Friday, August 21, 2015

ยื่น Partner Visa ไม่อยากไปเรียน


มีคำถามยอดฮิตจากหลาย ๆ คน ที่ถือวีซ่านักเรียนว่าถ้ายื่น Partner Visa ไปแล้วไม่ไปเรียนได้มั๊ย เพราะบางคนได้วีซ่านักเรียนมายาวเลยทีเดียว สาเหตุที่หลาย ๆ คนไม่อยากไปเรียนกันก็เพราะว่าค่าเรียนแพง และอยากจะเอาเวลามาทำงานมากกว่า หรือเก็บเงินเพื่อทำธุรกิจครอบครัวเล็ก ๆ หลังจากที่วีซ่าผ่านแล้ว

คำตอบคือ จริง ๆ แล้วก็ไม่ควรนะครับ ก็แนะนำให้ไปเรียนตามปกติจนกว่าวีซ่านักเรียนจะหมด หรือจนกว่าผล Partner Visa เราจะออก เพราะจะได้ไม่ไปขัดกับ condition ของวีซ่านักเรียนที่เราต้องเรียนไปจนกว่าวีซ่าจะหมด

แต่ถ้าถามว่าจริง ๆ แล้วว่า หลังจากยื่น Partner Visa แล้ว ไม่ไปเรียนได้มั๊ย จริง ๆ แล้วทำได้ครับ มีวิธีคือ:

  • หลังจากที่ยื่น Partner Visa ไปแล้ว เราก็จะได้ Bridging Visa A ซึ่งก็มีเอาไว้เพื่อรอฟังผล Partner Visa ของเรา
  • พอเราได้ Bridging Visa A มา, แต่เนื่องด้วยวีซ่านักเรียนเรายังไม่หมด และเรายังคงต้องไปเรียนอยู่เหมือนเดิน พอเราไม่ไปเรียน ทางโรงเรียนก็จะมีการแจ้งไปที่อิมมิเกรชั่น แล้วอิมมิเกรชั่นก็จะ cancel วีซ่าของเรา วีซ่าที่โดน cancel คือจะ cancel ทั้งวีซ่านักเรียนและ Bridging Visa A
  • พอวีซ่าเราโดน cancel ปุ๊บ เราก็สามารถสมัครขอ Bridging Visa E ได้ ซึ่ง Bridging Visa E ตัวนี้ จะเอามาใช้แทน Bridging Visa A ที่ถูกออกให้มาก่อนหน้าโน้น
  • เสร็จแล้วเราก็ถือ Bridging Visa E นี่แหละ อยู่รอฟังผล Partner Visa ของเราไปเรื่อยๆ จนกว่าผลวีซ่าของเราจะออก
การถือ Bridging Visa E ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ

ข้อดีคือ:
  • เราไม่ต้องไปเรียนแล้ว ไม่ต้องไปเสียค่าเรียนแพง ๆ อีกต่อไป
  • จริงๆแล้ว Bridging Visa E ไม่สามารถทำงานได้ แต่เราสามารถทำเรื่องขอทำงานได้ทีหลัง
ข้อเสียคือ:
  • เราจะไม่สามารถเปลี่ยน Bridging Visa E เป็นวีซ่าอะไรอย่างอื่นได้เลย เปลี่ยนกลับไปเป็น Bridging Visa A ก็ไม่ได้ คือ Bridging Visa E ที่ได้มา มีเอาไว้เพื่อรอฟังผล Partner Visa อย่างเดียว
  • Bridging Visa E ไม่สามารถเดินทางได้ เพราะจาก Bridging Visa E จะเปลี่ยนไปขอเป็น Bridging Visa B ที่สามารถเดินทางออกนอกประเทศไม่ได้ ดังนั้นคนที่คิดจะทำ Bridging Visa E คือหลาย ๆ คนที่ไม่อยากไปเรียน ต้องคิดให้ดี ๆ ก่อนว่าเราจะมีความจำเป็นอะไรที่ต้องเดินทางออกนอกประเทศหรือเปล่า เพราะถ้าได้ Bridging Visa E แล้ว คือเราเดินทางไม่ได้เลย จะกลับไปเยี่ยมคนที่เมืองไทยอะไรก็ไม่ได้ เราต้องอยู่รอผลวีซ่าจนกว่าผล Partner Visa เราจะออก ซึ่ง standard waiting time ตอนนี้อยู่ที่ 12 เดือน
สรุปทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ เราจะเลือกเอาสิ่งใหนก็ลองคิดและไตร่ตรองกันให้ดี ๆ นะครับ

นี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถทำได้โดยถูกกฏหมาย สำหรับน้องๆหลายคนที่สอบถามกันเข้ามา เพราะมีหลายคนที่ทำเรื่อง Partner Visa กับแฟนแล้ว และไม่อยากไปเรียน เพราะอยากทำงานเก็บตังค์ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็สามารถทำได้

No comments:

Post a Comment