ยินดีด้วยกับ "ใคร someone" 2 คน "ครอบครัว J"
กับชีวิตที่จับต้นชนปลายไม่ถูกเมื่อหลายปีก่อน
กับชีวิตของเด็กที่เดินทางมาใช้ชีวิตที่ต่างประเทศครั้งแรก (ถ้าข้อมูลผิดพลาด P' J ขออภัย)
กับชีวิตที่ถูกเพื่อน ๆ คนไทยด้วยกันแนะนำอะไรต่าง ๆ นานาไปในทางที่ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่
กับคำแนะนำที่ว่า "ไม่ต้องไปเรียนหรอก ทำงานเก็บเงินเยอะ ๆ " แล้วมันก็มีผลตามมา ถ้าเราไม่ไปเรียน
กับชีวิตที่เคยอยู่ด้วยความหวาดผวา
กับชีวิตที่ต้องวิ่งหนีการไล่จับของอิมมิเกรชั่น
กับชีวิตที่เห็นอิมมิเกรชั่นจับเพื่อนไปต่อหน้าต่อตา เฉียดฉิวไม่กี่นาที โชคดีตอนนั้นน้องไม่อยู่บ้าน
กับชีวิตที่ไปไหนมาไหนก็ต้องมีเงินสดพกติดตัวหลายพัน เพื่อซื้อตั๋วกลับบ้านเมื่อโดนอิมมิเกรชั่นจับ
กับความรู้ที่แต่ก่อนไม่ได้มีมากตาม Internet หรือ social media
ไม่กล้าแม้แต่จะเดินทาง domestic ต่างรัฐ
เมื่อเหตุการณ์เฉียดฉิวการโดนจับของอิมมิเกรชั่น
น้องตัดสินใจเข้ามาปรึกษาเมื่อ Oct/Sep 2016 เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
P' J ก็ทำ roadmap การเป็น PR ให้ เพราะ profile น้องค่อนข้างดีในเรื่องของวุฒิการศึกษาจากเมืองไทย
ประสบการณ์การทำงานที่นี่ ถึงแม้ว่าแต่ก่อนไม่มี payslip ไม่มีการจ่ายภาษี เราก็มาเริ่มใหม่ได้ ทุกอย่างยังไม่สาย เพราะน้องทำงานดี นายจ้างรัก นายจ้างพร้อมสนับสนุน และน้องก็พร้อมสู้ในเรื่องของการสอบภาษาอังกฤษ
ก็น้องติวสอบภาษาอังกฤษจาก IELTS overall ประมาณ 4.5
จนได้ IELTS general 7 each band
ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ถ้าตั้งใจจริง ข้ออ้างอย่าเยอะ
เหตุการณ์เมื่อ 2016, 6 ปีที่แล้ว P' J ยังจำขึ้นใจ
น้องร้องไห้ด้วยความดีใจ ว่าชีวิตยังพอไปต่อได้บ้าง เพราะน้องทั้ง 2 คนอยู่ด้วยความหวาดผวามานาน น้องเริ่มมีทางออก กล้าที่จะกลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนทั่ว ๆ ไป
กล้าขับรถไปไหนมาไหนได้
กล้าที่จะเดินทางเที่ยวต่างรัฐได้ เริ่มกลับมาใช้เหมือนคนอื่น ๆ เขา
P' J ก็วาง roadmap ให้น้องเอาไว้ 3 ทาง:
- Plan A; วุฒิการศึกษาที่น้องมีจากเมืองไทย โชคดีอยู่ใน long-term list สามารถขอ PR ได้ด้วยตัวเอง; Independent Skilled Visa; subclass 189
- Plan B; เรียนเพิ่มเติมที่นี่ เลือกสาขาอาชีพที่อยู่ใน long-term list แล้วทำ Skilled Migrant Visa; subclass 189, subclass 190, subclass 491 (สมัยก่อนคือ subclass 489)
- Plan C; เรียนเพิ่มเติมที่นี่ เหมือน Plan B แต่หานายจ้างสปอนเซอร์ แล้วขอ PR โดยใช้ pathway ของ Subclass 482, Subclass 186
น้องเลือก way ไหน เอาเป็นว่าเป็น privacy ของลูกค้านะครับ
เอาเป็นว่าชีวิตของน้องตอนนี้ใกล้ถึงเส้นชัยแล้วครับ
น้องมีวีซ่าเข้าออกประเทศได้เลย ไม่ใช่ Bridging Visa จ๊ะ
น้องได้วีซ่าจริง ๆ จัง ๆ เป็นเรื่องเป็นราว แต่ขออุบเอาไว้ละกันว่า subclass ไหน
หลังจากที่ไม่ได้กลับเมืองไทยมา 10 ปี และ 12 ปี
น้องทั้งสองได้กลับไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่าย
และที่สำคัญได้จดทะเบียนสมรสกันแล้วครับ
ในที่สุด สุดที่รัก
น้องได้กลับไปย้อนวัย "รักแห่งสยาม" กัน
สมัยเมื่อยังละอ่อน
ยินดีด้วยกับน้องทั้ง 2
กับ 6 ปีที่ได้ดูแลน้อง ๆ มา
วันนี้เห็นน้องใกล้ถึงฝั่งฝัน
น้องกำลังจะทำธุรกิจอะไร something เป็นของตัวเองด้วยที่ออสเตรเลีย
จากใคร someone ที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ
จากใคร someone ที่ต้องถือเงินติดตัวตลอดเวลาเอาไว้ซื้อตั๋วกลับบ้านถ้าโดนอิมมิเกรชั่นจับ
แสงสว่างที่ปลายทางมีจริง
หากเราวางแผนดี ๆ step-by-step; 1-2-3-4
กฎหมายอิมมิเกรชั่น ควรปรึกษาจากคนที่มี MARN ครับ
เรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรอ่านอะไรใน "พันถีบ" หรือ facebook group ต่าง
อ่านอะไรตาม facebook group ต่าง ๆ อย่าลืมดู credential ของคนเขียน ดู credential ของคนโพสต์ด้วยว่าเขามีคุณสมบัติครบในการเขียนหรือให้ข้อมูลหรือเปล่า
เรื่องบางเรื่อง เราก็ต้องปล่อยให้คนที่ทำงานอยู่ใน field นั้นเป็นคนจัดการ
P' J เห็น YouTubers หลาย ๆ คนออกมาให้ข้อมูลเรื่องวีซ่า ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ qualify รู้สึกเป็นห่วงเหลือเกิน
P' J เห็น bloggers หลาย ๆ คนออกมาให้ข้อมูลเรื่องวีซ่า ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ qualify รู้สึกเป็นห่วงเหลือเกิน
P' J เห็นคนออกมา review การโยกย้ายต่าง ๆ นานา ก็เกิดกระแสแมงเม่าขอวีซ่าท่องเที่ยว ขอวีซ่านักเรียนทั้ง ๆ ที่เขาไม่น่าจะขอตั้งแต่แรก เพราะคุณสมบัติไม่ครบ วัน ๆ มีคนส่ง refusal letter มาให้ P' J อ่านเยอะมาก
ที่นี่ออสเตรเลีย ไม่ใช่ กรุงเทพ-เชียงใหม่ ที่จะได้ซื้อตั๋วแล้วบินได้เลย
เรื่องบางเรื่อง หาที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้นะครับ
เรื่องบางเรื่อง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนที่มี MARN นะครับ
เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ต้องการมีแสงสว่างที่ปลายทาง
ทุกการกระทำ ทุกการตัดสินใจ
มันจะผลที่ตามมาเสมอ
Fail to plan = Plan to fail นะครับ
คิด
วิเคราะห์
แยกแยะ
ให้ดี ๆ นะครับ
ศีลเสมอแล้วเจอกัน