ก่อนอื่นเราก็ต้องขอปรบมือให้กับ case officer ก่อนนะครับ เพราะถ้าเราเป็น case officer เราก็คงไม่ให้ผ่านเหมือนกัน คนอะไรเรียนกันตั้ง 8 ปีเลยเหรอ เรียนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่ไปหน้ามาหลัง ก็ถูกต้องแล้วหละที่ทาง case officer ไม่ยอมให้ผ่าน
สรุปก็คือ case officer ก็พอจะดูออกว่าคงไม่ใช่คนที่ตั้งใจจะมาเรียนอะไรจริงจัง เพราะลงเรียนต่อ college แล้วก็เปลี่ยน course ลงไปมา ดูเหมือนว่าเรียนย่ำอยู่กับที่ ไม่มีการก้าวหน้า
เราเคยเขียน blog เอาไว้แล้วนะครับ ว่าวีซ่านักเรียนไม่ได้สามารถต่อไปได้เรื่อยๆ
พอน้องต่อวีซ่าไม่ผ่าน น้องก็มีเวลาในการที่อุทรณ์ภายใน 21 วัน
ถ้าถามเรา เราก็บอกว่าอุทรณ์ไปก็คงไม่ผ่านหรอก แต่น้องเขาก็สามารถอุทรณ์เพื่อซื้อเวลา ก็เท่านั้นเอง เพราะในระหว่างที่รอเรื่องการอุทรณ์ที่ AAT น้องเขาก็สามารถหาทางออกในเรื่องของวีซ่าได้ ถึงแม้ว่าตอนที่อุทรณ์น้องเขาจะถือ Bridging Visa A ก็เถอะ มันก็พอมีวิธี แต่เราก็ต้องบอกเอาไว้ก่อนนะครับว่าสถานการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สถานการณ์ของน้องเขาเป็น แบบนี้ แบบนี้..... เราก็เลยแนะนำน้องเขาไป แบบนี้... แบบนี้:
Subclass 457
ทำวีซ่าทำงานโดยที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ เพราะว่าน้องเขามีญาติที่เปิดร้านนวด แต่น้องเขาไม่ได้จบหรือเรียนมาทางด้านนวด แต่ก็ทำได้นะครับ ขั้นตอนที่เราแนะนำคือ:
- อุทรณ์เรื่องไปที่ AAT ภายใน 21 วัน น้องก็จะได้ Bridging Visa A
- ไปทำ RPL, Diploma Remedial Massage Therapist, ปกติก็ประมาณ 5-6 weeks ได้ ถ้าเอกสารครบนะครับ
- ทางร้านทำวีซ่า subclass 457, Stage 1: Standard Business Sponsor (SBS) และ Stage 2 Nomination ในระหว่างที่น้องเขาอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียได้
- เนื่องด้วยน้องเขาถือ Briding Visa A และน้องเขาก็โดนวีซ่า refusual มาจากวีซ่านักเรียนด้วย ดังนั้นน้องเขาจะโดน section 48 คือ ไม่สามารถยื่นเรื่องขอวีซ่าภายในประเทศออสเตรเลีย แต่ก็ไม่เห็นยากอะไรนะครับ ตอนนี้น้องเขาถือ Bridging Visa A, น้องเขาก็สามารถขอ Briding Visa B ได้ เพื่อเดินทางออกไปข้างนอกประเทศได้ (ออกได้ไม่เกิน 3 เดือน)
- พอน้องเขาขอ Bridging Visa B, น้องเขาเดินทางออกไปนอกประเทศออสเตรเลียได้ จะไปเมืองไทย ไปบาหลี ไป Fiji หรือไป New Zealand อะไรก็ว่าไป เราก็สามารถยื่นวีซ่าทำงานโดยมีนายจ้างสปอนเซอร์มาจากข้างนอกประเทศออสเตรเลีย offshore ได้ครับ
- พอน้องเขายื่นเรื่องมาจากข้างนอกเสร็จ น้องเขาก็ยังสามารถกลับเข้ามาประเทศออสเตรเลียด้วยวีซ่า Bridging Visa B เพื่อที่จะรอวีซ่า subclass 457 เพราะวีซ่า subclass 457 (รวมไปถึง subclass 186 ENS และ subclass 187 RSMS) นั้นสามารถยื่นที่ใหนก็ได้ และสามารถรอวีซ่าอยู่ที่ใหนก็ได้
- ในระหว่างที่น้องเขารอเรื่องอุทรณ์ของ AAT ซึ่งก็คงจะต้องใช้เวลานาน; 203 วัน โดยเฉลี่ย (6-7 เดือน) เรามั่นใจว่าวีซ่า subclass 457 ถ้าเอกสารครบ อะไรครบ วีซ่าก็น่าจะออกได้ภายใน 6-8 weeks
Partner Visa
เนื่องด้วยน้องคนนี้ ตอนนี้ก็กำลังคบหาอยู่กับคนๆหนึ่งซึ่งเขาก็สามารถทำเรื่องสปอนเซอร์ให้น้องทำ Partner Visa ได้ ถึงแม้ว่าน้องกับแฟนคนนี้จะคบหากันยังไม่ถึง 12 เดือนก็ไม่เป็นไรครับ เพราะที่ NSW น้องสามารถไปจด register of relationship แล้วก็ยื่นทำเรื่องได้เลย ไม่ต้องรอให้ครบ 12 เดือน
แต่ก็อีกแหละ น้องเขาไม่สามารถยื่น Partner Visa ได้ที่ประเทศออสเตรเลีย เพราะน้องติด section 48 (วีซ่านักเรียนไม่ผ่าน visa refusal)
แต่น้องเขาก็สามารถยื่น Partner Visa ได้คล้ายๆกับการยื่นวีซ่าทำงานโดยมีนายจ้างสปอนเซอร์ visa subclass 457 ด้วยการเดินทางออกไปยื่นข้างนอกประเทศเป็น offshore พอยื่นเสร็จน้องเขาก็สามารถกลับเข้ามารอเรื่องอุทรณ์จาก AAT ได้ พอเรื่องผลของการอุทรณ์จาก AAT ออกมา ซึ่งดูท่าทางก็คงไม่ผ่านอยู่แล้ว น้องเขาก็สามารถบินออกไปรอเรื่องต่ออยู่ที่เมืองไทย แต่อย่างน้อย เนื่องด้วย Bridging Visa A ของน้องที่ได้มาจาก AAT น้องเขาก็สามารถใช้เวลาอย่างน้อย 6-7 เดือน (203 วันโดยเฉลี่ย) อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เพื่อที่จะอยู่กับแฟน หรือทำงานอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย หรืออะไรก็ว่าไป
แล้วเวลาที่เหลือน้องเขาก็สามารถออกไปรอ Partner Visa อยู่ที่เมืองไทยอีกประมาณ 5 เดือน เพราะ Partner Visa ก็ใช้เวลาในการ process โดยประมาณแล้วก็อยู่ที่ 12 เดือน
หลายๆคนคงจะอ่านแล้วงง เพราะข้อมูลมันอาจจะเยอะไปหน่อย เดี๋ยวเอาเป็นว่า เราจะเขียนให้เป็น step-by-step ก็แล้วกันนะครับ:
- อุทรณ์เรื่องไปที่ AAT ภายใน 21 วัน เหมือนข้างบนเลย น้องก็จะได้ Bridging Visa A
- ทำเรื่องจด register of relationship ที่ NSW
- ขอ Bridging Visa B เพื่อบินออกไปยื่น Partner Visa ข้างนอกประเทศ เป็น offshore
- บินกลับเข้ามาประเทศออสเตรเลียภายใน 3 เดือนด้วย Bridging Visa B
- อยู่รอผลการอุทรณ์ ซึ่งก็จะใช้เวลาประมาณ 6-7 เดือนโดยประมาณ
- พอผลการอุทรณ์ออกซึ่งก็ไม่น่าจะผ่านอยู่แล้ว น้องก็บินกลับไปรอเรื่องต่ออยู่ที่เมืองไทย
- พอเรื่อง Partner Visa ผ่าน น้องก็สามารถบินกลับเข้ามาที่ประเทศออสเตรเลียได้ ด้วย Partner Visa
นี่คือคำแนะนำของเรานะครับ ส่วนน้องเขาจะเข้าใจหรือทำตามหรือเปล่านั้นเราไม่รู้ เพราะเราเองก็เข้าใจว่าน้องเขาก็ไปปรึกษาที่อื่นเหมือนกัน แต่บางที่บอกว่า ยื่นอะไรไม่ได้เลย!!!
ปรึกษาใคร ปรึกษาอะไรก็ต้องดูด้วยนะครับ คนที่เราปรึกษาด้วยต้องมี MARN ที่ถูกต้องตามกฏหมาย ไม่ใช่เป็นแค่พนักงานหน้า counter เท่านั้น
หรือไม่ใช่เพียงเพราะเห็นเขาไป post นั่น นี่ โน่น ใน Internet ตาม group หรือ webboard ต่างๆ เช็ค credential เขาด้วยก็แล้วกัน
No comments:
Post a Comment