื่อผลลัพธ์ที่แตกต่าง
คนเราถ้าทำอะไรเดิม ๆ ผลลัพธ์ก็จะออกมาเดิม ๆ นะครับ
อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม
จะล้ม จะลุก อย่างน้อยก็ได้ทำ
เด็ก ๆ สมัยนี้เก่งครับ คิดนอกกรอบกันเยอะ
แตกต่างจากสมัยที่ P' J เรียนอยู่ที่ UOW
สมัย P' J ยังละอ่อน เรียนอยู่ที่ UOW, เราไม่เคยมีความคิดในการออกมาทำธุรกิจอะไรของตัวเองเลย รู้แค่ว่าต้องเรียนให้จบ หางานทำ ไต่ corporate ladder มีเงินเยอะ ๆ มีบ้านหลังซักหลัง และรถซักคัน แล้วก็ retire
ตอนที่เรียนที่ UOW เราคิดแค่นี้จริง ๆ เหมือนเส้นชีวิตมันขีดเอาไว้แล้ว ว่าจบมหาลัย ก็ต้องหางานทำ เป็นลูกจ้างเขา ความคิดตอนเป็นเด็กหนะนะ ไม่ได้คิดอะไรไปไกล เอาแค่เรียนให้จบก่อนตอนนั้น
แต่สมัยนี้ โลกมันเปลี่ยนไปแล้วครับ
ข่าวสารข้อมูลอะไรต่าง ๆ อยู่แค่ปลายนิ้วมือ
เด็ก ๆ ออกมาทำธุรกิจกันเยอะ ซึ่งถือว่าดีมาก ๆ
ความคิดของ P' J เปลี่ยน เมื่อ P' J ได้มีโอากาสอ่านหนังสือของ Robert Koyosaki (Retire Young, Retire Rich) นั่นคือหนังสือเล่มที่จุดประกายทำให้ P' J ออกมาทำอะไรเอง จับผลัดจับผลูจนกลายมาเป็น "J Migration Team" ในทุกวันนี้
จาก "J Migration Team" วันนั้น 2008 มาถึงวันนี้ ชีวิตไม่ง่ายครับ
บริษัทเล็ก ๆ ที่เมืองเล็ก ๆ Wollongong
สมัยก่อน คนที่ Wollongong จะทำวีซ่าที ก็ต้องเดินทางเข้า Sydney ครับ ไอ้เราก็แค่มดตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง เพิ่งเริ่มเตาะแตะออกมาทำอะไรเองตอนนั้น; 2008
แต่ก่อน มี case ทำ 1 caseต่อ 1 เดือน ก็ดีใจตายห่าแล้วครับ แต่เราก็ทำธุรกิจอย่างอื่นด้วยครับ และปี 2010 P' J ก็รับราชการด้วย ควบคู่กับการเป็น "J Migration Team" ไปด้วย ก่อนที่จะเปลี่ยนงานจาก A ไป B เราต้องมีแผนสำรองก่อนเสมอนะครับ P' J ไม่ได้ jump ship จาก A ไป B เลย และงานหลาย ๆ งานเราก็ต้องไปเรียนเพิ่มเติม ค่า HECS นี่พุ่งกระฉุดมาก เพิ่งจ่าย HECS เสร็จเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้วเอง.... ขุ่นพระ!!! (HECS ก็คล้าย ๆ กยศ เมืองไทย)
ทำงาน 3 jobs เราก็ทำมาแล้วครับ
เรียน 2 มหาลัยควบ เราก็ทำมาแล้วครับ
ชีวิตต้องสู้
เงินทองไม่ได้หล่นลงมาจากฟากฟ้า เราไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง และจบ ป.ตรี แล้วก็ไม่มีสิทธิ์แบมือขอเงินจากทางบ้าน ทุกอย่างต้องทำเองจากสมองและสองมือที่มี เก็บเล็กผสมน้อย เก็บหอมรอมริบกันไป
ช่วงปี 2008-2010 ช่วงแรก ๆ ของการทำ "J Migration Team" ปีหนึ่งขอแค่มีเงินจ่ายค่า registration ของ MARN แค่นั้นพอ (บวกค่าประกันนั่น นี่ โน่น ก็ "ประมาณ" $4,500) เพราะเราก็มีงานอย่างอื่นทำด้วย ชีวิตก็พออยู่ได้ ไม่รวย แต่ไม่เป็นหนี้
หัวใจเราพองโตเสมอเมื่อน้อง ๆ หลาย ๆ คนบอกว่าเขาจะออกมาทำธุรกิจเอง บางคนที่เราสนิทหน่อย เราก็จะช่วยดันช่วย promote ใน facebook ส่วนตัวเราและใน page ส่วนตัวเรา แล้วคนก็ชอบมโนว่า P' J ต้องเป็นหุ้นส่วนแน่นอนเลย
P' J ไม่ต้องเป็นไปเป็นหุ้นส่วนอะไรกับใครครับ ชีวิตทุกวันนี้สบายดี ไม่ต้องหาเหาใส่หัว
ที่ promote อะไรต่าง ๆ นานาในสื่อส่วนตัวของ P' J ก็ทำไปเพราะ "รัก" แค่นั้นเอง
จงเป็นผู้ให้ ก่อนที่จะเป็นผู้รับ
ก็แค่นั้นเอง เราไม่ได้หวังผลอะไร เพราะชีวิตทุกวันนี้ "สบายดี"
การออกมาทำธุรกิจของเราเองเป็นการเริ่มต้นของการมี financial freedom, financial independent และต่าง ๆ นานา
ลองศึกษา cashflow quadrant ของ Robert Kiysaki ดูนะครับ แล้วจะรู้ว่าเราพูดถึงเรื่องอะไร
Cashflow quadrant:
- Employee คืออะไร
- Self-Employed คืออะไร
- Business Owner คืออะไร
- Investor คืออะไร
ESBI, เมื่อเราเดินทางมาถึง "I" Investor ชีวิตเราก็จะสบาย และตอนนี้ P' J ก็อยู่ที่ I นานแล้วครับ
เรื่องพวกนี้เราเขียนเอาไว้ที่ page ส่วนตัวค่อนข้างเยอะ ลองไปส่องกันดูได้; https://www.facebook.com/because.jpp
ล้ม ลุก เรียนรู้
หากเราตั้งใจจริง เราต้องทำได้แน่นอน P' J เอาใจช่วย และจะรอดูความสำเร็จของพี่ ๆ น้อง ๆ "ครอบครัว J" หลาย ๆ คน
การอออกมาทำธุรกิจอะไรของเราเอง แรก ๆ มันก็หนักหน่อยนะครับ แต่พี่รู้ว่าน้อง ๆ ทำได้
แรก ๆ มันก็ต้องทำอะไรเองหมดแหละ อันไหนซ่อมเองได้ก็ซ่อมเองก๊อก ๆ แก๊ก ๆ กันไป อันไหนต้องเรียกช่างก็ต้องเรียกช่าง
ทำความสะอาดร้านเอย เก็บกวาดร้านเอย ติดต่อ suppliers เอย อะไรต่าง ๆ นานา เตรียมตัวเปิดประตูต้อนรับลูกค้า
ร้านที่ต้อง set up ใหม่ "ส่วนมาก" landlord ก็จะให้ 1-month free rent เราก็ใช้เวลาที่เราได้ free rent มานี้จัดการอะไรทุกอย่างให้เสร็จสรรพ
ร้านที่ต้อง set up ใหม่
จะแตกต่างจากการซื้อธุรกิจแบบ walk-in walk-out นะครับ
ทุกคนที่จะทำธุรกิจ จะซื้อขายธุรกิจ จะเช่าร้านเพื่อทำธุรกิจ ทุกคนต้องมีทนายความส่วนตัวนะครับ Business Lawyer ต้องมี ลูกค้าของเรา เราก็แนะนำและส่งต่อ Andrew Lee แหละ (ทนายความส่วนตัวของ P' J ลองอ่านจากโพสต์ก่อนดู) ของดี ใช้แล้วเราก็บอกต่อจ๊ะ ไม่ได้ค่าโฆษณาหรือคอมมิชชิั่นอะไรใด ๆ (ไม่จำเป็น เพราะเราได้บริการที่ดีจาก Andrew Lee มากถึงมากที่สุดอยู่แล้ว)
Anyway... วกกลับมาที่เรื่องของการทำธุรกิจใหม่ ๆ ของน้อง ๆ "ครอบครัว J" ลูกค้าเราทั้งหลาย ถ้าใครคิดออกมาทำธุรกิจอะไรนะครับ ออกมาทำเลย ออกมาจาก comfort zone เราเชียร์เต็มที่ เพราะตัวเราเองก็เริ่มจากการทำงานเป็นลูกจ้างที่บริษัท แล้ววันหนึ่งออกมาทำธุรกิจเอง มันเป็นการตัวสินใจที่ถูกต้องที่สุด (สำหรับตัวเรานะ)
ล้ม เราอาจจะได้แผล
แต่ถ้าเรายอมแพ้ เราอาจจะไม่ได้อะไรเลย
สำหรับน้อง ๆ "ครอบครัว J" ที่ออกมาทำอะไรเองนะครับ
เราเป็นกำลังใจให้
สมัยนี้ข้อมูลอะไรต่าง ๆ นานามันก็เยอะ ไม่ต้องงมเข็มในมหาสมุทรเหมือนที่ P' J ออกมาทำธุรกิจใหม่ ๆ
แรก ๆ อาจจะหนักหน่อย ต้องทำอะไรหลาย ๆ อย่างเอง
แต่พอทุกอย่างเริ่มลงตัว เริ่มมีทีมงาน ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
ทำงานเป็นเจ้าของธุรกิจ อย่าลืมให้ค่าแรงตัวเองด้วยนะครับ ตอนที่ P' J ออกมาทำธุรกิจเองใหม่ๆ ไม่มีใครบอก ไม่มีใครแนะนำ ไม่ได้หักเงินค่าแรงตัวเอง บัญชีทุกอย่างมั่วมากตอนนั้น ตอนนั้นอ่อนต่อโลกจริง ๆ โลกของการทำธุรกิจ ทุกวันนี้ทุกอย่างเป็นระบบมาก มี bookkeeper มี accountant คอยดูแล และทำบัญชีกันรายเดือน ไม่ได้ทำแบบไตรมาส 3 เดือนครั้ง
P' J เองก็ค่อย ๆ ขยับตัวเองจาก E -> S -> B -> I
And never looked back
น้อง ๆ เด็กใหม่ไฟแรง มีแรงก็ทำไปเถอะ
อย่าคิดเยอะ
อย่าคิดนาน
คิดแล้ว ทำ
ทำทันที
ดูอย่าง P' J นึกอยากจะทำสินค้า "เจย์ ดอกจิก" P' J ก็ทำเลย ไม่คิดนาน คิดแล้วทำ ทำทันที เวลาและสายน้ำไม่เคยคอยใคร
อย่าให้ใครมาดับฝันเราได้
มีแค่เราเท่านั้นที่จะดับฝันเราได้
กุมบังเหียนชีวิตของเราให้ดี ๆ รู้ว่าจุดหมายปลายทางเราอยู่ที่ไหน
From Zero To Hero จากสมองและสองมือที่ดี น้อง ๆ ทำได้แน่นอน
...หวังว่าซักวัน เหงื่อคงหวาน...
อีกไม่นานครับ อีกไม่นาน
P' J เป็นกำลังใจให้ และจะรอดูความสำเร็จของน้อง ๆ "ครอบครัว J" ทุกคน
...นี่แหละ ความสุขของชีวิตเรือจ้าง...
Note: เราอาจจะเขียนอะไรวกวนไปบ้าง ออกนอกเรื่องบ้าง นึกอะไรได้ก็เขียน เพราะหลาย ๆ อย่างมันก็เชื่อมโยงกัน แต่ที่แน่ ๆ เราเขียนเองทุกตัวอักษรครับ ตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน เพราะหยักเรามากพอ :)
No comments:
Post a Comment