อย่างที่ผมเคยเอาไว้คราวก่อนๆว่า วีซ่าอะไรๆก็ทำธุรกิจได้ และผมก็ได้เน้นเอาไว้ด้วยเหมือนกันว่า ทำงานได้ กับ ทำธุรกิจได้ นั้นไม่เหมือนกัน หากใครยังไม่อ่านก็แนะนำให้ลองอ่านกันดูนะครับ
สำหรับคนที่ถือวีซ่า 457 และโดยเฉพาะคนที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ ไม่ใช่กลุ่มที่สปอนเซอร์ตัวเอง เราต้องดู visa conditions ของเราด้วยนะครับ เพราะว่าวีซ่า 457 เราจะเป็นเบี้ยล่างนายจ้างนะครับ ขอใช้ภาษาง่ายๆนะครับ ชีวิตเราแขวนไว้กับนายจ้างนะครับ ดูมันเศร้าๆยังไงบอกไม่ถูกน๊อ แต่มันก็จริงนี่นา
visa conditions ของวีซ่า 457 มีบอกเอาไว้ว่าเราต้องทำงานให้กับนายจ้างที่ทำเรื่องสปอนเซอร์ให้เราเท่านั้น ก็เค๊าสปอนเซอร์เราแล้วหนิ มันก็ make sense ที่เราต้องทำงานให้เค๊า อย่างน้อยก็จนกว่าเราจะได้ PR แหละ
เราไปทำงานกับนายจ้างเจ้าใหม่ไม่ได้ นอกเสียจากนายจ้างเจ้าใหม่จะทำเรื่องสปอนเซอร์เรา ซึ่งเราก็สามารถเปลี่ยนสปอนเซอร์ได้อยู่แล้ว
แต่ก็อย่าลืมว่าความฝันของคนหลายๆคนคือการอยากได้ PR กัน และถ้าอยากได้ PR กัน เราก็ต้องทำงานให้กับนายจ้างนั้นไปจนถึง 2 ปี (Transitional Stream) ถ้าเราเปลี่ยนนายจ้าง เราก็ต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ ต่อให้เราซื้อธุรกิจแล้วสปอนเซอร์ตัวเองก็เถอะ มันก็ถือว่าเป็นนายจ้างเจ้าใหม่ new employer อยู่ดี เพราะเป็น ABN หรือ ACN ตัวใหม่ เราก็ต้องมานั่งเริ่มต้นนับใหม่อยู่ดี
ก็มีหลายคนนะครับ ที่ทำงานอยู่กับนายจ้างแล้วก็คิดอยากจะซื้อกิจการต่อจากนายจ้างกัน เพราะเราเองก็ทำงานอยู่ที่นั่นมา รู้ระบบการบริหารอะไรต่างๆนาๆ ก็เลยคิดว่าจะซื้อและเซ้งกิจการจากนายจ้างสะเลย อะไรประมาณนั้น
จะยังไงเสียก็แนะนำให้คิดให้ดีๆนะครับ คิดหน้า คิดหลัง ทั้งแง่ดีและแง่บวก
ชีวิตคนเรามันก็ต้องมีการเดินไปข้างหน้าแหละนะ จะให้เรามามัวย่ำอยู่กับที่ก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่เราก็ต้องคิดต้องวางแผนงานอะไรนิดหนึ่งนะครับ
ถ้าเราไม่ mind ที่จะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เราก็สามารถซื้อธุรกิจได้ แล้วเอาธุรกิจเรามาสปอนเซอร์ตัวเองได้ แต่อย่าลืมว่าถ้าเราเปิดธุรกิจใหม่ ธุรกิจไม่ถึง 12 เดือน เวลา approve ธุรกิจสปอนเซอร์ก็จะสปอนเซอร์ได้แค่ 1.5 ปีเองนะครับ พอเปิดธุรกิจไปได้ถึง 12 เดือนก็ค่อยมาทำเรื่องสปอนเซอร์อีกรอบ เพราะถ้าไม่งั้นเราก็ทำงานไม่ถึง 2 ปี ทำ PR ไม่ได้
อีกแหละ ถ้าไม่ mind ที่จะทำเรื่องสปอนเซอร์รอบที่ 2 ก็ไม่เป็นไร เพราะของแบบนี้ สถานการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หลายๆคนก็เบื่อที่จะเป็นลูกจ้าง ซึ่งตรงจุดนี้เราก็ไม่ว่ากันครับ
ที่เขียนมานี้ก็เพื่อเป็นข้อมูลให้คนได้อ่านกันนะครับ เพราะก็มีพี่ๆเค๊าโทรมาปรึกษา...
Just another วิทยาทาน จาก J Migration Team นะครับ อ่านแล้วชอบก็บอกต่อนะครับ...
No comments:
Post a Comment